สรรพคุณของยา Risperidone
ยา Risperidone เป็นยาสำหรับรักษาโรคทางจิตเวช (Mental/Mood disorders) เช่น
- อาการหงุดหงิดฉุนเฉียวที่สัมพันธ์กับโรคออทิสติก (Autistic disorder)
- โรคจิตเภท (Schizophrenia)
- โรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวน 2 ขั้ว (Bipolar disorder)
โดยยาจะช่วยให้คุณมีความคิดไปในทางที่ดี สมองปลอดโปร่ง และช่วยให้คุณทำกิจกรรมประจำวันได้ดียิ่งขึ้น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยา Risperidone จัดเป็นยารักษาโรคจิตกลุ่มใหม่ (Atypical antipsychotics) ที่ออกฤทธิ์โดยการปรับสมดุลของสารเคมีตามธรรมชาติในสมอง (สารสื่อประสาท)
วิธีใช้ยา Risperidone
รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง โดยสามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ โดยทั่วไปจะรับประทานวันละ 1 หรือ 2 ครั้ง
ถ้าคุณใช้ยา Risperidone ในรูปแบบยาน้ำ คุณต้องตวงยาโดยใช้อุปกรณ์ตวงยาและช้อนตวงยาโดยเฉพาะ อย่าใช้ช้อนรับประทานอาหารตวงยา เพราะอาจทำให้ได้รับขนาดยาไม่ถูกต้อง
ในกรณีที่แพทย์แนะนำให้ผสมยากับของเหลวอื่นได้ คุณอาจผสมยาที่ตวงแล้วกับของเหลวอื่นในปริมาณเล็กน้อย (ประมาณ 100 มิลลิลิตร หรือ 3-4 ออนซ์) เช่น นมไขมันต่ำ น้ำเปล่า กาแฟ น้ำส้ม ห้ามผสมยานี้กับน้ำโคล่า หรือน้ำชา
เมื่อผสมส่วนผสมแล้วให้รับประทานทันที อย่าเตรียมยาผสมไว้ล่วงหน้า และหากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากเภสัชกร
ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับการตอบสนองต่อการรักษา อายุ สภาวะโรค และยาอื่นๆ ที่คุณอาจใช้อยู่ในขณะนี้ ดังนั้นจึงต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบว่าคุณกำลังใช้ยา อาหารเสริม และสมุนไพรใดอยู่ในขณะนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากนี้เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงจากยา แพทย์อาจให้คุณเริ่มยาในขนาดต่ำ และค่อยๆ ปรับเพิ่มขนาดยาขึ้น ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
คุณต้องรับประทานยานี้เป็นประจำจึงจะได้ประโยชน์จากยานี้เต็มที่ เพื่อไม่ให้ลืม แนะนำให้รับประทานในเวลาเดียวกันของทุกวัน นอกจากนี้คุณจะต้องรับประทานยานี้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะรู้สึกอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม ห้ามหยุดยานี้เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
ให้แจ้งแพทย์ หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง
ผลข้างเคียงของยา Risperidone
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยา Risperidone ได้แก่
- ง่วงนอน
- เวียนศีรษะ
- หน้ามืด
- น้ำลายไหล
- คลื่นไส้
- น้ำหนักเพิ่ม
- อ่อนเพลีย
ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
อาการเวียนศีรษะและหน้ามืดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มได้ จึงแนะนำให้ลุกขึ้นช้าๆ เมื่อต้องเปลี่ยนจากท่านั่งหรือท่านอน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
ผลข้างเคียงรุนแรงจาก Risperidone
หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที เพราะถือเป็นผลข้างเคียงรุนแรง
- ตัวสั่น
- กลืนลำบาก
- กล้ามเนื้อหดเกร็ง
- มีการหยุดหายใจขณะนอนหลับ
- อารมณ์ สภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง เช่น วิตกกังวล กระสับกระส่าย
ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ถ้ามีอาการที่ร้ายแรงมาก ได้แก่ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง หน้ามืด มีอาการชัก
ผลข้างเคียงอื่นๆ ของยา Risperidone
- ยา Risperidone อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ (พบได้น้อย) ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคเบาหวาน หรือทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานมีอาการแย่ลง ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทันทีถ้ามีอาการของระดับน้ำตาลในเลือดสูง เช่น หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย หากคุณเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่แล้ว ให้ตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองเป็นประจำตามที่แพทย์สั่ง และนำผลการตรวจไปให้แพทย์ดูด้วย เพราะแพทย์อาจจำเป็นต้องปรับยารักษาโรคเบาหวาน ปรับคำแนะนำในการออกกำลังกาย และปรับคำแนะนำในการรับประทานอาหารให้กับคุณ
- ยา Risperidone อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล (Cholesterol) หรือไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ได้ โดยผลที่เกิดขึ้นหากเป็นร่วมกับโรคเบาหวานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้ จึงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้
- ยา Risperidone อาจเป็นสาเหตุของกลุ่มอาการยึกยือ (Tardive dyskinesia) ได้ ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการนี้อย่างถาวร ดังนั้นให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้ามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ควบคุมการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อไม่ได้ โดยเฉพาะที่ใบหน้า ริมฝีปาก ปาก ลิ้น แขน หรือขา
- ยา Risperidone อาจทำให้ร่างกายสร้างสาร Prolactin เพิ่มมากขึ้น ในเพศหญิงเมื่อมีสาร Prolactin เพิ่ม อาจทำให้น้ำนมไหลโดยไม่ต้องการได้ ทำให้ประจำเดือนขาดหายไป หรือทำให้ตั้งครรภ์ยาก ส่วนในเพศชายอาจทำให้ความสามารถทางเพศลดลง การผลิตตัวอสุจิลดลง หรือทำให้เต้านมโตได้ ดังนั้นถ้ามีอาการดังกล่าวให้แจ้งแพทย์ทันที
- ยา Risperidone อาจทำให้เกิดกลุ่มอาการที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรงมาก คือ กลุ่มอาการเอ็นเอ็มเอส (Neuroleptic malignant syndrome (NMS)) ดังนั้นต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการ มีไข้ กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง ปวดกล้ามเนื้อ กดเจ็บที่กล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง อ่อนเพลียอย่างรุนแรง มีอาการสับสนรุนแรง เหงื่อออก หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ปัสสาวะมีสีเข้ม มีอาการของปัญหาที่ไต เช่น ปริมาณปัสสาวะเปลี่ยนแปลงไป
ที่พบได้น้อย ผู้ชายอาจมีอาการปวดที่อวัยวะเพศ หรืออวัยวะเพศแข็งตัวนานตั้งแต่ 4 ชั่วโมงขึ้นไป ถ้ามีอาการนี้เกิดขึ้น ให้หยุดใช้ยา และไปพบแพทย์ทันที ซึ่งอาการข้างเคียงนี้อาจเป็นเรื้อรังได้หากยังใช้ยาต่อไป
ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ผื่น คัน/บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ) เวียนศีรษะรุนแรง หายใจลำบาก
อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา Risperidone
ถ้าคุณแพ้ยา Risperidone หรือยา Paliperidone หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนการใช้ยา Risperidone ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณ
- ตนเองหรือคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน
- เป็นโรคตับ
- เป็นโรคไต
- มีอาการชัก
- กลืนลำบาก
- เป็นโรคหัวใจ
- มีระดับคอเลสเตอรอล/ไตรกลีเซอไรด์สูง
- เม็ดเลือดขาวในเลือดต่ำ
- เป็นโรคพาร์กินสัน (Parkinson’s disease)
- มีภาวะความจำเสื่อม สมองเสื่อม (Dementia)
- เป็นโรคตาบางชนิด (ต้อกระจก, ต้อหิน)
- มีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Sleep apnea)
ยา Risperidone อาจเป็นสาเหตุของหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิดคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาว (QT prolongation) หัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด QT prolongation เป็นสภาวะที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรง (อาจทำให้เสียชีวิตได้) ผู้ป่วยจะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว หรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ และมีอาการอื่นๆ เช่น เวียนศีรษะรุนแรง หน้ามืด ซึ่งต้องรีบทำการรักษาทันที
ความเสี่ยงของการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิด QT prolongation อาจเพิ่มขึ้นในผู้ที่มีโรคบางโรค หรือกำลังใช้ยาบางชนิดที่อาจเป็นสาเหตุของ QT prolongation อยู่แล้ว ดังนั้นก่อนใช้ยา Risperidone คุณต้องแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ รวมถึงหากเป็นโรคดังต่อไปนี้ โรคหัวใจบางชนิด (หัวใจวาย, หัวใจเต้นช้า, พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG), มีคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจบางชนิด (พบคลื่นไฟฟ้าหัวใจช่วง QT ยาวจากการตรวจ EKG, คนในครอบครัวเสียชีวิตจากหัวใจวาย)
การที่ร่างกายมีระดับโพแทสเซียม (Potassium) หรือ แมกนีเซียม (Magnesium) ในเลือดต่ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด QT prolongation โดยความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นถ้าคุณใช้ยาบางชนิด (เช่น ยาขับปัสสาวะ) หรือมีอาการเหงื่อออกรุนแรง ท้องเสีย หรืออาเจียน ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับวิธีในการใช้ยา Risperidone อย่างปลอดภัย
ยา Risperidone อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงนอนได้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้คุณมีอาการวิงเวียนศีรษะหรือง่วงนอนได้มากขึ้น ห้ามขับรถ ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัว จนกว่าคุณจะทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย และแนะนำให้หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด (รวมถึงการผ่าตัดต้อกระจก/ต้อหิน) ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
ยานี้อาจทำให้เหงื่อออกน้อยลง ทำให้มีโอกาสเกิดภาวะฉุกเฉินจากความร้อน หรือ ฮีทสโตรค (heat stroke) ให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมใดๆ ที่อาจทำให้ร่างกายมีความร้อนมากเกินไป เช่น ทำงานหนักหรือออกกำลังกายในที่อากาศร้อน หรือการแช่ในอ่างน้ำร้อน หากคุณต้องอาศัยในที่อากาศร้อน แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ และสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ระบายอากาศได้ดี หากคุณรู้สึกว่าร่างกายร้อนเกินไป ให้รีบหาสถานที่ที่มีอาการเย็นและนั่งพัก/นอนพักเพื่อระบายความร้อน แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีหากคุณมีไข้ที่อาการไม่ดีขึ้น, อารมณ์/สภาพจิตใจเปลี่ยนแปลง, ปวดศีรษะ หรือเวียนศีรษะ
ผู้สูงอายุอาจเกิดอาการข้างเคียงจากยาได้มากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะอาการง่วงนอน เวียนศีรษะ หน้ามืด และหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด QT prolongation ซึ่งอาการง่วงนอน เวียนศีรษะ และหน้ามืดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มได้
ระหว่างตั้งครรภ์ ยานี้ควรใช้เมื่อประเมินแล้วว่ามีความจำเป็นจริงๆ ทารกที่คลอดจากมารดาที่ใช้ยานี้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์อาจมีอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง หรือตัวสั่น ง่วงนอน มีปัญหาในการดูดนม หายใจลำบาก หรือร้องไห้ไม่หยุด ถ้าคุณสังเกตเห็นอาการเหล่านี้ในทารกแรก โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกหลังคลอด ให้แจ้งแพทย์ทันที
เนื่องจากโรคเกี่ยวกับอารมณ์ สภาพจิตใจผิดปกติ ที่ไม่ได้รับการรักษา เช่น โรคจิตเภท โรคไบโพลาร์ ซึมเศร้า อาจเป็นอาการที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นห้ามหยุดยาเองโดยแพทย์ไม่ได้สั่ง ถ้าคุณกำลังวางแผนตั้งครรภ์ กำลังตั้งครรภ์ หรือคิดว่าตนเองอาจจะตั้งครรภ์ ให้รีบปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยานี้ขณะตั้งครรภ์ทันที
ยา Risperidone ผ่านไปยังน้ำนมได้ และอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ในทารกที่ดูดนม ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
คำเตือนในการใช้ยา Risperidone
หากมีการใช้ยา Risperidone ในผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม (ความจำเสื่อม) อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหัวใจล้มเหลว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นเร็ว ปอดอักเสบ ซึ่งยา Risperidone ไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้รักษาโรคที่มีความสัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อม จึงต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้ โดยเฉพาะการรักษาทางเลือกอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากกว่าในผู้ป่วยที่มีอาการสัมพันธ์กับโรคสมองเสื่อม
ถ้าคุณใช้ยา Risperidone ร่วมกับยาอื่นที่ใช้รักษาโรคซึมเศร้า คุณต้องอ่านคำแนะนำบนฉลากยาและข้อมูลยาของยานั้นก่อนใช้ยา
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา Risperidone
สภาวะต่อไปนี้ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา Risperidone ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้
- มีกลุ่มอาการเอ็นเอ็มเอส (Neuroleptic Malignant Syndrome)
- เป็นโรคตับ เป็นโรคตับอย่างรุนแรง
- เป็นมะเร็งเต้านม
- เป็นโรคเบาหวาน
- มีระดับ Prolactin ในเลือดสูงขึ้น
- มีไขมันในเลือดสูง
- ร่างกายขาดน้ำมาก
- น้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
- มีอาการสับสน
- เม็ดเลือดขาวชนิด Granulocytes ต่ำ, เม็ดเลือดขาวต่ำ, เม็ดเลือดขาว Neutrophils ต่ำ
- ติดยาเสพติด หรือมีการใช้ยาในทางที่ผิด
- มีอาการของโรคพาร์กินสัน
- การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า และลิ้นผิดปกติ
- มีภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด
- การไหลเวียนเลือดไปกล้ามเนื้อหัวใจไม่เพียงพอ
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- หัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
- ตรวจพบคลื่นหัวใจช่วง QT ผิดปกติแต่กำเนิด
- เป็นโรคหลอดเลือดสมอง
- เป็นโรคของหลอดเลือดในสมอง
- หลอดเลือดแดงแข็งตัวเนื่องจากการก่อตัวของไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- ความดันต่ำขณะลุกขึ้นยืน
- ความดันโลหิตต่ำผิดปกติ
- อวัยวะเพศชายแข็งตัวค้าง ซึ่งมีอาการปวด
- ภาวะกล้ามเนื้อสลาย (Rhabdomyolysis)
- มีอาการชัก
- แพ้ยา Risperidone หรือยาอื่นที่คล้ายๆ กัน
- เป็นโรค Metabolic Syndrome X
- น้ำหนักเกิน
- กลืนลำบาก
- ปัสสาวะไม่ออก
- มีระดับน้ำตาลสูง
- มีไข้
- อุณหภูมิร่างกายต่ำ
- เป็นผู้ที่เสี่ยงต่อการสำลักของเหลวเข้าสู่ปอด
- ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง
- เป็นผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม
- มีการผ่าตัดต้อกระจก
- เป็นโรคไตระดับปานกลางถึงรุนแรง
การใช้ยา Risperidone ร่วมกับยาอื่น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (Drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด
ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา Risperidone
- Metoclopramide
ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบหากคุณกำลังใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ทำให้มีอาการง่วงนอน เช่น
- ยาแก้ปวด หรือแก้ไอ กลุ่ม Opioid เช่น Codeine, hydrocodone
- ดื่มแอลกอฮอล์
- ยารักษาอาการวิตกกังวล หรือช่วยให้นอนหลับ เช่น Alprazolam, Lorazepam, Zolpidem
- ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น Carisoprodol, Cyclobenzaprine
- ยาต้านฮีสตามีน เช่น Cetirizine, Diphenhydramine
อ่านฉลากยาทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ (เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ แก้หวัด) เพราะยาเหล่านี้อาจมีส่วนประกอบที่ทำให้ง่วงนอนได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีในการใช้ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
การได้รับยา Risperidone เกินขนาด
หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา Risperidone เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
อาการของการได้รับยาเกินขนาด อาจได้แก่ เวียนศีรษะอย่างรุนแรง ง่วงนอนอย่างรุนแรง หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ ควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ การเคลื่อนไหวผิดปกติ มีอาการชัก
หากลืมรับประทานยา Risperidone
ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา Risperidone
เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ห้ามเก็บยาน้ำไว้ในช่องแช่แข็ง ไม่เก็บยาในห้องน้ำ เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก
หมายเหตุ
ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้
ควรมีการตรวจติดตามทางห้องปฏิบัติการ และ/หรือ การตรวจทางการแพทย์เป็นระยะ เพื่อติดตามอาการและผลข้างเคียงจากยา เช่น การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด น้ำหนักตัว ความดันโลหิต ระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติม