ยาขับปัสสาวะ (Diuretic) เป็นยาชนิดที่อยู่ในกลุ่มของยาขับน้ำ (Water Pills) และเกลือแร่ออกจากร่างกาย โดยเฉพาะโซเดียม
โดยยาจะมีผลต่อการทำงานของไต ในการกรอง ดูดกลับ และขับสารต่างๆ ออก ยับยั้งการดูดกลับของน้ำและเกลือแร่ จึงทำให้ถูกขับออกจากร่างกายมากขึ้น ซึ่งมักใช้ในการรักษาภาวะความดันโลหิตสูง อาการบวมที่เท้า ข้อเท้า และขาส่วนล่าง ภาวะน้ำในปอดซึ่งเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะน้ำส่วนเกินที่อยู่ในช่องท้องซึ่งเกิดจากโรคตับหรือมะเร็งบางชนิด และโรคความผิดปกติที่ตา เช่น ต้อหิน เป็นต้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
บางครั้งอาจพบการนำยาขับปัสสาวะมาใช้ในการรักษาโรคเบาจืด โรคถุงน้ำในรังไข่ โรคนิ่วในไต ภาวะหัวล้านที่มีลักษณะคล้ายเพศชายในเพศหญิง และโรคกระดูกพรุนอีกด้วย
ยาขับปัสสาวะมีหลายกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มมีกลไลการออกฤทธิ์ต่างกันในการช่วยให้ไตขับน้ำส่วนเกินและเกลือออกจากร่างกาย ตัวอย่างของยาขับปัสสาวะ 5 กลุ่ม ได้แก่
- ยาขับปัสสาวะ กลุ่ม Loop diuretics เช่น Lasix (furosemide) Bumetanide Demadex (Torsemide) และ Edecrin (Ethacrynic acid)
- ยาขับปัสสาวะ กลุ่ม Thiazide diuretics เช่น Microzide (hydrochlorothiazide) Chlorthalidone และ Zaroxolyn (Metolazone)
- ยาขับปัสสาวะ กลุ่ม Potassium-sparing diuretics เช่น Aldactone (Spironolactone) Inspra (Eplerenone) Dyrenium (Triamterene) และ Midamor (Amiloride)
- ยาขับปัสสาวะ กลุ่ม Carbonic anhydrase inhibitors เช่น Diamox (Acetazolamide) มักใช้รักษาโรคต้อหินและอาการแพ้ความสูง
- ยาขับปัสสาวะกลุ่มที่ออกฤทธิ์เกี่ยวข้องกับแรงดันออสโมติค (Osmotic diuretics)
คำเตือนและข้อระวังในการใช้ยาขับปัสสาวะ
ห้ามใช้ยาขับปัสสาวะโดยเด็ดขาด หากมีปัญหาด้านการขับถ่ายปัสสาวะหรือมีอาการแพ้ส่วนผสมที่อยู่ในยา และถ้าหากมีภาวะทางการแพทย์ดังต่อไปนี้ ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาขับปัสสาวะทุกครั้ง
- มีปัญหาโรคตับรุนแรงหรือโรคไต
- มีภาวะขาดน้ำ
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- กำลังตั้งครรภ์อยู่ในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือ ความดันโลหิตสูงระหว่างการตั้งครรภ์
- มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 65 ปีขึ้นไป
- เป็นโรคเกาต์
- มีประวัติแพ้ยาในกลุ่มซัลฟา เช่น Septra และ Bactrim (sulfamethoxazole และ trimethoprim)
- มีประวัติการใช้ยาซึ่งส่งผลต่อการได้ยิน เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาขับปัสสาวะ
โดยทั่วไปจะไม่ค่อยพบผลข้างเคียงจากการใช้ยาขับปัสสาวะมากนัก แต่ก็สามารถพบอาการเหล่านี้อยู่ได้บ้าง ภายหลังจากการใช้ยา เช่น
- รู้สึกมึนงง หรือปวดศีรษะ
- กระหายน้ำ และปัสสาวะน้อย
- เกิดความไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย
- ผิวไวต่อแสง มีผื่นขึ้น หรือมีอาการคัน
- มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง หรือมีระดับคอเรสเตอรอลสูง
- การทำงานของระบบสืบพันธุ์เปลี่ยนแปลงไป หรือประจำเดือนมาผิดปกติ
- มีอาการปวดกล้ามเนื้อ และประสิทธิภาพการรับฟังลดลง (พบได้ในยากลุ่ม Loop diuretics)
- มีระดับโซเดียม โพแทสเซียม และแมกนีเซียมในเลือดต่ำ (พบได้ในยากลุ่ม Loop diuretic)
- มีระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น (พบในยากลุ่ม Loop diuretic)
- มีระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง (พบได้ในยากลุ่ม Potassium-sparing diuretics)
- มีเต้านมขยายใหญ่ขึ้นในเพศชาย (พบได้ในยากลุ่ม Aldactone and Inspra)
- เกิดการกดไขกระดูก
- ระคายเคืองทางเดินอาหาร