มีข้อแตกต่างหลายประการระหว่างอาการจุกแน่นท้องทั่วๆไปกับอาการปวดท้องเรื้อรังจากโรคลำไส้แปรปรวน
การกินแฮมเบอร์เกอร์มันๆอาจทำให้ใครหลายคนจุกแน่นท้อง โดย1ใน5ของคนทั่วไปเป็นโรคลำไส้แปรปรวน(Irritable bowel syndrome)หรือโรคไอบีเอส(IBS) อาหารบางอย่างเช่น แฮมเบอร์เกอร์มันๆเป็นสาเหตุของอาการหลายๆอย่างนอกจากจุกแน่นท้องโดยเฉพาะในคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนจะมีอาการท้องอืดมาก ไม่สบายท้อง ปวดท้อง ท้องเสียหรือท้องผูกได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคลำไส้แปรปรวนคืออะไร
โรคลำไส้แปรปรวนเกิดจากลำไส้ใหญ่ไวต่อสิ่งกระตุ้นมากเกินปกติโดยแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่ผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนจะมีอาการแย่ลงเมื่อลำไส้บีบตัวหรือเคลื่อนตัว ในบางรายอาหารในลำไส้ใหญ่ถูกบีบให้เคลื่อนไปเร็วเกินทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมน้ำไม่ทันเกิดอาการท้องเสียซึ่งเรียกว่าไอบีเอส-ดี(IBS-D) อีกกรณีหนึ่งคืออาหารในลำไส้ถูกบีบให้เคลื่อนไปช้าเกิน ทำให้น้ำในอาหารถูกดูดซึมมากเกินเกิดเป็นอาการท้องท้องผูกเรียกว่าไอบีเอส-ซี(IBS-C) ดังนั้นบางรายมีอาการท้องเสียเรื้อรังขณะที่ที่บางรายมีอาการท้องผูกเรื้อรัง และในบางรายอาจมีท้องผูกสลับกับท้องเสียได้ ข้อมูลจากผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์สตีเฟ่น ฟิลด์(Steven Field, MD) แพทย์ผู้เชียวชาญด้านระบบทางเดินอาหารแห่งวิทยาลัยแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค(New York University School of Medicine)เมืองนิวยอร์ค
สิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคลำไส้แปรปรวนคืออะไร
มีปัจจัยอยุ่สองประการที่กระตุ้นให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวนคืออาหารบางชนิดและความเครียด โดยนายแพทย์ฟิลด์กล่าวว่า“อาหารทอดและมันมีแนวโน้มจะกระตุ้นอาการของคนเป็นโรคลำไส้แปรปรวน” และคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนมีโอกาสแพ้แลคโตสมากกว่าคนปกติเนื่องจากมีปัญหาในการย่อยสลายน้ำตาลที่อยู่ในนม นายแพทย์ฟิลด์แนะนำว่าควรลงบันทึกอาหารที่ทานเป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์เพื่อที่จะทราบว่าอาหารชนิดใดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการโดยเขากล่าวว่า“เมื่อทบทวนบันทึกดูแล้วจะเห็นรูปแบบบางอย่างปรากฏออกมาให้เห็นจากจุดที่เริ่มบันทึก” ขณะเดียวกันความเครียดก็กระตุ้นให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวนได้เพราะลำไส้ใหญ่เชื่อต่อกับสมองด้วยเส้นประสาท เมื่อรู้สึกเครียดหรือกังวลเส้นประสาทที่ลำไส้ใหญ่จะตอบสนองต่อความเครียดทำให้รู้สึกปวดมวนท้อง แต่ถ้าเป็นโรคลำไส้แปรปรวนลำไส้ใหญ่จะตอบสนองรุนแรงกว่าทำให้ปวดมากกว่า ซึ่งนายแพทย์ฟิลด์กล่าวว่า“ผู้ป่วยหลายรายสังเกตว่าอาการจะแย่ลงเมื่อมีความเครียด” และผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนจำนวนมากมักจะมีอาการซึมเศร้าหรือกังวลอยู่ด้วย
สาเหตุที่อาจทำให้เป็นโรคลำไส้แปรปรวน
แพทย์ยังไม่ทราบว่าทำไมบางคนจึงเป็นโรคลำไส้แปรปรวน แต่มีทฤษฎีหนึ่งกล่าวถึงสารสื่อประสาทที่ชื่อว่าซีโรโทนิน(serotonin) นายแพทย์ฟิลด์กล่าวว่า“ซีโรโทนินเป็นสารสื่อประสาทในสมองที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวช่วยควบคุมอารมณ์ แต่จริงๆแล้วปริมาณซีโรโทนนินทั้งหมดในร่างกายพบในสมองเพียงแค่ 5%” ซึ่งอีก 95%อยู่ที่ผนังลำไส้คอยควบคุมการบีบตัว การเคลื่อนตัวของลำไส้ และหลั่งสารต่างๆเข้าสู่ลำไส้ เมื่อปริมาณซีโรโทนินในลำไส้ผิดปกติหรือซีโรโทนินมีการทำงานผิดปกติไปจะทำให้เกิดอาการปวดท้องมาก ท้องผูกสลับท้องเสีย โดยเฉพาะถ่ายเหลว ซึ่งทฤษฎีนี้จะช่วยอธิบายได้ว่ายาคลายกังวลหลายตัวที่ออกฤทธิ์กับซีโรโทนินสามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคลำไว้แปรปรวนได้ แต่ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าโรคลำไส้แปรปรวนเกิดจากแบคทีเรียที่เติบโตมากเกินปกติในลำไส้เนื่องจากนักวิจัยพบว่าผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนจะมีอาการดีขึ้นเมื่อรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
ใครที่มีโอกาสเป็นโรคลำไส้แปรปรวน
โรคลำไส้แปรปรวนเป็นได้ทุกช่วงอายุแต่มักจะเป็นระหว่างอายุ18-35ปี ซึ่งอาจเป็นเพราะคนในช่วงอายุนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง เช่น เข้ามหาวิทยาลัย เข้าทำงาน แต่งงาน หรือมีลูก จึงเกิดความเครียดและกระตุ้นให้เกิดอาการลำไส้แปรปรวน และมักจะพบในผู้หญิงมากกว่า แต่ถ้าหากมีอาการในช่วงอายุ40-70ปี ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุว่ามากโรคที่ร้ายแรงกว่าหรือไม่เช่น โรคถุงผนังลำไส้ใหญ่(diverticulosis) หรือโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ก่อนที่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคลำไส้แปรปรวน และต้องบอกแพทย์เกี่ยวกับอาการสำคัญที่อาจเกิดจากโรคที่รุนแรงได้แก่ อุจจาระมีเลือดปน ไข้ น้ำหนักลด หรือมีอาการที่ต้องทำให้ตื่นกลางดึก นายแพทย์ฟิลด์กล่าวว่า“แพทย์จะตรวจเลือดเพื่อหาภาวะซีดหรือความผิดปกติอื่นๆที่บ่งบอกว่าเป็นโรคอื่นๆที่ไม่ใช่ลำไส้แปรปรวน” แม้ว่าโรคลำไส้แปรปรวนจะทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอย่างมากแต่ตัวโรคเองจะไม่กลายเป็นมะเร็งหรือโรคที่ร้ายแรงอื่นๆ และการจดบันทึกอาหารจะช่วยให้รู้ว่าอาหารชนิดใดกระตุ้นให้เกิดอาการแล้วจำกัดอาหารชนิดนั้นอาการลำไส้แปรปรวนจะลดลงหรืออาจหายไปเลยก็ได้
อยากทราบโรคลำไส้แปลปวนคะ