อาการยึกยือ (Tardive dyskinesia) เป็นกลุ่มอาการทางระบบประสาทที่ทำให้การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อควบคุมไม่ได้ โดยเฉพาะใบหน้า ลิ้น ริมฝีปากและขากรรไกร ภาวะนี้มักเกิดจากการใช้ยาบางชนิดเป็นระยะเวลานาน
อาการยึกยือ เป็นอย่างไร?
อาการยึกยือ มักทำให้เกิดการเคลื่อนไหวผิดปกติแบบสุ่มของใบหน้า ลิ้น ริมฝีปาก หรือขากรรไกรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ส่วนมากมักพบอาการ เลียริมฝีปาก ดูดปาก แลบลิ้นหรือหดลิ้น แสยะหน้า เคี้ยวซ้ำ และกะพริบตาเร็วๆ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
บางกรณีอาจพบอาการที่นิ้ว แขน ขา และลำตัว ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวรวดเร็วและเคลื่อนไหวช้ากว่าปกติ หรืออาจมีการเคลื่อนไหวตามการหายใจ
สาเหตุของการเกิดอาการยึกยือ
ภาวะนี้มักเกิดจากการใช้ยาเกี่ยวกับระบบประสาท ยาเหล่านี้มักใช้สำหรับการรักษาความผิดปกติทางจิตเวช และระบบประสาทบางประเภท ซึ่งออกฤทธิ์ไปยับยั้งตัวรับสารสื่อประสาท เช่น Dopamine ที่ทำหน้าที่ควบคุมความสุขของสมอง และควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการเกิดอาการยึกยือ เริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร แต่เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับการยับยั้งตัวรับสารสื่อประสาทเหล่านี้เป็นเวลานาน โดยยาในกลุ่มที่มักทำให้เกิดความผิดปกตินี้ ประกอบด้วย
- Amoxapine
- Compazine หรือ Compro (Prochlorperazine)
- Haldol (Haloperidol)
- Prolixin (Fluphenazine)
- Reglan (Metoclopramide)
- Sibelium (Flunarizine)
- Stelazine (Trifluoperazine hydrochloride)
- Thorazine หรือ Largactil (Chlorpromazine)
ผู้ที่ใช้ยาเหล่านี้ มักมีอาการยึกยือหลังใช้ยาเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี แต่บางคนอาจเริ่มมีอาการตั้งแต่ระยะ 6 สัปดาห์หลังการใช้ยาก็ได้
การวินิจฉัยอาการยึกยือ
อาการของอาการยึกยือ อาจเหมือนกับอาการผิดปกติทางการเคลื่อนไหวอื่นๆ เช่น โรคพาร์กินสัน (Parkinson's disease) โรคฮันติงตัน (Huntington’s disease) ภาวะสมองพิการ (Cerebral palsy) กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette syndrome) และอาการบิดเกร็งของกล้ามเนื้อ (Dystonia)
เพื่อเป็นการแยกผู้ที่มีอาการยึกยือ ในผู้ที่กำลังรับยาเกี่ยวกับระบบประสาทและประเมินความรุนแรงของอาการ แพทย์มักใช้การตรวจที่เรียกว่า Abnormal Involuntary Movement Scale (AIMS) เป็นตัวช่วยวินิจฉัย
ระหว่างการทดสอบ แพทย์จะทำการวัดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติทั่วร่างกาย และประเมินความรุนแรงโดยรวมของการเคลื่อนไหว ซึ่งระหว่างการทดสอบ แพทย์อาจขอให้ทำการเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น อ้าปาก เหยียดและงอแขน หรือเดินไปรอบ ๆ เป็นต้น
การรักษาอาการยึกยือ
การรักษาอาการยึกยือจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผู้ป่วยแต่ละคน ในขั้นแรก แพทย์จะแนะนำให้ลดหรือหยุดการใช้ยาเกี่ยวกับระบบประสาท หากไม่สามารถหยุดยาอย่างปลอดภัยได้ ก็อาจเปลี่ยนให้ใช้ตัวอื่นแทน โดยยา Xenazine (Tetrabenzine) เป็นยาเพียงตัวเดียวที่รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาที่ให้ใช้สำหรับรักษาอาการยึกยือ แต่ยาตัวอื่นๆ เช่น Benzodiazepines และการฉีด Botox (Botulinum toxic) ก็อาจช่วยได้เช่นกัน
ทำไมเป็นความดันสูงฉีดยาคุมกำเนิดไม่ได้ค่ะ