ยาลอราซีแพม (Lorazepam) เป็นยาในกลุ่ม Benzodiazepines ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง จึงยับยั้งการทำงานของเซลล์ประสาท ส่งผลให้ลดอาการวิตกกังวล ทำให้ง่วงหลับ ต้านอาการชัก คลายกล้ามเนื้อ และอาจเกิดภาวะเสียความจำชั่วขณะ จึงใช้ในการรักษาผู้ป่วยกระวนกระวาย โรควิตกกังวลและโรคชัก
นอกจากนี้ Lorazepam ยังถูกใช้เพื่อรักษาโรคนอนไม่หลับ กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) สภาวะอยู่ไม่สุข กายใจไม่สงบที่เกิดจากการเลิกดื่มแอลกอฮอลล์ และอาการคลื่นไส้ อาเจียนที่เกิดจากการทำการรักษาโรคมะเร็ง
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยาตัวนี้มีให้ใช้ในรูปแบบยาเม็ด ยาน้ำ และในรูปแบบยาฉีด ยา Lorazepam ในรูปแบบยาฉีดนั้น ใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เพื่อรักษาอาการชักที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน
ยาตัวนี้ยังถูกใช้กับคนไข้ก่อนที่ได้รับการผ่าตัดเพื่อให้เกิดอาการง่วงซึม คลายความวิตกกังวล และความจำเกี่ยวกับการผ่าตัดสำหรับคนไข้ที่รู้สึกกังวลกับการผ่าตัด
คำเตือนสำหรับยา Lorazepam
- ห้ามใช้ยา Lorazepam หากคุณแพ้ยาตัวนี้หรือแพ้สารออกฤทธิ์ของยา Lorazepam ในรูปแบบเม็ด หรือยากลุ่ม benzodiazepines รวมถึง xanax (Zanax), chlordiazepoxide (Librium), clorazepate Dipotassium (Tranxene), diazepam (Valium) และ oxazepam (Serax)
- ห้ามรับประทานยา Lorazepam ถ้าคุณเป็นต้อหินชนิดมุมปิด (narrow-angle glaucoma) มีปัญหาเรื่องปอดอย่างรุนแรง โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิด Myasthenia gravis
- ยา Lorazepam อาจทำให้คุณรู้สึกง่วงซึมได้และลดความสามารถในการขับขี่รถยนต์หรือควบคุมเครื่องจักรที่ต้องใช้สติรู้ตัวตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยอาการง่วงซึมอาจรุนแรงมากขึ้น หากคุณรับประทานยาตัวนี้ควบคู่กับยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมชนิดอื่น หรือเป็นผู้ป่วยสูงอายุและมีอาการอ่อนเพลีย
- ยา Lorazepam อาจทำให้เสพติดได้ ดังนั้น ไม่ควรรับประทานยาในขนาดสูงหรือใช้ยาเป็นระยะเวลานานเกินกว่าที่แพทย์ประจำตัวของคุณแนะนำ คนไข้บางรายมีอาการทนต่อยา Lorazepam เมื่อรับประทานยาต่อเนื่องในระยะยาว ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง
- หากได้รับยา Lorazepam ในรูปแบบฉีด ควรเพิ่มความระมัดระวังในขณะที่ลุกออกจากเตียงและเดินไปมา เพราะยา Lorazepam ในรูปแบบฉีดมีฤทธิ์อยู่นานถึง 8 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการขับขี่รถยนต์ ใช้เครื่องจักรกล หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่จำเป็นต้องใช้สมาธิและการประสานงานภายใน 1 - 2 วัน หลังจากได้รับการฉีดยา Lorazepam
- ยา Lorazepam ชนิดเม็ดรับประทานและชนิดน้ำยังไม่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ถ้าคุณกำลังรับประทานยาตัวอื่นที่ส่งผลกระทบต่อระดับประสาทส่วนกลาง
อย่าลืมแจ้งแพทย์ประจำตัวของคุณ ยาเหล่านี้รวมถึง ยาทำให้สงบ ยาคลายเครียด ยารักษาอาการซึมเศร้า และยาเสพติดตัวอื่นๆ ก่อนที่คุณจะรับประทานยา Lorazepam - อย่าลืมแจ้งแพทย์ประจำตัวของคุณหากคุณมีปัญหาต่อไปนี้
- โรคซึมเศร้า
- ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- มีประวัติของการเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังหรือติดยา
- มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพ
- มีโรคตับหรือไต
อาการเคลิ้มสุขและการติดยา Lorazepam
การใช้ยา Lorazepam สามารถช่วยให้คนไข้มีอาการผ่อนคลาย หรืออาการเคลิ้มสุข ซึ่งยา Lorazepam เป็นหนึ่งในยากลุ่ม benzodiazephines ที่คนไข้ใช้แล้วเสพติดมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
จริงๆ แล้วยาตัวนี้ผลิตมาให้ใช้เพียงแค่ระยะสั้น ห้ามรับประทานเกิน 4 เดือนโดยไม่อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอลล์ในขณะที่รับประทานยาตัวนี้อยู่ด้วย เพราะแอลกอฮอล์สามารถกระตุ้นให้เกิดผลค้างเคียงของตัวยา ทั้งอาการง่วงซึม สับสน และอารมณ์ไม่คงที่
อาการขาดยา Lorazepam
เมื่ออาการเสพติดของยา Lorazepam ค่อยๆ หมดฤทธิ์ลง ผู้ใช้อาจมีอาการแสดงของการขาดยา Lorazepam ดังนี้
- อาการหงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย
- อาการนอนไม่หลับ หรือความผิดปกติทางการนอนอื่นๆ
- มีอาการวิตกกังวล
- มีอาการสับสน
- มีอาการโมโหหรือพฤติกรรมที่รุนแรง
- มีอาการซึมเศร้า
- มีอาการชัก
แพทย์ประจำตัวของคุณมักจะแนะนำให้คุณค่อยๆ ลดปริมาณการรับประทานยา Lorazepam เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการขาดยา ผู้ที่ใช้ยาตัวนี้ไม่ควรหยุดยาในทันที ยกเว้นในกรณีที่ได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
การตั้งครรภ์และยา Lorazepam
อย่าลืมแจ้งแพทย์ประจำตัวของคุณว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ก่อนที่ใช้ยา Lorazepam เพราะยาตัวนี้อาจทำให้เกิดการพิการแต่กำเนิด โดยเฉพาะในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
นอกจากนี้ การใช้ยา Lorazepam ในช่วงการตั้งครรภ์ระยะปลายอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่อันตรายต่อทารกในครรภ์ และควรแจ้งแพทย์ประจำตัวของคุณหากคุณกำลังให้นมบุตรก่อนที่จะใช้ยาตัวนี้ เพราะการใช้ยาระหว่างให้นมบุตรอาจมีผลข้างเคียงต่อบุตรที่ดื่มนมมารดา
ผลข้างเคียงของยา Lorazepam
ติดต่อหน่วยแพทย์ฉุกเฉินทันทีหากคุณมีหนึ่งในอาการที่รุนแรงจากการแพ้ยา Lorazepam ดังนี้
- ลมพิษ
- มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น หายใจลำบาก
- มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
- ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยสุดจากการใช้ยา Lorazepam ชนิดเม็ดรับประทานและแบบน้ำ มีดังนี้
- อาการง่วงซึม
- อาการมึนศีรษะ
- อาการอ่อนเพลีย
- อารมณ์ไม่คงที่
- ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยสุดจากการใช้ยา Lorazepam แบบฉีด มีดังนี้
- ความดันโลหิตต่ำ
- รู้สึกง่วงซึมมาก
- มีภาวะหายใจตื้น หายใจเร็ว และรู้สึกเหมือนคุณหายใจไม่เต็มปอด
ผลข้างเคียงที่รุนแรงจากยา Lorazepam ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อใช้ตัวยาในขนาดสูง หากมีผลข้างเคียงให้แจ้งแพทย์ประจำตัว โดยเฉพาะหากมีอาการรุนแรงและอาการเหล่านั้นยังไม่หายไป
ปฏิกิริยาของยา Lorazepam
อย่าลืมแจ้งแพทย์ประจำตัวของคุณหากคุณกำลังรับประทานยาตัวใดตัวหนึ่งก่อนที่จะรับประทานยา Lorazepam ดังนี้
- ยากลุ่ม benzodiazepines อื่นๆ เช่น Xanax, Librium, Librax, Klonopin,Tranxene, และ Valium
- ยาคุมกำเนิด
- ยากลุ่ม Barbiturates เช่น Amytal, Fioricet, Butisol, Mebaral, Seconal, Nembutal, Luminal, Solfoton, หรือ Seconal
- ยารักษาโรคทางจิตเวช (Antipsychotics) เช่น Abilify, Saphris, Thorazine, Clozaril, Prolixin, Haldol, Fanapt, Adasuve, Loxitane, Latuda, Serentil, Moban, Zyprexa, Symbyax, Invega, Trilafon, Orap, Seroquel, Risperdal, Mellaril, Navane, Stelazine, sinv Geodon
- ยานอนหลับ เช่น Lunesta, Unisom, Rozerem, Sonata, or Ambien
- ยาระงับอาการปวดชนิดเสพติด เช่น Stadol, codeine, Lortab, Vicodin, Levo-Dromoran, Demerol, Dolophine, Methadose, morphine, Narcan, OxyContin, or Darvon
- ยารักษาโรคซึมเศร้า เช่น Elavil, Etrafon, Asendin, Celexa, Anafranil, Norpramin, Sinequan, Lexapro, Prozac, Sarafem และ others
- ยารักษาโรคลมชัก เช่น Depakote or Depakene
- ยาแก้แพ้แบบง่วง จำพวก Chlor-Trimeton หรือ Benadryl
- ยาชา
- ยา Probenecid ที่ใช้ในการรักษาโรคเกาต์หรือภาวะที่ร่างกายมีกรดยูริคเกิน
- ยา Theophylline (Theo-24, Uniphyl) ยาที่ใช้ขยายหลอดลม
- ยา Aminophylline ยาที่ใช้ขยายหลอดลม
- ยา Scopolamine (Transderm Scop) ใช้เพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาการบีบเกร็งของช่องท้อง
ยา Lorazepam และแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ส่งเสริมให้เกิดผลข้างเคียงของยา Lorazepam ได้มากขึ้น ผลข้างเคียงเหล่านั้น ได้แก่ อาการง่วงซึม สับสน อารมณ์ไม่คงที่ และในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้มีปัญหาทางการหายใจ มีอาการโคม่าถึงขั้นเสียชีวิตได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการทนต่อแอลกอฮอล์ของคุณอาจต่ำลงในขณะที่คุณกำลังรับประทานยา Lorazepam ควรหลีกเลี่ยงการขับขี่รถยนต์ ใช้เครื่องจักรกล หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องการสมาธิและการประสานงานในระหว่าง 24 - 48 ชั่วโมงหลังจากได้รับยา Lorazepam ในรูปแบบฉีดหรือจนกว่าคุณไม่รู้สึกง่วงซึม
ขนาดยา Lorazepam
ขนาดของยาชนิดนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของตัวยาว่าเป็น ยาเม็ด ยาน้ำ หรือยาฉีด คุณควรรับประทานยา Lorazepam ให้เท่ากับที่แพทย์ได้สั่งจ่าย มาให้คุณ
ยาเม็ด Lorazepam มีขนาด 0.5 มิลลิกรัม 1 มิลลิกรัม และ 2 มิลลิกรัม
- ในกรณีที่ใช้เพื่อลดอาการวิตกกังวล ในผู้ใหญ่รับประทานวันละ 1 - 3 มิลลิกรัม โดยแบ่งให้วันละ 2 - 3 ครั้ง หรือครั้งเดียว ก่อนนอนหรือตามแพทย์สั่ง
- หากใช้เพื่อช่วยให้นอนหลับ ในผู้ใหญ่ให้รับประทานวันละ 1 - 4 มิลลิกรัม ครั้งเดียวก่อนนอน หรือตามแพทย์สั่ง ทั้งนี้ผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยหนักด้วยโรคทางกาย ควรลดขนาดของยาลงเพื่อป้องกันการเกิดผลข้างเคียงจากยา
เมื่อคุณเพิ่งเริ่มรับประทานยา Lorazepam แพทย์ประจำตัวของคุณอาจค่อยๆ เพิ่มระดับยาเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียง ขนาดยาอาจน้อยลงหากคุณอยู่ในวัยสูงอายุหรือมีอาการอ่อนเพลีย
คุณควรรับประทานยา Lorazepam พร้อมกับของเหลว เช่น น้ำดื่มหนึ่งแก้ว พร้อมอาหาร หรือรับประทานยาเดี่ยวไม่พร้อมอาหาร
ยา Lorazepam ชนิดน้ำมีบรรจุในขวดพร้อมหลอดหยดที่มีขนาดยาระบุไว้ชัดเจน ผสมตัวยากับของเหลวหรืออาหารกึ่งแข็ง เช่น น้ำเปล่า น้ำผลไม้ โซดา เครื่องดื่มผสมโซดา ซอสแอปเปิ้ล หรือ พุดดิ้ง
สำหรับ Lorazepam ในรูปแบบของยาฉีด แพทย์ประจำตัวของคุณจะฉีดยาเข้าสู่หลอดเลือดดำอย่างช้าๆ หรือฉีดยาเข้าสู่กล้ามเนื้อ คุณอาจได้รับขนาดยาซ้ำหรือการรักษาอื่นๆด้วยเช่นกัน หลังจากที่คุณได้รับยา Lorazepam แล้ว แพทย์ประจำตัวของคุณจะเฝ้าดูอาการเพื่อให้มั่นใจว่าตัวยานั้นออกฤทธิ์ดีและไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ
ทั้งนี้ยา Lorazepam จัดเป็นยาที่ถูกควบคุมตามกฎหมาย เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ไม่สามารถหาซื้อได้เองในประเทศไทย หากคุณต้องการใช้ยานี้ ต้องพบแพทย์เพื่อให้แพทย์เป็นคนพิจารณาถึงความเหมาะสมในการสั่งจ่ายเท่านั้น
การเลิกยา Lorazepam
แพทย์จะค่อยๆ ลดขนาดยาของ Lorazepam ที่คุณใช้อยู่ลง ทั้งนี้ขึ้นกับปริมาณยาที่ใช้ก่อนที่จะเลิกยาด้วย หากคุณรับประทานยา Lorazepam มาหลายปี ก็จะต้องใช้เวลาในการค่อยๆลดขนาดยาลงจนสามารถหยุดยาได้นานกว่าระยะเวลาที่คุณใช้ยา
ทั้งนี้ในระหว่างที่ลดขนาดยาที่ใช้ต่อวันลง อาจจะมีอาการกระวนกระวาย นอนไม่หลับได้บ้าง ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลิกยา และไม่ควรหยุดยาทันทีอย่างหักดิบ
การใช้ยา Lorazepam เกินขนาด
การใช้ยา Lorazepam เกินขนาดอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต อาการแสดงของการใช้ยา Lorazepam เกินขนาด มีดังนี้
- ง่วงซึม สับสน
- สั่น ชัก หัวใจแต้นช้า
- เดินเซ อ่อนแรง reflex ลดลง
- อาจกดการหายใจ และ มีอาการโคม่า
หากมีอาการดังต่อไปนี้หรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัยว่ากินยา Lorazepam เกินขนาดควรนำส่งโรงพยาบาลทันที
การรักษาภาวะยา Lorazepam เกินขนาด
- ให้รับประทาน activated charcoal เพื่อลดการดูดซึมยาสำหรับผู้ป่วยที่ยังไม่หมดสติ หรือให้ล้างท้องในกรณีที่ผู้ป่วยหมดสติ รวมถึงให้การรักษาตามอาการร่วมกับให้ specific antidote โดยให้สารละลายทางหลอดเลือดดำเพื่อเพิ่มการกำจัดยา
- หากมีภาวะกดการหายใจควรให้ออกซิเจน หากจำเป็นให้พิจารณาช่วยการหายใจ อาจพิจารณาให้ยา flumazenil ซึ่งเป็น specific benzodiazepine receptor antagonist เพื่อลดฤทธิ์การระงับประสาทหรือฤทธิ์กดการหายใจ
ทั้งนี้ต้องเฝ้าระวังติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก Flumazenil อาจทำให้เกิดการชัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยที่ใช้ benzodiazepine ต่อเนื่องมานานหรือผู้ป่วยที่กำลังรับประทานยา tricyclic antidepressant
และไม่ควรใช้ flumazenil ในผู้ป่วยโรคลมชักที่เคยรักษาด้วย benzodiazepine
การลืมรับประทานยา Lorazepam
ถ้าคุณลืมรับประทานยา Lorazepam ให้รับประทานยาทันทีหลังจากที่คุณนึกได้
แต่ถ้าคุณต้องรับประทานยาหลายขนาดต่อวัน และลืมรับประทานยา และเกือบจะถึงอีกช่วงเวลาถัดไปสำหรับการรับประทานยาแล้ว ข้ามยาเม็ดนั้นที่คุณลืมไป และรับประทานยาตามกำหนดเดิมที่คุณจำเป็นต้องรับประทาน
อย่ารับประทานยาเพิ่มตามปริมาณยาที่คุณลืมรับประทาน หรือมากกว่าปริมาณที่แพทย์สั่ง
คำถามที่พบบ่อยสำหรับยา Lorazepam (Ativan)
1. การรับประทานยา Lorazepam เป็นประจำทุกวันนั้นปลอดภัยหรือไม่
คำตอบ: Ativan เป็นยากลุ่ม benzodiazepine ที่ออกฤทธิ์เป็นยาคลายความวิตกกังวล ยาช่วยให้หลับ ยาทำให้สงบ ยากล่อมประสาท ยากันชัก และยาคลายกล้ามเนื้อ
ยาตัวนี้ใช้ในระยะสั้นเพื่อรักษาอาการวิตกกังวล อาการนอนไม่หลับ อาการชักแบบเฉียบพลัน และทำให้ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลซึ่งมีอาการเกรี้ยวกราดรู้สึกง่วงซึม จากตัวยาอื่นๆ ในกลุ่ม benzodiazepines
ยา Lorazepam มีแนวโน้มสูงที่ใช้แล้วเกิดอาการเสพติด และมีการรายงานว่าคนไข้นำยาตัวนี้ไปใช้ในทางที่ผิดเพื่อวัตถุประสงค์ให้รู้สึกเสพย์สุข หรือใช้ยาอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
หากผู้ป่วยใช้ยากลุ่ม Benzodiazepines ในระยะยาว อาจมีอาการทนต่อยา และหากหยุดยาทันทีจะเกิดอาการขาดยา และส่งผลเสียต่อการรับรู้ของสมอง อาการขาดยาอาจเริ่มตั้งแต่อาการวิตกกังวลและนอนไม่หลับจนถึงอาการชัก และอาการวิกลจริต อาการตื่นเต้น และทำให้อาการชักแย่ลง
อย่าลืมปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับสภาวะที่เกิดขึ้นกับคุณและยาที่คุณกำลังรับประทานอยู่เป็นประจำก่อนที่คุณจะใช้ยา Lorazepam
2. ยา Lorazepam จะถูกใช้เพื่อรักษาอาการใดบ้าง
คำตอบ: Ativan จัดอยู่ในกลุ่มยาที่ชื่อ benzodiazepines (ben-zoe-dye-AZE-eh-peens) ยา Lorazepam มักใช้เพื่อรักษาโรควิตกกังวล ยาตัวนี้อาจใช้แล้วอาจติดได้ และควรใช้โดยผู้ป่วยที่ได้รับในใบสั่งยาเท่านั้น ปรึกษาผู้ให้บริการทางการแพทย์ของคุณสำหรับข้อมูลเฉพาะเพิ่มเติมของตัวยา
3. ฉันมีอาการนอนไม่หลับและยานอนหลับทั่วไป เช่น Ambien CR มักจะทำให้ฉันมีอาการง่วงซึม แพทย์ประจำตัวของฉันได้ให้ฉันลองใช้ยา Lorazepam ซึ่งจริงๆ มันออกฤทธิ์ค่อนข้างดี แล้วยาตัวนี้มีผลข้างเคียงทางลบในระยะยาวหรือไม่?
คำตอบ: ยา Lorazepam อาจใช้แล้วติดได้ถ้าคุณใช้ยาตัวนี้เป็นระยะเวลานาน อย่างไรก็ตาม คุณสามารถหยุดยาตัวนี้ได้ง่ายๆ โดยการรับประทานด้วยขนาดยาที่ลดลง ห้ามคุณหยุดยา หรือเพิ่มขนาดยาโดยไม่ปรึกษาผู้ให้บริการทางการแพทย์เสียก่อน
4. ฉันมีอาการนอนไม่หลับ และยานอนหลับทั่วไปอย่าง AmbienCR ทำให้ฉันรู้สึกง่วงซึม แพทย์ของฉันจึงลองให้ฉันรับประทานยา Lorazepam ซึ่งมันค่อนข้างใช้ได้ดีเลยทีเดียว ฉันสนใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงทางลบในระยะยาวของยาตัวนี้ ฉันอายุ 56 ปีและไม่มีภาวะหยุดหายใจในขณะหลับ
คำตอบ: ยา Lorazepam ที่ใช้ในปริมาณน้อยถูกใช้เพื่อรักษาโรคผิดปกติทางการนอน ยาตัวนี้สามารถทำให้ผู้ใช้เสพติดได้หากใช้ในระยะเวลานานแต่สามารถหยุดได้ง่ายๆด้วยการใช้ขนาดยาที่ลดลงเพื่อกำจัดผลข้างเคียงต่างๆ ที่เกิดจากการใช้ยานี้
ห้ามหยุดยาโดยพละการ ต้องแจ้งแพทย์ก่อนทุกครั้ง ควรใช้ยาในปริมาณน้อย ยาตัวนี้ออกฤทธิ์ดีในการรักษาโรคนอนไม่หลับ ห้ามเพิ่มขนาดยาโดยที่ไม่แจ้งแพทย์ก่อน ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณไม่ได้ผลเหมือนเดิมหลังจากที่คุณใช้ยาตัวนี้มาสักระยะหนึ่ง ควรปรึกษาแพทย์
5. ฉันรับประทานยา Lorazepam (3/4 เม็ดของตัวยา 1 มก.) ในตอนกลางคืนเพื่อช่วยให้หลับ ฉันใช้ยาตัวนี้มา 2 - 3 ปี ในปริมาณน้อย นี่สามารถทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้เล็กน้อยหรือไม่ และฉันมีอาการท้องอืดท้องแข็งมาสักพัก นี่เป็นเพราะฉันกำลังมีอาการของโรคถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบหรือไม่ คุณพอมีคำแนะนำไหมคะ
คำตอบ: ยา Lorazepam เป็นยาที่ใช้ในการรักษาอาการวิตกกังวล โรคผิดปกติทางการนอน และอาการชัก เป็นยาหลักของยากลุ่ม benzodiazepines โดยออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการสงบ
ข้อมูลเกี่ยวกับยาไม่ได้ระบุถึงเรื่องผลข้างเคียงของการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นหรือภาวะบวมน้ำจากตัวยา โปรดปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณเกี่ยวกับอาการแสดง เพราะมันอยู่นอกเหนือสิ่งที่เภสัชกรสามารถระบุได้และเราไม่สามารถวินิจฉัยอาการของโรคได้
6. ยา Lorazepam ถูกใช้รักษาผู้ป่วยโรคหัวใจอย่างไร
คำตอบ: ยา Lorazepam เป็นยาที่ใช้เพื่อการรักษาอาการวิตกกังวล และอยู่ในกลุ่มยาชื่อ benzodiazepines ที่ช่วยให้เกิดอาการสงบต่อสมองและเส้นประสาท (ระบบประสาทส่วนกลาง)
แพทย์อาจสั่งจ่ายยาตัวนี้เพื่อช่วยคลายความวิตกกังวลที่ทำให้ระดับความดันโลหิตสูงขึ้น หรืออัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้นและอาจทำให้สภาวะของหัวใจแย่ลง ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าทำไมแพทย์ถึงเลือกใช้ยาตัวนี้ คุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเหตุผลที่เลือกใช้ยาตัวนี้
7. ยา Lorazepam จะทำให้ระบบการเผาผลาญของฉันลดลงและทำให้ฉันมีภาวะบวมน้ำหรือไม่
คำตอบ: บริษัท Lexi-Comp ได้รายงานเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์จาก ยา Lorazepam ว่า 1-10% ของผู้ป่วยในการศึกษาวิจัยมีการเปลี่ยนของรสชาติอาหารที่รับประทาน และมีน้ำหนักตัวเพิ่มหรือน้ำหนักตัวลดลง
ยังไม่มีการระบุถึงการมีภาวะบวมน้ำซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ปรึกษาแพทย์ประจำตัวของคุณถึงคำถามเรื่องยาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
8. ยา Lorazepam ใช้เพื่ออะไร และผลข้างเคียงของยามีอะไรบ้าง
คำตอบ: ยา Lorazepam เป็นยากลุ่ม benzodiazepine ที่ใช้ในการควบคุมโรควิตกกังวลหรือในการบรรเทาอาการวิตกกังวลในระยะสั้นที่เกี่ยวข้องกับโรคซึมเศร้า
ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยของยาตัวนี้ คือ อาการง่วงซึม รู้สึกสงบ และกดการหายใจ (หายใจตื้น) ผลข้างเคียงอื่นๆของยาตัวนี้ คือ ความดันโลหิตต่ำ การสูญเสียความทรงจำ มึนศีรษะ ปวดศีรษะ สับสน มีอาการซึมเศร้า คลื่นไส้ น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลง มีอาการอ่อนแอ และความผิดปกติทางสายตา
9. ยา Lorazepam สามารถทำให้เกิดอาการทางประสาทและสั่นไหวหรือไม่
คำตอบ: ยา Lorazepam เป็นยาที่จัดอยู่ในกลุ่ม benzodiazepines ใช้ในการรักษาโรควิตกกังวลและใช้เพื่อคลายความวิตกกังวลในระยะสั้นหรือเพื่อคลายความวิตกกังวลที่เกี่ยวข้องกับอาการของโรคซึมเศร้า
ยา Lorazepam ออกฤทธิ์โดยการทำปฏิกิริยากับสารเคมีในสมองที่ช่วยลดความตื่นเต้นที่ผิดปกติในสมอง
ผลข้างเคียงบางประการที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา Lorazepam ได้แก่ อาการซึมเศร้า อาการง่วงซึม หายใจช้า ผื่นแดง น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม งุนงงสับสน มึนศีรษะ และปวดศีรษะ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของยาที่สั่งจ่าย
มีรายงานของผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงในทางที่กลับกัน คือ มีการพูดมากกว่าปกติ มีการระบายอารมณ์ รู้สึกตื่นเต้น และมีการเคลื่อนไหวมากกว่าปกติ และยังมีรายงานของความอยู่ไม่นิ่งและพฤติกรรมก้าวร้าวด้วยเช่นกัน
นี่ถือเป็นปฏิกิริยาที่พบได้ไม่บ่อยนักจากการใช้ยา Benzodiazepine ซึ่งเกิดขึ้นกับผู้ป่วยน้อยกว่า 1% ที่ใช้ยาตัวนี้ ผู้ที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดปฏิกิริยาเหล่านี้ คือ ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ที่มีประวัติการเสพติดแอลกอฮอล์หรือมีความผิดปกติทางจิต
นอกจากนี้ อาจมีปัจจัยทางพันธุกรรมเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน โปรดปรึกษาแพทย์ของคุณถึงอาการที่กำลังเกิดขึ้น และห้ามหยุดยาเองโดยที่ไม่ปรึกษาแพทย์
การหยุดยากลุ่ม Benzodiazepine เช่น ยา Lorazepam โดยฉับพลัน อาจทำให้เกิดอาการขาดยาหรือถอนยาได้ เช่น อารมณ์เศร้า นอนไม่หลับ ปวดเกร็งในช่องท้องหรือกล้ามเนื้อ อาเจียน เหงื่อออก อาการชัก และ อาการสั่น เป็นต้น
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android