ข้อควรระวังและผลข้างเคียงของยาแก้ปวด

เผยแพร่ครั้งแรก 17 ส.ค. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 1 นาที
ข้อควรระวังและผลข้างเคียงของยาแก้ปวด

ยาแก้ปวด (Analgesic) มักนิยมใช้เพื่อลดอาการปวดจากการอักเสบของข้อ การผ่าตัด การบาดเจ็บ การปวดฟัน ปวดประจำเดือน ปวดกล้ามเนื้อ หรืออาการปวดจากสาเหตุอื่น สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งยาของแพทย์ 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ยาแก้ปวด สามารถแบ่งตามกลไกการออกฤทธิ์ได้ดังต่อไปนี้

  1. ยากลุ่มโอปิออยด์ (Opioids) เช่น Avinza, Kadian, MS Contin (Morphine), Oxycontin (Oxycodone), Dolophine หรือ Methadose (Methadone), Dilaudid (Hydromorphone), Codeine, Demerol (Meperidine), Duragesic หรือ Actiq (Fentanyl) เป็นต้น ยากลุ่มนี้จะลดสัญญาณปวดที่ส่งจากระบบประสาท และลดการตอบสนองของสมองต่อสัญญาณดังกล่าว จึงทำให้ยากลุ่มนี้มักถูกนำไปใช้เป็นยาเสพติดด้วย
  2. ยากลุ่มพาราเซตามอล (Paracetamolเช่น Tylenol (Acetaminophen) ยากลุ่มนี้จะปรับเปลี่ยนการรับรู้อาการเจ็บปวดของร่างกาย
  3. ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-steroidal anti-inflammatory drugs: NSAIDs) เช่น  Advil (Ibuprofen), Aleve (Naproxen), Celebrex (Celecoxib) บางครั้งอาจพบ Aspirin จัดอยู่ในยากลุ่มนี้ด้วย ยากลุ่มนี้จะยับยั้งผลของโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ทำให้ลดอาการปวดและอาการบวม

ข้อควรระวังในการใช้ยาแก้ปวด

ก่อนใช้ยาแก้ปวดทุกชนิดควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง และควรระวังการใช้ยาแก้ปวดดังนี้

  • ไม่ควรใช้ยาแอสไพรินในเด็ก เพราะอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการราย (Reye’s Syndrome) ได้
  • การรับประทานยาไทลินอลในปริมาณมากอาจมีผลต่อตับ ดังนั้นจึงควรอ่านฉลากให้ละเอียดก่อนใช้ยา
  • ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกในกระเพาะ โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดสมองได้ 
  • การใช้ยาแก้ปวดกลุ่มโอปินอยด์เป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดการติดยาจากการที่ร่างกายเคยชินกับการได้รับยา 
  • ควรหลีกเลี่ยงการขับรถหรือกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว หากใช้ยากลุ่มโอปินอยด์ในครั้งแรก จนกว่าจะทราบว่าร่างกายตอบสนองต่อการใช้ยาอย่างไร

ผลข้างเคียงของการใช้ยาแก้ปวด

ความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจะขึ้นอยู่กับชนิดของยาแก้ปวด และระยะเวลาที่ใช้ โดยผลข้างเคียงที่อาจพบ ได้แก่

แอลกอฮอล์สามารถเพิ่มผลข้างเคียงของยาแก้ปวดได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างที่ใช้ยากลุ่มนี้


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ยาแก้ปวดหัว กินมากไปก็ไม่ดี
ยาแก้ปวดหัว กินมากไปก็ไม่ดี

เคยไหม? กินยาแก้ปวดหัวเมื่อมีอาการ แต่กลับทำให้รู้สึกดีขึ้นเพียงระยะสั้นๆ จากนั้นก็กลับมามีอาการซ้ำอีกเรื่อยๆ เหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณอาจจะกำลังเผชิญกับ “โรคปวดศีรษะเหตุใช้ยาเกิน” ก็เป็นได้

อ่านเพิ่ม