citalopram ยาบำบัดอาการโรคซึมเศร้าที่จัดอยู่ในกลุ่ม Selective serotonin reuptake inhibitor (SSRI)
(ยานี้ปัจจุบันยกเลิกทะเบียนแล้ว และไม่มีขายในประเทศไทย - ณ เดือน ก.ค. 2561)
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในต่างประเทศ ชื่อการค้าของยานี้ที่เป็นที่รู้จัก เช่น ยา Celexa, Cipramil ตัวยานี้มีกลไกเพิ่มปริมาณสารซีโรโทนิน (Serotonin) ในสมอง รูปแบบยาแผนปัจจุบันของยานี้จะเป็นยาชนิดรับประทาน ตัวยาสามารถดูดซึมจากระบบทางเดินอาหาร และกระจายตัวเข้าสู่กระแสเลือดได้ประมาณ 80% การทำลายโครงสร้างของยาจะเกิดที่อวัยวะตับ ร่างกายต้องใช้เวลาประมาณ 35 ชั่วโมงในการกำจัดยาออกจากกระแสเลือด 50% ซึ่งผ่านทิ้งไปกับปัสสาวะ
นอกจากบำบัดอาการโรคซึมเศร้าแล้ว citalopram ยังใช้สำหรับการรักษา
- โรคย้ำคิดย้ำทำ Obsessive-compulsive disorder (OCD)
- ภาวะตื่นตระหนก (Panic disorder)
- กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนที่รุนแรง (Premenstrual dysphoric syndrome - PMDD)
- ภาวะวิตกกังวลที่ผิดปกติ
- โรคเครียดหลังอาการบาดเจ็บรุนแรง (Post-traumatic stress disorder PTSD)
- ภาวะกินมากผิดปกติ (Eating disorders)
มีการศึกษาชี้ว่า ในสมองของคนที่มีภาวะซึมเศร้าจะมีระดับ serotonin น้อย Citalopram มีกลไกการออกฤทธิ์ คือ ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการดูดกลับของสารซีโรโทนิน (Serotonin) ของเซลล์สมอง ทำให้ระดับ serotonin มีความเข้มข้นที่เหมาะสม จนส่งผลให้เกิดฤทธิ์บรรเทาอาการซึมเศร้าตามสรรพคุณ Citalopram ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (USFDA) ในปี ค.ศ. 1998 และผลิตโดย Teva Pharmaceuticals
ข้อควรระวังของ Citalopram
องค์การอาหารและยาระบุให้มีคำเตือนในฉลากเกี่ยวกับการใช้ยา citalopram ในเด็ก วัยรุ่น และหนุ่มสาวที่มีอายุต่ำกว่า 24 ปี อาจมีความคิดและพฤติกรรมฆ่าตัวตาย
สถาบันสุขภาพแห่งชาติแนะนำว่าไม่ควรใช้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี องค์การอาหารและยาประกาศในปี ค.ศ. 2012 ห้ามใช้Citalopram ในปริมาณที่มากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อวันเนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจเพิ่มกิจกรรมของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (มีการเปลี่ยนแปลงของจังหวะการเต้นของหัวใจ) เด็กที่ใช้ citalopram อาจไวต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น เบื่ออาหารและน้ำหนักลด แพทย์ต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
Citalopram อาจทำให้เกิดภาวะคลอดยากหากกินยาในช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ทารกบางคนอาจมีอาการถอนยา กินยาก หายใจลำบาก อาการชัก กล้ามเนื้อแข็ง หรือร้องไห้ตลอดเวลา ควรแจ้งแพทย์หากเกิดอาการข้างต้น ยานี้อาจทำให้คุณรู้สึกง่วงนอน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิจนกว่าจะรู้ว่า citalopram มีผลต่อร่างกายอย่างไร
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
Citalopram และ QT Prolongation
QT Interval : การดู เริ่มต้นที่ ต้น Q wave สุดที่ ปลาย T wave QT interval ปกติไม่เกิน 0.44sec (11 ช่องเล็ก)
PROLONG QT INTERVAL คือ มี QT INTERVAL > 460 MSEC สำหรับผู้หญิง มากกว่า 440 MSEC สำหรับผู้ชาย การเกิด PROLONG QT INTERVAL อาจเกิดเป็นบางครั้งก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพบตลอดเวลา ทำให้ใจสั่น เป็นลม cardiac arrest และเสียชีวิตกะทันหัน Citalopram อาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า QT prolongation (การเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็วหรือไม่สม่ำเสมอ) ซึ่งร้ายแรงแต่ไม่ทำให้ถึงตาย หากคุณพบการเปลี่ยนแปลงในการเต้นของหัวใจหรืออาการอื่น ๆ เช่น อาการวิงเวียนศีรษะหรือเป็นลมอย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์ทันที
ความเสี่ยงต่อการเกิด QT prolongation จะเพิ่มขึ้นหากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ เช่น การเต้นของหัวใจช้า เคยมีอาการหัวใจวายไม่นานมานี้ หรือมีประวัติคนในครอบครัวมีปัญหาโรคหัวใจรวมทั้งการตายจากโรคหัวใจเฉียบพลัน ระดับโพแทสเซียมหรือแมกนีเซียมในเลือดต่ำ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด QT prolongation และจะเสี่ยงเพิ่มขึ้นหากคุณใช้ยาขับปัสสาวะ
ผู้สูงอายุอาจไวต่อการเกิดผลข้างเคียงของยานี้มากขึ้นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการตกเลือดร่วมด้วย หรือมีภาวะสูญเสียการประสานงานของร่างกายและภาวะ QT prolongation แพทย์อาจต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG, EKG) เพื่อตรวจสอบอัตราการเต้นและจังหวะการเต้นของหัวใจ และตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบระดับโพแทสเซียมและแมกนีเซียมของคุณ
การใช้ Citalopram ในหญิงตั้งครรภ์
ห้ามใช้ยานี้กับสตรีตั้งครรภ์ สตรีที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร และเด็กโดยไม่มีคำสั่งจากแพทย์
ภาวะ 'เมายา' ‘ใช้ยาผิดวิธี' และ 'ถอนยา' ของ Citalopram
มีรายงานว่า มีการใช้ citalopram แบบผิด ๆ (แต่ในรายงานระบุว่า ยังมีจำนวนไม่มากนัก) เพื่อให้รู้สึกมึนเมา สบายใจ เหมือนยาแก้ซึมเศร้าตัวอื่น ๆ อาการถอนยาของ citalopram หรือ SSRIs อื่น ๆ อาจทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า SSRI discontinuation syndrome ดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- คลื่นไส้
- ความผิดปกติทางเพศ
- อาการซึมเศร้าหรือความคิดฆ่าตัวตาย
- ปัญหาเรื่องความจำ
- ตัวสั่น
- ความฝันที่สดใส
อย่าหยุดใช้ citalopram โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ แพทย์จะค่อย ๆ ลดปริมาณลงอย่างช้า ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการถอนยา
ผลข้างเคียงของ Citalopram
ผลข้างเคียงที่พบโดยทั่วไปและควรแจ้งให้แพทย์ทราบ Citalopram
- คลื่นไส้
- ปากแห้ง
- เบื่ออาหาร
- ความเมื่อยล้า
- อาการง่วงนอน
- เหงื่อออก
- มองเห็นภาพซ้อน
- หาวนอน
บางกรณีอาจเกิดภาวะฮอร์โมนโปรแลคติน (Prolactin, ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองที่เกี่ยวข้องกับการหลั่งน้ำนม) ในเลือดเพิ่มสูงขึ้นทำให้มีน้ำนมไหลได้
ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงของ Citalopram
หากคุณมีผลข้างเคียงร้ายแรงต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ทันที
- เป็นลม
- การเต้นของหัวใจรวดเร็วหรือไม่สม่ำเสมอ
- อุจจาระสีดำ
- อาเจียนมีลักษณะคล้ายกับกาแฟ
- ชัก
- ตัวสั่น (tremors)
- ความต้องการทางเพศลดลง
- การเปลี่ยนแปลงด้านสมรรถนะทางเพศ
- มีรอยช้ำหรือมีเลือดออกง่าย
อาการแพ้รุนแรงของยา citalopram ข้างต้น เป็นเรื่องที่พบได้น้อย ควรไปพบแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการดังต่อไปนี้
- ผื่น
- มีอาการคันหรือบวม (โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้น หรือลำคอ)
- เวียนศีรษะรุนแรง
- หายใจลำบาก
serotonin syndrome
เนื่องจากยานี้อาจเพิ่มระดับ serotonin ในร่างกาย ซึ่งบางกรณีอาจทำให้เกิดอาการที่เรียกว่า serotonin syndrome เช่น
- หัวใจเต้นเร็ว
- เห็นภาพหลอน
- สูญเสียการประสานงานของร่างกาย
- เวียนศีรษะรุนแรง
- คลื่นไส/อาเจียนรุนแรง
- โรคอุจจาระร่วงรุนแรง
- กล้ามเนื้อกระตุก
- มีไข้
- ตัวสั่นและกระวนกระวายใจ
ในบางกรณี (พบไม่มากนัก) อาจทำให้เกิดการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (priapism) เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง หากเกิดเหตุการณ์นี้ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อป้องกันปัญหาถาวร
การเกิดปฏิกิริยาของ Citalopram กับยาอื่น
การใช้ citalopram ร่วมกับยากลุ่ม monoamine oxidase (MAOI) อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต à ไม่ควรรับประทาน MAOI 14 วันก่อนหรือหลังการใช้ citalopram ตัวอย่างบางส่วนของยา MAOI เช่น isocarboxazid (Marplan), linezolid (Zyvox), phenelzine (Nardil), selegiline (Eldepryl, Emsam, Zelapar) หรือ tranylcypromine (Parnate)
ยาที่อาจทำให้เลือดออกหรือมีอาการช้ำ ได้แก่ ยาต้านเกล็ดเลือดเกาะตัว (antiplatelet drugs) เช่น clopidogrel (Plavix); NSAIDs เช่น ibuprofen; และยาป้องกันเลือดแข็งตัว เช่น warfarin (Coumadin) อาจมีปฏิกิริยากับ citalopram à แอสไพรินอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกเมื่อใช้ร่วมกับ citalopram ยกเว้นในกรณีที่แพทย์กำหนดให้ยาแอสไพรินขนาดต่ำใช้รักษาอาการหัวใจวายหรือป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง เว้นแต่แพทย์จะบอกให้หยุด
ความเสี่ยงของโรค serotonin (serotonin มากเกินไปในสมอง) หากกิน citalopram พร้อมกับยาเหล่านี้ ยาเสพติดในท้องถนน เช่น MDMA (ecstasy), อาหารเสริมSt. Johns wort,Tryptophan,Fluoxetine,Venlafaxine
เป็นผู้ติดสุราหรือไม่? แอลกอฮอล์หรือยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงนอน เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยานอนหลับ หรือยาคลายวิตกกังวล ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ไข้หวัด เช่น Phenylpropanolamine อาจทำให้ได้รับผลข้างเคียงของ Phenylpropanolamine ติดตามมาได้มาก เช่น กระสับกระส่าย วิตกกังวล บางกรณีการใช้ยาทั้งคู่ร่วมกันอาจทำให้เกิดภาวะ Serotonin syndrome เพื่อเป็นการป้องกันอาการข้างเคียงดังกล่าว จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาร่วมกัน
การใช้ยา citalopram ร่วมกับยา Codeine อาจลดฤทธิ์การรักษาของ Codeine หากมีความจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นรายบุคคลไป อย่าใช้ยาที่มี escitalopram (Lexapro) ในขณะที่ใช้ citalopram เนื่องจากยาเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันมาก
ประวัติเป็นโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) หรือโรคซึมเศร้า (manic) ความพยายามฆ่าตัวตาย โรคตับ ชักโซเดียมในเลือดต่ำ มีเลือดออกในลำไส้ หรือผู้ป่วยเคยแพ้ยานี้มาก่อน โรคไต ต้อหิน โรคลมชัก โรคหัวใจชนิดต่าง ๆ
การใช้ยา citalopram ร่วมกับยา Omeprazole อาจทำให้ระดับยา citalopram ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นจนอาจทำให้ผู้ป่วยได้รับอาการข้างเคียงจากยา citalopram หากจำเป็นต้องใช้ยาร่วมกัน แพทย์จะปรับขนาดรับประทานให้เหมาะสมเป็นกรณีไป
ขนาดการใช้ยา Citalopram
Citalopram อยู่ในรูปแบบเม็ดขนาดยา 10 20 และ 40 มิลลิกรัม
ผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป: รับประทานเริ่มต้น 20 มิลลิกรัม/วัน หลังจากใช้ยานี้ไป 1 สัปดาห์ แพทย์อาจปรับขนาดรับประทานเพิ่มเป็น 40 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานเพื่อคงระดับการรักษาอยู่ที่ 20 - 40 มิลลิกรัม/วัน ขนาดรับประทานสูงสุดไม่เกิน 40 มิลลิกรัม/วัน
ผู้สูงอายุ: รับประทานยานี้ได้สูงสุดไม่ควรเกิน 20 มิลลิกรัม/วัน
ผู้อายุต่ำกว่า 18 ปี: การใช้ยานี้ต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาเป็นกรณี ๆ ไป
สามารถรับประทานยานี้ก่อนหรือพร้อมอาหารก็ได้
ควรรับประทานยานี้ให้ตรงเวลา ห้ามปรับขนาดรับประทานด้วยตนเอง อาการข้างเคียงจากยาที่สามารถเกิดขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับผู้ป่วยแต่ละบุคคล บางรายอาจไม่ได้รับอาการข้างเคียงใด ๆ เลยก็เป็นได้ หลังการรับประทานยา citalopram อาจต้องใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะเห็นประสิทธิผลของการรักษา
หากอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้นตามระยะเวลาที่เหมาะสม ควรนำผู้ป่วยกลับมาพบแพทย์เพื่อพิจารณาปรับแนวทางการรักษา หากลืมรับประทานยา citalopram สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ หากเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า
อาการของผู้ที่ได้รับยาเกินขนาด Citalopram
อาการของการรับยาเกินขนาด
- เจ็บหน้าอก
- หายใจถี่
- เวียนหัว
- เป็นลม
- เหงื่อออกมากเกินไป
- การเต้นของหัวใจผิดปกติ
- ภาพหลอน
- อาการโคม่า
- ความสับสน
- ไข้
- กล้ามเนื้อกระตุก
- อาการโรคลมพิษ
- แผล
- ผื่น
- คัน
- สูญเสียความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหว
- อาการปวดหัว
- ชัก
- อาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น คอหอย ตา มือ เท้า ข้อเท้า หรือขาส่วนล่าง
หากคุณสงสัยว่าได้รับยาเกินขนาด ควรรีบไปพบแพทย์ฉุกเฉินทันที
การเก็บรักษายา Citalopram
ควรเก็บยา Citalopram ในอุณหภูมิห้องที่เย็น ไม่เก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ไม่เก็บยาในห้องน้ำหรือในรถยนต์ เก็บยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด พ้นแสงแดด ความร้อน และความชื้น และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
Citalopram ในประเทศไทย/ผู้ผลิต
ชื่อการค้า/บริษัทผู้ผลิต
- CITARA /Intas
- CITOLA/La Pharma
- CITOPAM/Sun (Synergy)
- C-PRAM/Unichem
- CITALOP TAB/East West
- CITALOMINE/Psycorem
- CITADEP/Cipla
- CELICA /Ranbaxy (Solus)
- CELEPRA/Micro Synapse
รูปภาพ Citalopram
คำถามที่พบบ่อย
ถาม: ดื่มแอลกอฮอล์พร้อมรับประทายยา citalopram ได้หรือไม่?
ตอบ: ผู้ป่วยที่กินยา citalopram ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งสามารถเพิ่มผลข้างเคียงบางอย่างของ citalopram ได้ อย่าหยุดหรือเปลี่ยนปริมาณยาที่คุณทานโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
ถาม: ฉันทานยา alprazolam 3 ครั้งต่อวัน และต้องเริ่มทานยา citalopram ด้วย เวลาที่ดีที่สุดในการกินยา citalopram คือเวลากลางคืนหรือตอนเช้า?
ตอบ: ควรเริ่มกิน citalopram ในตอนเช้า อาจพบผลข้างเคียง คือ อาการนอนไม่หลับ ควรสังเกตุอาการหากคุณรู้สึกง่วงนอนตอนกินยาช่วงแรก อย่าดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่ใช้ยาเหล่านี้
ถาม: ฉันกินยา citalopram ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2009 ในช่วงหกเดือนแรก ฉันมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 20 ปอนด์ นี่เป็นผลข้างเคียงจากยาใช่ไหม และมีอะไรที่จะต่อสู้กับอาการข้างเคียงนี้?
ตอบ: มีรายงานของ Celexa ถึงอาการข้างเคียงของน้ำหนักที่ลดลงและเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย Celexa ในกลุ่มควบคุมพบว่า มีน้ำหนักลดลงประมาณ 0.5 กก. เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับยาหลอก
ถาม: ขณะนี้ฉันกินยา citalopram 10 มิลลิกรัมก่อนนอน bupropion 75mg เวลา 9.00 น. ก่อนนอนและ Synthroid 100 ไมโครกรัมเวลา 6.00 น. ทำไมฉันจึงรู้สึกง่วงนอนตลอดทั้งวัน?
ตอบ: อาการง่วงนอนเป็นผลข้างเคียงของ citalopram (Celexa) คุณกินยานี้ก่อนนอนตามที่แนะนำ หากคุณนอนไม่หลับช่วงกลางคืน อาจทำให้ง่วงนอนเวลากลางวัน ควรปรึกษาแพทย์ถึงอาการง่วงนอนที่เกิดขึ้น
ถาม: มีผลข้างเคียงที่ไม่ดีจากการใช้ citalopram ทุกวันไหม? ฉันเพิ่มระดับยาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและฉันยังกินยา propranolol ด้วย ฉันทรมานจากปัญหาการระงับความโกรธเช่นเดียวกับภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย ฉันควรจะทำอย่างไร?
คำคอบ: ความกังวลหลักเกี่ยวกับ citalopram คือ ผู้ป่วยวัยรุ่นที่เข้ารับการรักษาอาจมีความคิดและพฤติกรรมการฆ่าตัวตาย แต่อาการข้างเคียงนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่เป็นอาการข้างเคียงที่ต้องตรวจสอบ
ผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้แก่ ผื่น ท้องผูก ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ระคายเคือง ตัวสั่น ความผิดปกติในการหลั่งอสุจิ โพรงจมูกอักเสบ และการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน ผลข้างเคียงที่ร้ายแรงอื่น ๆ แต่ไม่ค่อยพบ คือ กล้ามเนื้อหัวใจตาย ภาวะโลหิตจาง ต่อมน้ำเหลืองโต (lymphadenopathy) และ serotonin syndrome
ถาม: วันที่ 3 ของการหยุดกินยา citalopram ฉันรู้สึกแย่มาก ฉันหยุดยาอย่างช้า ๆ จาก 30 เป็น 20 ถึง 10 ภายในหนึ่งเดือน ฉันหยุดยาเร็วเกินไปหรือ?
ตอบ: การหยุดกินยา citalopram ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ อย่าหยุดใช้ citalopram เอง เพราะอาจพบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
ถาม: citalopram เป็นยาที่ดีเหมือน Lexapro หรือไม่?
ตอบ: Lexapro= ESCITALOPRAM citalopram และ Lexapro มีสารเคมีที่ออกฤทธิ์หลักใกล้เคียงกัน เป็นเสมือนยาตัวเดียวกัน
ถาม: แพทย์ของฉันบอกว่าฉันมีภาวะซึมเศร้าเพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงฉันมีอาการของโรคอารมณ์สองขั้วด้วย แพทย์ให้ฉันกิน citalopram ฉันควรทำอย่างไร?
ตอบ: Citalopram เป็นยารักษาภาวะซึมเศร้าที่อยู่ในกลุ่มของยาที่เรียกว่า selectors serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) SSRIs ส่งผลกระทบต่อสารเคมีในสมองที่อาจไม่สมดุลและทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า อาจต้องใช้เวลา 4-6 สัปดาห์เพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้น ควรใช้ citalopram ตามที่แพทย์กำหนด ไม่ควรหยุดใช้ citalopram ทันที เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการถอนยาซึ่งอาจรุนแรง และคุณควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความกังวลที่คุณมีเกี่ยวกับการวินิจฉัย
ถาม: ฉันกินยา Citalopram และเพิ่งหยุดยา ฉันเพิ่งรู้ว่าอาการหัวเบาและหาวเป็นอาการข้างเคียงหรืออาการถอนยาของยาตัวนี้ ฉันมีอาการปวดที่ขาข้างบนด้วย มีอะไรจะช่วยได้บ้างไหม? ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ อาจเป็นการประมาณการคร่าว ๆ ว่าอาการข้างเคียงจะเกิดขึ้นนานแค่ไหน?
ตอบ: Citalopram (Celexa) เป็นยาที่ใช้รักษาภาวะซึมเศร้าและภาวะอื่น ๆ ตามที่แพทย์กำหนด Citalopram มีความเสี่ยงต่ออาการถอนยาเมื่อหยุดกินยาแบบทันที การลดขนาดยา citalopram ลงอย่างช้า ๆ จะช่วยลดอาการถอนยาได้ อาการถอนยา ได้แก่ อาการวิงเวียนศีรษะ ง่วงนอน ฝันชัดเจน หงุดหงิด อาการคลื่นไส้ รู้สึกเสียวซ่า และปวดศีรษะ แต่ละคนจะตอบสนองต่อยาแตกต่างกัน
ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการถอนยาอย่างมาก ในขณะที่คนอื่น ๆ อาจไม่มีอาการมากมาย ระยะเวลาที่ใช้ค่อย ๆ ลดยา จะไม่มีกรอบเวลาที่เฉพาะเจาะจง บางการศึกษาแนะนำว่า อาจใช้เวลาประมาณ 1-8 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์กรณีต้องการหยุดยา
ถาม : ขณะนี้ฉันกิน Citalopram ขนาด 20 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากฉันเริ่มมีภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย แพทย์จึงให้เพิ่มขนาดยานี้เป็น 40 มิลลิกรัมต่อวัน ฉันกำลังอยู่ในภาวะลดน้ำหนักมาได้หลายเดือนแล้ว แต่การลดน้ำหนักของฉันช้ามาก ประมาณหนึ่งปอนด์ต่อสัปดาห์ และฉันจะเกลียดการกินยาเพิ่มมาก ฉันไม่มีเหตุผลใช่หรือไม่?
ตอบ: การใช้ Citalopram ในการรักษาภาวะซึมเศร้าเริ่มต้น คือ 20 มก. ต่อวัน อาจเพิ่มขึ้นถึง 40 mg ได้ ขนาดยาที่มีประสิทธิภาพของ citalopram ในผู้ใหญ่ คือ 20 ถึง 40 มก. / วัน ซึ่งปริมาณสูงสุด คือ 60 มก. ต่อวัน ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นของ citalopram อย่างหนึ่ง คือ มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักวิจัยจาก University of Maryland Medical Center พบว่า ผู้ป่วยที่กิน citalopram มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นประมาณ 10% หรือน้อยกว่า อีกการศึกษาหนึ่งสรุปได้ว่า ผู้ป่วยที่ได้รับ citalopram มีโอกาสเจอภาวะน้ำหนักลดลง 0.5 กิโลกรัม (ประมาณ 1 ปอนด์) ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
ถาม: ฉันเพิ่งหยุดกิน citalopram ฉันรู้สึกดีมากเพราะฉันไม่มีอาการตื่นตระหนกอีกต่อไป สิ่งเดียวที่ฉันกังวล คือ ถ้าฉันขยับศีรษะไปด้านข้างหรือขยับตาไปทางด้านข้าง ฉันจะรู้สึกเวียนหัว เป็นเพียงแค่ผลข้างเคียงของยาและอาการนี้จะหายไหม?
ตอบ: Celexa (citalopram) เป็น SSRI (selector serotonin reuptake inhibitor) ที่ใช้รักษาภาวะซึมเศร้า อาการวิงเวียนศีรษะไม่ได้เป็นผลข้างเคียงที่เป็นทางการ แต่มีรายงานพบว่า อาการวิงเวียนศีรษะเมื่อหยุด SSRIs บางชนิดเร็วเกินไป อาจมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการหยุดยา SSRI เร็วเกินไป คุณควรกลับมากินยาอีกครั้งและใช้วิธีค่อย ๆ ลดยาลง เพื่อให้ร่างกายปรับตัวจะดีกว่า
ทั้งนี้ แต่ละคนจะตอบสนองยาที่แตกต่างกันและระยะเวลาในการลดยาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
ถาม: ฉันกินยา citalopram และบางครั้งก็รู้สึกหงุดหงิดง่าย ยานี้ทำให้เกิดอาการข้างเคียงนี้ได้หรือไม่?
คำตอบ: ผลข้างเคียงของ citalopram ที่พบมาก คือ ง่วงนอน นอนไม่หลับ คลื่นไส้ ปากแห้ง เหงื่อออกมาก เมื่อยล้า ท้องเสีย ปวดท้อง ความผิดปกติทางเพศ ตัวสั่น อาการคัดจมูก และการติดเชื้อของจมูกคอไซนัสหรือกล่องเสียง ว้าวุ่นใจและวิตกกังวล
คนที่กิน citalopram ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากพบอาการดังนี้: หงุดหงิด วิตกกังวล หงุดหงิด ตื่นตระหนก นอนไม่หลับ อาการไม่เป็นมิตร ก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง (impulsivity) ร้อนรน คลุ้มคลั่ง (hypomania) การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ผิดปกติอื่น ๆ เช่น ภาวะซึมเศร้า มีความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย
ควรสังเกตอาการเหล่านี้ในช่วงแรกของการรักษา หรือเมื่อปรับขนาดยาขึ้นหรือลง หรือควรสังเกตอาการเหล่านี้ทุกวันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นทันทีทันใด และอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในพฤติกรรมการฆ่าตัวตาย ซึ่งแพทย์อาจต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิดและอาจเปลี่ยนยาหากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น
ถาม: จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันหยุดใช้ยา citalopram ทันทีโดยไม่ได้ลดปริมาณยาแบบค่อย ๆ?
ตอบ: Citalopram เป็นยาแก้ซึมเศร้าในกลุ่มของยาที่เรียกว่า selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) ยาประเภทนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหากหยุดใช้ยาเหล่านี้อย่างฉับพลัน อย่าหยุดใช้ citalopram โดยไม่ปรึกษาแพทย์
ถาม: citalopram ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับหรือไม่?
ตอบ: Celexa (citalopram) เป็นยาแก้ซึมเศร้าที่ใช้รักษาภาวะซึมเศร้า การนอนไม่หลับเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยใน Citalopram ผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ citalopram เช่น มีอาการคลื่นไส้ ปากแห้ง ง่วงนอน เหงื่อออก ตัวสั่น ท้องร่วงคลื่นไส้ ความวิตกกังวล อาการเบื่ออาหาร ความกังวลใจและความต้องการทางเพศลดลง
ถาม: ฉันไม่ได้มีปัญหาภาวะซึมเศร้า แต่มีภาวะวิตกกังวล ฉันควรจะกินยา citalopram หรือไม่?
ตอบ: Citalopram (Celexa) เป็นยาแก้ซึมเศร้าที่อยู่ในกลุ่มของยาที่เรียกว่า selectors serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) SSRIs ส่งผลกระทบต่อสารเคมีในสมองที่อาจไม่สมดุลและทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ยาตัวนี้มักนำมาใช้รักษาอาการที่ไม่ได้ระบุไว้ในข้อมูลยา เรียกว่า "off-label," "unlabelled," or "unapproved"
citalopram ใช้รักษาภาวะวิตกกังวล ซึ่งเป็นอาการนอกรายการที่ได้อนุมัติ อาจใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของ citalopram ได้แก่ อาการง่วงนอน นอนไม่หลับ คลื่นไส้ มีแก๊สในกระเพาะอาหารปวดท้อง น้ำหนักเปลี่ยนแปลง ปัสสาวะมากขึ้น ความต้องการทางเพศลดลง สมรรถภาพทางเพศลดลง ปากแห้งหรือหาวนอน
ถาม: ฉันใช้ citalopram มาระยะหนึ่ง แต่หยุดกินไป ฉันสามารถเริ่มใช้อีกครั้งโดยไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?
คำตอบ: Citalopram (Celexa) เป็นยากลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า selectors serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) Citalopram ใช้รักษาภาวะซึมเศร้า การใช้ยาต้านอาการซึมเศร้าควรได้รับการตรวจสอบอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ ไม่แนะนำให้ยุติการใช้ยาต้านอาการซึมเศร้าอย่างฉับพลันและการหยุดยาควรอยู่ใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
ถาม: citalopram หรือ trazodone ทำให้ท้องเสียหรือท้องร่วงได้หรือไม่?
ตอบ: ตามข้อมูลยาของ FDA อาการท้องเสียหรือท้องร่วงไม่ได้เป็นผลข้างเคียงของ trazodone หรือ citalopram
การปรับเปลี่ยนอาหารอาจช่วยลดอาการท้องเสียได้ กินอาหารเพื่อสุขภาพที่มีไขมันต่ำ ดื่มน้ำหกถึงแปดแก้วต่อวัน รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ แต่บ่อยครั้งมากขึ้น เพิ่มอาหารที่มีเส้นใย (อาหารเสริมหรือกินอาหารที่มีเส้นใยสูง) เส้นใยที่ละลายน้ำได้ซึ่งอยู่ในรูปอาหาร เช่น ผักโขม แอปเปิ้ล และมะเดื่อ ช่วยให้อาการท้องผูกและท้องร่วงดีขึ้น เส้นใยที่ไม่ละลายน้ำรวมทั้งขนมปัง ธัญพืช ช่วยให้อุจจาระของคุณเป็นก้อนหากคุณมีอาการท้องร่วง
หากมีก๊าซในลำไส้ อาจเป็นเพราะคุณกินอาหารเพิ่มเส้นใยมากและเร็วเกินไป Celexa (citalopram) เป็นยาแก้ซึมเศร้าที่มีผลต่อสารเคมีในสมองที่อาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า อย่าหยุดใช้ citalopram โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจมีอาการการถอนยา เช่น อาการคลื่นไส้ ปวดศีรษะ ความเมื่อยล้า และเหงื่อออก
Desyrel (Trazodone) จะเพิ่มการทำงานของ serotonin ในสมองซึ่งอาจทำให้ไม่สมดุลและทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า Trazodone ยังใช้ในการรักษาความวิตกกังวล นอนไม่หลับ และอาการปวดเรื้อรัง ปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนที่จะหยุดกินยา trazodone
ถาม: พ่ออายุ 90 ปีของฉันกำลังจะเริ่มใช้ citalopram มีผลข้างเคียงที่ควรระวังหรือไม่?
ตอบ: Citalopram (Celexa) เป็นยาในกลุ่มที่เรียกว่า selector serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) Citalopram ทำงานโดยมีผลต่อสารเคมีในสมองที่เรียกว่าสารสื่อประสาท (neurotransmitters) Celexa ได้รับการอนุมัติเพื่อใช้ในการรักษาภาวะซึมเศร้า
ผลข้างเคียงที่พบมากของ citalopram คือ อาการคลื่นไส้ ปัญหาการนอนหลับ ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ปากแห้ง เหงื่อออก อาการท้องร่วง และเวียนศีรษะ Citalopram อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ใช้ยาอื่น ๆ ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือด เช่น NSAIDs เช่น ibuprofen naproxen และ aspirin รวมทั้ง warfarin
ผู้ป่วยบางรายมีอาการแย่ลงหรือคิดฆ่าตัวตายเมื่อเริ่มใช้ยารักษาซึมเศร้า หากพ่อของคุณมีอารมณ์หรือมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม วิตกกังวล กระวนกระวาย นอนไม่หลับ หงุดหงิด ตื่นเต้น กระสับกระส่าย ควรรีบปรึกษาแพทย์
ถาม: อาการถอนยาของ Citalopram จะใช้เวลานานเท่าใด?
ตอบ: หากยังไม่ได้รับการรักษา อาการถอนยาที่เกิดจากการเลิกใช้ยากลุ่ม selctive reuptake serotonin selective serotonin (SSRI) เช่น citalopram (Celexa) อาจมีอาการนานตั้งแต่หนึ่งถึงสามสัปดาห์
ตามข้อมูลยา citalopram การหยุดยาต้องค่อย ๆ ลดขนาดยา หากมีอาการถอนยา อาจต้องการเริ่มใช้ยาในปริมาณที่กินหลังสุด และการลดยาลงช้า ๆ อาจช่วยบรรเทาอาการถอนยาได้ ระยะเวลาที่ผู้ป่วยมีอาการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะบางอย่างของผู้ป่วย การเลิกใช้ citalopram ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์