บทนำ
โคลพิโดเกรล หรือที่รู้จักในชื่อการค้า พลาวิกซ์ (Plavix) เป็นยาในกลุ่มยาต้านการแข็งตัวของเลือด ใช้ในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง มักมีการใช้ยาร่วมกับยาแอสไพริน (aspirin) ในผู้ป่วยโรคหัวใจและในผู้ป่วยที่มีการใส่สเตนท์ (stent) ที่หลอดเลือดโคโรนารี อาร์เทอรี (โดยใช้เป็น dual antiplatelet therapy) ยาโคลพิโดเกรลบริหารโดยวิธีการรับประทาน ยาออกฤทธิ์ในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงและออกฤทธิ์ยาวนาน 5 วัน มีการกล่าวถึงยาโคพิโดเกรลครั้งแรกในปีค.ศ. 1982 และมีการรับรองการใช้เป็นยารักษาโรคในปีค.ศ. 1998 ยาโคพิโดเกรลยังเป็นยาที่อยู่ในบัญชียาหลักขององค์การอนามัยโลกอีกด้วย
ตัวอย่างยี่ห้อของยา Clopidogrel ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรค และอาการที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยานี้บรรเทา
- ข้อบ่งใช้สำหรับป้องกันการอุดตันของเลือด
- ข้อบ่งใช้สำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจ
กลไกการออกฤทธิ์ของยา Clopidogrel
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือ โคลพิโดเกรล เป็นยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด โคลพิโดเกรลยับยั้งอะดีโนซีน ไดฟอสเฟต (adenosine diphosphate) ในการจับกับตัวรับเกร็ดเลือด P2Y12 อย่างจำเพาะรวมไปถึงตัวกระตุ้นการแข็งตัวของเลือดอื่นอันเป็นผลมาจากไกลโคโปรตีนคอมเพลกซ์ (glycoproteincomplex) ชนิด GPIIb/IIIa ส่งผลให้เกิดการลดการเกาะกลุ่มกันของเกร็ดเลือด
ข้อบ่งใช้ของยา Clopidogrel
ข้อบ่งใช้สำหรับป้องกันการอุดตันของเลือด ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่ ขนาด 75 มิลลิกรัมต่อวัน ข้อบ่งใช้สำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ยาในรูปแบบยารับประทาน ขนาดการใช้ยาในผู้ใหญ่สำหรับผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ชนิด ST-elevation โดยใช้ร่วมกับยาแอสไพริน ใช้ยานี้ขนาด 75 มิลลิกรัมต่อวัน ให้ loading dose ขนาด 300 มิลลิกรัมในผู้ป่วยที่มีอายุน้อยกว่า 75 ปี รักษาต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อยสี่สัปดาห์ สำหรับผู้ป่วย unstable angina หรือ ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดที่ไม่มี ST-elevation โดยใช้ร่วมกับยาแอสไพริน ใช้ยานี้เริ่มต้นขนาด 300 มิลลิกรัมเป็น loading dose ตามด้วยยานี้ขนาด 75 มิลลิกรัม วันละครั้ง เป็นเวลา 12 เดือน
ข้อปฏิบัติเมื่อลืมรับประทานยา Clopidogrel
หากลืมรับประทานยาตามเวลาปกติที่รับประทาน ถ้าปกติรับประทาน 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้จำนวน 1 เม็ดโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ดแทนเม็ดที่ลืมรับประทาน ในกรณีลืมรับประทานยาใกล้กับเวลารับประทานถัดไป ให้รับประทานยาในมื้อถัดไปในขนาด 1 เม็ด โดยข้ามยาในมื้อที่ลืมไปและไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เม็ด
ข้อควรระวังของการใช้ยา Clopidogrel
- ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออก (เช่น แผลในกระเพาะอาหาร ภาวะเลือดออกในสมอง) - ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงของการเกิดเลือดออกจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด หรือพยาธิวิทยา - ระวังการใช้ยานี้ในผู้ป่วยโรคไต โรคตับ - ระวังการใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
ผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา Clopidogrel
ยานี้อาจก่อให้เกิดอาการอันไม่พึงประสงค์ ได้แก่ เกิดภาวะเลือดออกในเนื้อเยื่อ เลือดกำเดาไหล ท้องเสีย กลืนลำบาก ปวดท้อง เลือดออกบริเวณที่เจาะเลือด อาการอันไม่พึงประสงค์ที่พบได้น้อย ได้แก่ การแพ้ยาแบบ Steven Johnson syndrome Serum sickness
ข้อมูลการใช้ยาClopidogrelในสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
สำหรับการใช้ยาในสตรีมีครรภ์ ตัวยาจัดอยู่ในกลุ่ม category B คือยาค่อนข้างมีความปลอดภัยในการใช้ยาในสตรีมีครรภ์
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ประเภทของยาตามองค์การอาหารและยา ประเทศไทย
ยาจัดอยู่ในกลุ่มยาอันตราย จำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรชั้นหนึ่งเป็นผู้จ่ายยาเท่านั้น
ข้อมูลการเก็บรักษายา Clopidogrel
เก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส
สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาลในการสั่งใช้ยา
แพทย์และเภสัชกรสามารถให้ข้อมูลการใช้ยาอย่างปลอดภัย ผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลเหล่านี้แก่แพทย์หรือเภสัชกรเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้ยา
- แจ้งข้อมูลการใช้ยารักษาโรคประจำตัว ยาที่เพิ่งรับประทานก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทาน (รวมถึงวิตามิน และสมุนไพร) ในกรณีมียาประจำตัวจำนวนมาก ให้พกยาเพื่อให้แพทย์หรือเภสัชกรช่วยตรวจสอบก่อนสั่งจ่ายยาใหม่ ไม่ให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยาที่จะได้รับใหม่และยาที่เดิมที่ผู้ป่วยใช้อยู่
- แจ้งประวัติการแพ้ยา หรืออาการแพ้ที่เกิดขึ้นเมื่อใช้ยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือแพ้อาหารชนิดใดอยู่ (เนื่องจากยาบางชนิดมีส่วนประกอบของไข่ขาว นม ยีสต์) อาการที่เกิดขึ้น เช่น อาการบวม เกิดผื่น หายใจลำบาก หรือให้นำบัตรแพ้ยา พกติดตัวและแสดงบัตรนี้แก่แพทย์และเภสัชกรก่อนเข้าใช้บริการสุขภาพทุกครั้ง
- แจ้งข้อมูลในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร เนื่องจากยาบางชนิดส่งผลอันตรายต่อเด็กในครรภ์ หรือสามารถขับออกทางน้ำนมได้
- แจ้งข้อมูลที่จะส่งผลต่อการรับประทานยา เช่น มีปัญหาการกลืนลำบาก มีปัญหาด้านการมองเห็นหรืออ่านฉลากยา วิธีการรับประทานยา เพื่อแพทย์หรือเภสัชกรจะได้ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง