เห็ดหอม (Shiitake Mushroom) หรือเห็ดชิตาเกะ เป็นเห็ดที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออก ลักษณะของเห็ดชนิดนี้ คือจะมีหมวกเห็ดที่ค่อนข้างกลม มีสีน้ำตาลเข้ม บริเวณก้านดอกหรือโคนดอกจะมีสีขาว มีความอ่อนนิ่มและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
คุณค่าทางโภชนาการ
เห็ดหอมสด 100 กรัม มีพลังงาน 34 แคลอรี่ มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- โปรตีน 2.24 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 6.79 กรัม
- ใยอาหาร 2.5 กรัม
- น้ำตาล 2.38 กรัม
- แคลเซียม 2 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 20 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 112 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 304 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.41 มิลลิกรัม
- ไนอาซิน 3.87 มิลลิกรัม
- โฟเลต 13 ไมโครกรัม
- วิตามินดี 18 I.U.
- วิตามินบี 6 0.3 มิลลิกรัม
สารอาหารและแร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่
- เซเลเนียม (Se) เป็นแร่ธาตุที่ออกฤทธิ์ต้านการเกิดอนุมูลอิสระจึงลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และโรคต่างๆ ในผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
- โพแทสเซียม (K) เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ สมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของระบบกล้ามเนื้อและประสาท จึงช่วยให้หัวใจและระบบประสาททำงานได้ดีด้วย
- เหล็ก (Fe) เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในเม็ดเลือดแดง และเอนไซม์ต่างๆ ในร่างกาย
- ทองแดง (Cu) เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกาย ช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิวหนัง และทองแดงยังมีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วย
สรรพคุณของเห็ดหอม
เห็ดหอมเต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมาย และยังมีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย ได้แก่ ฤทธิ์การต้านไวรัส ฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ฤทธิ์ต้านเชื้อรา ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ต้านมะเร็ง ฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอล จึงทำให้มีสรรพคุณต่างๆ ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
-
ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินดี ที่ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ไปบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง การรับประทานเป็นประจำ จึงช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก และป้องกันโรคเกี่ยวกับกระดูกได้เป็นอย่างดี
-
ลดระดับคอเลสเตอรอล สารอิริตาดีนีนเป็นกรดอะมิโนที่มีในเห็ดหอม สามารถลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และยังมีสารสเตอรอล ที่จะช่วยลดการดูดซึมคอเลสเตอรอลในลำไส้ได้ดี นอกจากนี้ยังพบการศึกษาในห้องแล็บของ Tohoku University ประเทศญี่ปุ่นที่ระบุว่า ส่งผลให้คอเลสเตอรอลชนิด LDL ลดลง และยังพบว่าเส้นใยที่มีปริมาณสูง ช่วยดูดซับและขัดขวางการดูดซึมไขมันในทางเดินอาหารได้อีกด้วย
-
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เห็ดหอมมีสารเบต้ากลูแคน ที่จะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง จากการศึกษาทดลองพบว่า การรับประทานวันละ 5-10 กรัม ติดต่อกันประมาณ 4 สัปดาห์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นจริง
-
ป้องกันโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยพบว่า การรับประทานเห็ดหอมเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ เพราะมีแร่ธาตุและวิตามินหลากชนิดโดยเฉพาะ lentinan ซึ่งจัดเป็นเบต้ากลูแคนชนิดหนึ่ง ที่จะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านการติดเชื้อ ชะลอการแพร่กระจายและยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อร้าย และกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ป่วยมะเร็งเมื่อได้รับ lentinan ร่วมกับการทำเคมีบำบัดจะพบว่าขนาดของก้อนมะเร็งเล็กลง และอาการข้างเคียงที่เกิดจากการได้รับเคมีบำบัดก็ลดลงด้วยเช่นกัน
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กด -
บำรุงสมอง เห็ดหอมมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมองหลากหลายชนิด จึงช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และเสริมสร้างความจำได้อย่างดีเยี่ยม
-
บำรุงผิวพรรณ วิตามินในเห็ดหอมมีส่วนช่วยในการบำรุงผิว โดยการฟื้นฟูผิวจากการถูกทำร้ายโดยแสงแดด และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยจากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังพบว่าเซเลเนียม (Se) ที่พบในเห็ดหอมยังสามารถทำหน้าที่รักษาสิวตามธรรมชาติได้อีกด้วยคือสามารถช่วยลดความรุนแรงของการเกิดสิว และช่วยลดเลือนรอยแผลเป็นได้
-
ลดความเครียด เพราะอุดมด้วยวิตามินบีที่ช่วยควบคุมและปรับฮอร์โมนในร่างกายให้เกิดความสมดุล จึงช่วยลดภาวะเครียด และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวในการทำกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาทได้อีกด้วย
-
ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี เห็ดหอมสามารถกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น จึงทำให้ลำไส้ย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์เข้าสู่ร่างกายได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
-
ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก จากการศึกษาปี 2014 ใน The Nutrients journal ระบุว่าเห็ดหอม 100 กรัมมีแคลอรี่ประมาณ 34 แคลอรีและอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายจึงสามารถใช้เป็นอาหารสำหรับผู้ที่พยายามลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
เพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย เห็ดหอมประกอบด้วย วิตามินบี 2 สูงวิตามินบี 6 กรดแพนโทธีนิก วิตามินบี 3 และโฟเลตซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย
แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กดมีฤทธิ์ช่วยลดความดันโลหิต จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากเห็ดหอม เห็ดหลินจือและเห็ดไมตาเกะมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดจึงช่วยลดความดันโลหิตได้ นอกจากนี้ในเห็ดหอมยังพบเอนไซม์ที่เรียกว่าเอริทาดีนินสามารถช่วยป้องกันการหดตัวของหลอดเลือดและทำให้ความดันโลหิตลดลง
มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส พบรายงานว่าเห็ดหอม เห็ดตับเต่าและเห็ดหัวก้านสามารถยับยั้งไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ทั้งในหนูและในหลอดทดลอง
มีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต
เมนูสุขภาพจากเห็ดหอม
เห็ดหอมสามารถนำมาประกอบอาการได้หลากหลาย เช่นเมนูแนะนำดังต่อไปนี้
-
ปีกเป็ดตุ๋นเห็ดหอม นำปีกเป็ดมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นหมักด้วยซีอิ๊วหวาน พริกไทย เกลือ เหล้าจีน ทิ้งไว้ 10 นาที นำปีกเป็ดหมักไปทอดจนสุก ตักใส่หม้อตุ๋นเตรียมไว้ นำเห็ดหอมไปแช่น้ำจนนิ่มใส่ลงไปในหม้อตุ๋น ใส่น้ำที่แช่เห็ดหอมลงไปด้วย พร้อมกระเทียม ข่า อบเชย ผงพะโล้ ก้านผักชี ตามด้วยน้ำเปล่าให้ท่วมปีกเป็ด เติมซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วหวาน น้ำปลา แล้วตุ๋นด้วยไฟปานกลางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตักเครื่องตุ๋นออก แล้วตุ๋นต่ออีก 30 นาที จนปีกเป็ดเริ่มเปื่อย ตักใส่ถ้วยพร้อมรับประทาน
-
เห็ดหอมอบวุ้นเส้น หั่นกระเทียม ขิง รากผักชี ขึ้นฉ่าย และเต้าหู้เตรียมไว้ นำเห็ดหอมและวุ้นเส้นไปแช่น้ำจนนิ่ม แล้วนำวุ้นเส้นมาคลุกกับซอสหอยนางรม น้ำตาลทราย ซีอิ๊วดำ น้ำมันงา พริกไทย ผงปรุงรส และน้ำเปล่าเล็กน้อย เสร็จแล้วให้ใส่น้ำมันลงไปในหม้อที่ตั้งไฟไว้ เมื่อเริ่มร้อน นำเต้าหู้ลงไปจี่ ใส่เห็ดหอมลงไปผัด ตามด้วยขิง พริกไทยเม็ด และรากผักชี ปิดท้ายด้วยวุ้นเส้น ปิดฝาอบทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เมื่อวุ้นเส้นเริ่มสุก ใส่ขึ้นฉ่าย แล้วปิดฝาอบต่ออีกประมาณ 2 นาที
-
คะน้ากรอบเห็ดหอม นำเห็ดหอมไปแช่น้ำจนนิ่ม ตัดก้านออก นำมาคลุกกับน้ำมันงาและซีอิ๊วขาว ใส่น้ำมันลงไปในกระทะเล็กน้อย นำเห็ดหอมลงไปย่างจนสุก ตักใส่จาน ทำน้ำราดโดยการผสมแป้งข้าวโพดกับน้ำเปล่า เติมซีอิ๊วขาวลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำคะน้าไปลวกในน้ำร้อนจนสุก แล้วแช่ในน้ำเย็นต่อทันที จัดคะน้ากับเห็ดหอมในจาน ตักน้ำราดลงไป แต่งหน้าด้วยงาขาว ยกขึ้นเสิร์ฟทันที
-
น้ำพริกเห็ดหอม แช่เห็ดหอมในน้ำให้นิ่ม แล้วสับเห็ดหอมให้ละเอียด นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันลงไป ผัดเห็ดหอมให้สุก ใส่ซุปเห็ดหอมก้อน น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนูแห้ง เกลือป่น น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าเล็กน้อย ผสมทุกอย่างให้เข้ากันแล้วผัดจนน้ำพริกเริ่มแห้ง ปิดไฟ ตักขึ้นเสิร์ฟ
-
แกงจืดไก่ นำเห็ดหอมไปแช่น้ำให้นิ่ม จากนั้นสับเห็ดหอม แคร์รอต และเนื้อไก่ แล้วนำมาผสมเข้าด้วยกัน ใส่ซีอิ๊วขาวลงไป จากนั้นปั้นเป็นก้อนห่อด้วยใบกะหล่ำปลี ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่ใบกะหล่ำปลีที่ห่อไส้ไก่ไว้ลงไป ต้มให้เดือด ปิดไฟ ตักใส่ชาม
โทษของเห็ดหอม
แม้เห็ดหอมจะมีประโยชน์ แต่ก็อาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน ดังนี้
- ท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน สมาคมโรคมะเร็งของสหรัฐอเมริกาแนะนำว่าไม่ควรรับประทานเห็ดหอมจำนวนมากในครั้งเดียวเนื่องจากอาจจะเกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียนได้
- มีกรดนิวคลีอีกและพิวรีนสูง สารเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นกรดยูริคซึ่งจะทำให้อาการของโรคเก๊าต์กำเริบขึ้นได้ ผู้ป่วยโรคเก๊าต์ (gout) ควรงดการรับประทาน
- อาการแพ้ แม้เห็ดหอมจะมีความปลอดภัยสูงและดีต่อสุขภาพแต่บางท่านอาจจะเกิดการแพ้ได้ อาการแพ้ที่สามารถพบได้คือการบวมที่ใบหน้าและลำคอ หายใจลำบาก อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้น หากพบอาการเหล่านี้หลังจากรับประทานเห็ดหอมหรือที่เป็นอาหารเสริมเห็ดให้รีบไปพบแพทย์ทันที
- ผิวไวต่อแสงแดด สารประกอบบางชนิดที่พบในเห็ดหอมจะช่วยเพิ่มความไวของผิวหนังต่อแสงแดดเป็นพิเศษ
ข้อควรระวัง
เพื่อให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ จึงมีข้อควรระวังเล็กน้อย ดังนี้
-
ไม่ควรรับประทานแบบดิบ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ และเกิดผื่นคันตามผิวหนังผู้ป่วยโรคภูมิต้านตนเอง (Autoimmunity) ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เพราะอาจกระตุ้นให้อาการแย่ลงกว่าเดิม
-
ผู้ป่วยที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวอีโอซิโนฟิลสูงกว่าปกติ ควรงดการรับประทาน
-
สตรีมีครรภ์ และสตรีที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเห็ดหอมชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
- ไม่ควรรับประทานเห็ดร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เพราะแอลกอฮอล์ทำให้อัลบูมินในเห็ดแข็งตัวจะทำให้ย่อยยากมากขึ้น