ทีมนักกำหนดอาหารวิชาชีพ HD
เขียนโดย
ทีมนักกำหนดอาหารวิชาชีพ HD

ประโยชน์และผลข้างเคียงจากฟอสฟอรัส (Phosphorus)

"ฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ในขณะเดียวกันการได้รับฟอสฟอรัสมากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ "
เผยแพร่ครั้งแรก 21 พ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ประโยชน์และผลข้างเคียงจากฟอสฟอรัส (Phosphorus)

ฟอสฟอรัส เป็นแร่ธาตุชนิดหนึ่งที่ทำงานร่วมกับแคลเซียม มีความจำเป็นต่อร่างกายทั้งในภาวะปกติเพื่อการเจริญเติบโต และในภาวะเจ็บป่วย ปกติแล้วฟอสฟอรัสในร่างกายของคนเราจะถูกเก็บอยู่ในกระดูกประมาณ 80% อีก 10% อยู่ในกล้ามเนื้อ ส่วนที่เหลืออีก 10% จะอยู่ในเลือดที่อยู่ในรูปของฟอสเฟส

เมื่อตอนที่ยังเป็นเด็กและต้องการการเจริญเติบโต ร่างกายจะมีความต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัสเพื่อนำไปใช้ในการเสริมสร้างกระดูกให้โตและแข็งแรง ดังนั้นในเด็กจึงต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่มากกว่าผู้ใหญ่ นอกจากนี้ ฟอสฟอรัสยังจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ในร่างกาย เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้ตามปกติ ไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และกระตุ้นการหดตัวของกล้ามเนื้อด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเข่าและกระดูก สูตรเฉพาะ รวมสารสกัดที่ผ่านงานวิจัย คอลลาเจน UC-II ขมิ้นชัน งาดำ และวิตามิน

ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

เมื่อร่างกายได้รับฟอสฟอรัสจากการดูดซืมผ่านผนังลำไส้ ส่วนหนึ่งของฟอสฟอรัสในเลือดจะถูกขับออกทางปัสสาวะ หากไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ฟอสฟอรัสจะสมในร่างกาย

ระดับฟอสฟอรัสในเลือดปกติ ต่ำ และสูง

ฟอสฟอรัสในเลือดจะปกติ ต่ำ และสูง พิจารณาได้จากระดับฟอสฟอรัสในหน่วยมิลลิควิวาเลนต์ต่อลิตร ดังนี้

  • ระดับฟอสฟอรัสในเลือดปกติ อยู่ที่ 3.5-5.5 mEq/L
  • ระดับฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ น้อยกว่า 3.5 mEq/L (จะมีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรง)
  • ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง มากกว่า 5.5 mEq/L

ฟอสฟอรัสในเลือดต่ำ จะมีอาการอย่างไร?

ฟอสฟอรัสในเลือดต่ำทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร กล้ามเนื้ออ่อนแรง

เมื่อฟอสฟอรัสในเลือดสูงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

มีอาการทั้งภายนอกและภายในที่บ่งบอกถึงภาวะฟอสฟอรัสในเลือดสูง ดังนี้

  • คันตามผิวหนัง เนื่องจากฟอสฟอรัสที่มีมากในเลือดไปสะสมตามเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
  • กระดูกบางและเปราะ เนื่องจากเมื่อไตทำหน้าที่ได้น้อยลง การขับฟอสฟอรัสก็จะน้อยลงไปด้วย ทำให้เกิดการสะสมของฟอสฟอรัสมากขึ้นในหลอดเลือด ร่างกายจึงตอบสนองโดยการนำแคลเซียมมาจับกับฟอสฟอรัส หากระดับของแคลเซียมในเลือดไม่พอ แคลเซียมก็จะละลายออกมาจากกระดูก จนทำให้เนื้อกระดูกบางลง กระดูกจะเปราะและหักง่ายขึ้น
  • หลอดเลือดแดงแข็ง เกิดจากการตกตะตอนของแคลเซียมกับฟอสฟอรัส มักเกิดตามหลอดเลือดหัวใจ หรือหลอดเลือดที่ใช้ฟอกเลือด ทำให้อุดตันได้ง่าย
  • มีก้อนแคลเซียมเกาะตามเนื้อเยื่อต่างๆ ทำให้มีแผลเรื้อรัง
  • ภาวะต่อมพาราไทรอยด์โต เมื่อระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง จะกระตุ้นต่อมพาราไทรอยด์มากขึ้นเพื่อผลิตฮอร์โมนเร่งการสลายแคลเซียมในกระดูกเข้าสู่กระแสเลือด มีผลทำให้กระดูกบางด้วย

ฟอสฟอรัสกับการรับประทานอาหาร

ผู้ที่เป็นโรคไตเรื้อรังที่ได้รับการบำบัดทดแทนไตด้วยการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มักมีภาวะฟอสฟอรัสในเลือดสูง ร่างกายจะรักษาระดับฟอสฟอรัสให้อยู่ในระดับปกติ โดยมีตัวช่วยคือ แคลเซียมและฮอร์โมนพาราไทรอยด์ ฟอสฟอรัสสะสมจะมากหรือน้อยมักขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคจากอาหารด้วย

การควบคุมระดับฟอสฟอรัสในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยการควบคุมอาหารร่วมกับการฟอกเลือด จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ และลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเข่าและกระดูก สูตรเฉพาะ รวมสารสกัดที่ผ่านงานวิจัย คอลลาเจน UC-II ขมิ้นชัน งาดำ และวิตามิน

ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ปริมาณฟอสฟอรัสที่แนะนำคือ ระหว่าง 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยรักษาระดับฟอสฟอรัสในเลือดไม่ให้เกิน 5.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงถ้ามีระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง

ถ้ามีระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารต่อไปนี้

  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมสดรสจืด นมรสหวาน นมพร่องมันเนย นมขาดมันเนย นมข้น นมผง นมปรุงแต่งกลิ่นรส นมเปรี้ยว โยเกิร์ตชนิดข้นและชนิดดื่มได้ ไอศกรีม คัสตาร์ดครีม ชีส ช็อกโกแลต เนยแข็งทุกชนิด
  • ถั่วเมล็ดแห้งและผลิตภัณฑ์จากถั่ว เช่น ถั่วคั่ว ถั่วทอด เนยถั่ว นมถั่วเหลือง ลูกชุบ กระยาสารท เต้าฮวย เต้าหู้ น้ำเต้าหู้
  • เมล็ดพืชแห้ง ธัญพืชและผลิตภัณฑ์จากธัญพืช เช่น เมล็ดแตงโม เมล็ดฟักทอง เมล็ดดอกทานตะวัน ข้าวบาร์เลย์มอลต์ เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ลูกเดือย งาดำ เครื่องดื่มธัญพืชต่างๆ
  • อาหารที่มีโปรตีนสูงบางชนิด เช่น เครื่องในสัตว์ แมลง ไข่ปลา ไข่แดงและผลิตภัณฑ์ที่ไข่แดงเป็นส่วนประกอบอาหาร เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สังขยา บะหมี่ มายองเนส สลัดครีม
  • อาหารที่สามารถกินได้ทั้งกระดูก เช่น กุ้งแห้ง ปลากรอบ ปลาเล็กปลาน้อย ครีบปลา
  • อาหารเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม ลูกชิ้น แหนม กุนเชียง หมูยอ
  • อาหารทะเลแช่แข็ง เช่น กุ้ง ปลาทะเล ที่มีการแล่เป็นชิ้นแล้วแช่แข็ง
  • เครื่องดื่มสีเข้ม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม เครื่องดื่มโกโก้ โคล่า เบียร์
  • อาหารที่ทำจากยีสต์ อาหารที่มีส่วนผสมของผงฟู เช่น ขนมปังปอนด์ โดนัท ขนมอบ เบเกอรี เค้ก แป้งซาลาเปา หมั่นโถว คุกกี้ พาย
  • อาหารที่มีลักษณะเป็นผง เช่น น้ำตาลป่น นมผง เกลือป่น ครีมผง ผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปต่างๆ ที่มีการใส่ฟอสเฟตเพื่อไม่ให้จับตัวกันเป็นก้อน

หมายเหตุ ฟอสฟอรัสที่อยู่ในรูปสารสังเคราะห์ ที่เป็นสารปรุงแต่งอาหารหรือสารกันบูดในอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มต่างๆ ร่างกายสามารถดูดซึมได้มากกว่าฟอสฟอรัสที่มาจากอาหารธรรมชาติ ทำให้ระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูงขึ้นได้เร็ว ดังนั้นผู้ป่วยที่มีภาวะฟอสฟอรัสในเลือดสูงควรหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มนี้

ตัวอย่างปริมาณฟอสฟอรัสในอาหารที่พบบ่อย

 

 

 

อาหาร
(ปริมาณ 100 กรัม หรือ ประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ)
ปริมาณฟอสฟอรัสในอาหาร
(มิลลิกรัม)
ข้าวโพด360
นมผง360-400
งาดำ570
เต้าหู้ขาวอ่อน190
เต้าหู้เหลือง178
ถั่ว400-600
ฟองเต้าหู้494
ถั่วพิสตาชิโอ500
เต้าหู้ทอด522
ปูทะเล402
ปลาซาร์ดีน430
ปลาร้า400
ปลาจาระเม็ดทอด325
ไข่ปลา400-500
ไข่เจียว313
เห็ดหอมแห้ง377
กบหรือกระดูกย่าง2,045
เบคอนอบไมโครเวฟ480-533
กุ้งเผา635
กุ้งแห้ง703
ปลาริวกิว/ปลาหวาน258
ลูกชิ้นกุ้ง170
ลูกชิ้นปลา101-114
นมข้นหวาน205
นมแพะ118
ไอศกรีม110

3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
พอ. นพ. อุปถัมภ์ ศุภสินธุ์. ฟอสฟอรัส (http://www.kidneythai.org/pdf/food_phosphorus.pdf), 2551.
นพ. ณัฐพล เลาหเจริญยศ, อาหารและฟอสฟอรัส (http://sriphat.med.cmu.ac.th/th/knowledge-63).
กลุ่มงานโภชนศึกษา โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า. ฟอสฟอรัส (https://www.pranangklao.go.th/webpnk60/images/healtheducation/Brochures/PNK149.pdf), 2559.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)