สรรพคุณของยา divalproex
ยา divalproex เป็นยาสำหรับรักษาอาการชัก, โรคทางจิตเวช (ช่วงที่มีอารมณ์ดีมากกว่าปกติของโรคไบโพล่าร์) และใช้ในการป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน ยาจะออกฤทธิ์ปรับสมดุลของสารเคมีตามธรรมชาติในสมอง (สารสื่อประสาท)
วิธีใช้ยา divalproex
อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ และในทุกครั้งที่มารับยาซ้ำ หากมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง คุณอาจรับประทานยานี้หลังอาหารได้ถ้ามีอาการข้างเคียงทางระบบทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสีย เป็นต้น ในการรับประทานยานี้ให้กลืนยาทั้งเม็ด ไม่บดหรือเคี้ยวเม็ดยา เพราะจะระคายเคืองช่องปากและลำคอได้
ขนาดยาที่คุณได้รับจะขึ้นกับอายุ, น้ำหนักตัว, สภาวะโรค, การตอบสนองต่อการรักษา รวมถึงยาอื่นๆ ที่คุณกำลังใช้อยู่ ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่
รับประทานยานี้เป็นประจำทุกวันเพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด โดยให้รับประทานในเวลาเดียวกันของทุกวันเพื่อให้มีปริมาณยาในเลือดคงที่
หากคุณใช้ยา divalproex สำหรับรักษาอาการชัก ห้ามหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เพราะการหยุดยากะทันหันอาจทำให้อาการชักแย่ลงได้ ซึ่งแพทย์อาจค่อยๆ ปรับลดขนาดยาลงช้าๆ ก่อนหยุดยาให้กับคุณ
ยา divalproex ไม่ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนขณะที่กำลังมีอาการปวดอยู่ (acute migraine headaches) ดังนั้นในกรณีที่คุณมีอาการปวดศีรษะไมเกรน คุณต้องรับประทานยาอื่นตามที่แพทย์สั่ง
แจ้งแพทย์ทราบหากอาการของคุณไม่ดีขึ้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ผลข้างเคียงของยา divalproex
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยา divalproex เช่น ท้องเสีย, เวียนศีรษะ, ง่วงนอน, ผมร่วง, ตาพร่ามัว/มองเห็นภาพซ้อน, ประจำเดือนมาผิดปกติ, มีเสียงในหู, สั่น, ทรงตัวไม่ได้, มีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว เป็นต้น ถ้าอาการเหล่านี้ไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
คุณอาจพบเม็ดยาบางส่วนในอุจจาระได้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในกรณีที่คุณเป็นโรคในลำไส้บางชนิด เช่น มีการผ่าตัดเปิดลำไส้ทางหน้าท้อง (ileostomy, colostomy) โดยถ้าพบเม็ดยาบางส่วนในอุจจาระ ให้แจ้งแพทย์ทันที
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์สั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะว่าแพทย์ได้ประเมินแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยานี้มากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดอาการข้างเคียง ผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
มีผู้ป่วยจำนวนน้อยที่รับประทานยากันชัก (anticonvulsants) สำหรับรักษาโรคต่างๆ (เช่น อาการชัก, โรคไบโพล่าร์, อาการปวด) อาจมีอาการซึมเศร้า, มีความคิดฆ่าตัวตาย หรือพยายามฆ่าตัวตาย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์ และสภาพจิตใจเกิดขึ้นได้ ให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณหรือคนที่ดูแลคุณสังเกตเห็นอาการผิดปกติเกี่ยวกับอารมณ์ ความคิด หรือพฤติกรรม ได้แก่ มีอาการของโรคซึมเศร้า มีความคิดฆ่าตัวตาย พยายามฆ่าตัวตาย หรือมีความคิดทำร้ายตนเอง
อาจเกิดโรคทางสมองอย่างรุนแรง (อาจถึงแก่ชีวิต) ระหว่างการใช้ยานี้ได้ (พบได้น้อย) โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคทางเมตาบอลิกอยู่ก่อนแล้ว (โรค urea cycle disorders) โดยให้แจ้งแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการอ่อนแรงผิดปกติ, อาเจียน หรือมีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ สภาพจิตใจอย่างกะทันหัน เช่น มีอาการสับสน
ไปพบแพทย์ทันทีถ้าคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรงมาก ได้แก่ เจ็บหน้าอก, เลือดออกง่าย ฟกช้ำง่าย, หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นผิดจังหวะ, บวมที่มือ เท้า, ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของตาได้ (อาการตากระตุก; nystagmus), รู้สึกหนาว สั่นสะท้าน, หายใจเร็ว, หมดสติ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้ เป็นเรื่องที่พบได้น้อย อย่างไรก็ตามถ้าเกิดอาการใดๆ ของการแพ้ยาให้รีบไปพบแพทย์ทันที ได้แก่ มีไข้, ต่อมน้ำเหลืองโต, ผื่น, คัน บวม (โดยเฉพาะที่หน้า ลิ้น คอ), เวียนศีรษะรุนแรง, หายใจลำบาก
อาการข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่อาการข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้นถ้าคุณมีอาการผิดปกติใดๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา divalproex
ถ้าคุณแพ้ยา divalproex หรือยา valproic acid หรือ valproate sodium หรือแพ้สิ่งอื่นๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนได้รับยานี้ ผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารไม่ออกฤทธิ์อื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนการใช้ยา divalproex ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็น
- โรคตับ
- ตับอ่อนอักเสบ (pancreatitis)
- เป็นโรคทางเมตาบอลิก เช่น urea cycle disorders, Alpers-Huttenlocher syndrome
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- มีปัญหาเลือดออก
- เป็นโรคทางสมอง (สมองเสื่อม (dementia))
- เป็นโรคไต
- ร่างกายขาดน้ำ (dehydration)
- ขาดสารอาหาร
เพื่อลดโอกาสเป็นแผล, ฟกช้ำ หรือได้รับบาดเจ็บ คุณต้องระมัดระวังการใช้ของมีคม เช่น มีดโกน และกรรไกรตัดเล็บ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมกีฬาที่มีการกระทบกระทั่งกัน
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับรายการยา อาหารเสริม และสมุนไพรที่กำลังใช้อยู่
ยา divalproex อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะ หรือง่วงนอน หรือตาพร่ามัว โดยแอลกอฮอล์จะทำให้อาการวิงเวียนศีรษะและอาการง่วงนอนเป็นมากขึ้น ห้ามขับรถ, ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องอาศัยการตื่นตัว หรือการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าคุณจะทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย แนะนำให้จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากยามากขึ้น โดยเฉพาะอาการง่วงนอน, เวียนศีรษะ, ทรงตัวไม่ได้ หรืออาการสั่น โดยอาการง่วงนอน, เวียนศีรษะ, ทรงตัวไม่ได้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มได้
ไม่แนะนำให้ใช้ยา divalproex ขณะตั้งครรภ์ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ อ่านเพิ่มเติมในส่วนของคำเตือนในการใช้ยา
ยา divalproex ผ่านไปยังน้ำนมได้ แม้ว่ายังไม่มีรายงานเกี่ยวกับอันตรายต่อทารกที่ดูดนม แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
คำเตือนในการใช้ยา divalproex
ยา divalproex อาจทำให้เกิดปัญหาที่ตับอย่างร้ายแรงได้ (อาจถึงแก่ชีวิต) แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่มักเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของการเริ่มใช้ยา ซึ่งผู้ป่วยต้องมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้งก่อนเริ่มยาและระหว่างใช้ยาเป็นระยะๆ เพื่อติดตามผลข้างเคียงจากยา โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรก
ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่ตับอย่างร้ายแรงจะเพิ่มขึ้นในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี โดยเฉพาะถ้าเด็กป่วยเป็นโรคทางเมตาบอลิกที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม (inherited metabolic disorder), เป็นโรคลมชักอย่างรุนแรงร่วมกับปัญญาอ่อน (severe seizure disorder with mental retardation), มีความผิดปกติทางจิตใจที่มีสาเหตุจากโรคทางกาย (organic brain disease) หรือเป็นผู้ที่ใช้ยากันชักมากกว่า 1 ชนิด ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยา divalproex ในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี
ผู้ที่เป็นโรคทางเมตาบอลิกที่ได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรม (เช่น Alpers-Huttenlocher syndrome) ไม่ควรใช้ยา divalproex เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่ตับ และในเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี ที่อาจป่วยเป็นโรคนี้ก็ไม่ควรใช้ยา divalproex เช่นกัน ในกรณีที่เด็กอาจป่วยเป็นโรคนี้ แต่อายุมากกว่า 2 ปี ควรมีการติดตามอย่างใกล้ชิดระหว่างใช้ยา divalproex ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ยา divalproex อาจทำให้เกิดตับอ่อนอักเสบอย่างรุนแรงได้ (อาจถึงแก่ชีวิต) แม้ว่าจะพบได้น้อย แต่อาจเกิดขึ้นระหว่างใช้ยาเมื่อใดก็ได้ซึ่งจะมีอาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว
ให้แจ้งแพทย์ทันที หากคุณมีอาการของปัญหาที่ตับ หรือ ตับอ่อนอักเสบ เช่น อ่อนเพลียผิดปกติ, อ่อนแรง, บวมที่ใบหน้า, ปวดท้อง, เบื่ออาหาร, ปัสสาวะมีสีเข้ม, ตัวเหลือง ตาเหลือง หรือ คลื่นไส้อาเจียนโดยที่ไม่ดีขึ้น
การใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์เป็นสาเหตุของความพิการของทารกแรกเกิดได้ และอาจลดระดับสติปัญญา (IQ) ของเด็กด้วย
- ในผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยานี้, การรักษาทางเลือกอื่นๆ และวิธีคุมกำเนิดที่เชื่อถือได้
- ถ้าคุณวางแผนจะตั้งครรภ์, กำลังตั้งครรภ์ หรือคิดว่าตนเองอาจจะตั้งครรภ์ ให้รีบแจ้งแพทย์ทันที
- ถ้าคุณใช้ยา divalproex สำหรับป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนเท่านั้น คุณต้องหยุดใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์
- ถ้าคุณใช้ยา divalproex สำหรับรักษาอาการชัก หรือ โรคทางจิตเวช เช่น โรคไบโพล่าร์ อย่าหยุดยานี้เองโดยแพทย์ไม่ได้สั่ง เพราะอาการชัก และโรคทางจิตเวช เช่น โรคไบโพล่าร์ ที่ไม่ได้รับการรักษาถือเป็นภาวะร้ายแรงที่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อตัวมารดาและทารกในครรภ์
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา divalproex
สภาวะต่อไปนี้ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา divalproex ดังนั้นต้องแจ้งแพทย์ทราบหากคุณมีสภาวะดังต่อไปนี้
- มีปริมาณแอมโนเนียมในเลือดสูง
- มีปริมาณโปรตีนอัลบูมิน (albumin) ในเลือดต่ำ
- เป็นโรค Hereditary Liver Metabolism Disorder
- มีปริมาณเกร็ดเลือดลดลง
- มีความคิดฆ่าตัวตาย
- ซึมเศร้า
- เป็นโรคทางจิตเวชที่มีสาเหตุจากโรคทางกาย (organic mental disorder)
- เป็นโรคตับ มีปัญหาที่ตับ
- ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
- ตั้งครรภ์
- เป็นโรคซิทรูลีนในเลือดสูง (Citrullinemia)
- เป็นโรคพร่องเอนไซม์ Ornithine Carbamoyltransferase (Ornithine Carbamoyltransferase Deficiency)
- เกิดพิษจากยา valproic acid
- เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาท (Hereditary Disease Causing Neurologic Dysfunction)
- เป็นโรค urea cycle disorder
- แพ้ยาที่มีโครงสร้างคล้าย valproic acid
- แพ้ยา divalproex
ปฏิกิริยาระหว่างยา divalproex กับยาอื่น
การเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา (drug interactions) อาจเปลี่ยนแปลงการออกฤทธิ์ของยาหรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ข้อมูลที่ระบุนี้ไม่ได้ครอบคลุมการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นคุณต้องแจ้งแพทย์และเภสัชกรทราบทุกครั้งว่าคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ใดอยู่ในขณะนี้ อย่าเริ่มยา หยุดยา หรือเปลี่ยนแปลงขนาดยาต่างๆ เอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์
รายการยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับยา divalproex:
- ยาต้านเศร้าบางรายการ เช่น amitriptyline, nortriptyline, phenelzine, clomipramine
- ยาปฏิชีวนะในกลุ่ม carbapenems เช่น doripenem, imipenem
- Mefloquine
- Orlistat
- ยากันชักรายการอื่น เช่น ethosuximide, lamotrigine, phenytoin, rufinamide, topiramate
- Rifampicin
- Warfarin
- Vorinostat
- Zidovudine
- Carbamazepine
- Pivmecillinam
- Sodium oxybate
- Nimodipine
- Lorazepam
- Felbamate
กรณีที่ผู้ป่วยได้รับยา aspirin ขนาดต่ำ (ขนาดยาโดยทั่วไปคือ 81-325 มิลลิกรัมต่อวัน) สำหรับเหตุผลเฉพาะทางการแพทย์ เช่น สำหรับป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด (heart attack prevention) หรือเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (stroke prevention) คุณควรใช้ยา aspirin ต่อ โดยให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถ้าคุณกำลังใช้ยา aspirin ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด
แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบถ้าคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ทำให้มีอาการง่วงนอน ได้แก่
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ยาต้านฮีสตามีน เช่น cetirizine, diphenhydramine
- ยาสำหรับช่วยให้นอนหลับ หรือสำหรับอาการวิตกกังวล เช่น alprazolam, zolpidem
- ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น cyclobenzaprine
- ยาแก้ปวดกลุ่มที่มีฤทธิ์เสพติด เช่น codeine, hydrocodone
คุณต้องอ่านฉลากยาทุกชนิดที่จะใช้เสมอ เช่น ยาแก้แพ้ หรือยาแก้ไอ-แก้หวัด เพราะอาจมีส่วนประกอบของยาที่ทำให้ง่วงนอนได้ ให้ปรึกษาเภสัชกรเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ยาเหล่านี้อย่างปลอดภัย
ยา divalproex อาจรบกวนผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการบางชนิด เช่น urine ketones จึงต้องแจ้งแพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการทราบว่าคุณกำลังใช้ยานี้อยู่
การได้รับยา divalproex เกินขนาด
หากมีใครก็ตามที่ได้รับยา divalproex เกินขนาด จนทำให้เกิดอาการที่ร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบเรียกรถพยาบาลทันที โทร 1669
อาการของการได้รับยาเกินขนาดอาจได้แก่ ง่วงนอนมากผิดปกติ, โคม่า, หัวใจเต้นช้า หัวใจเต้นผิดจังหวะ
หมายเหตุ
ห้ามแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้ ควรมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือ การตรวจทางการแพทย์ เช่น ระดับยาในเลือด, ตรวจการทำงานของตับ, ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด, การตรวจการแข็งตัวของเลือด ซึ่งควรตรวจก่อนเริ่มการรักษา, ตรวจเป็นระยะเพื่อติดตามอาการและผลข้างเคียง โดยให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
หากลืมรับประทานยา divalproex
ถ้าคุณลืมรับประทานยานี้ ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หากนึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อที่ลืมไป และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา divalproex
เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดดและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องอาบน้ำ เก็บยาทุกชนิดให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก