กองบรรณาธิการ HonestDocs
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HonestDocs

ปวดศีรษะ (Headaches)

เผยแพร่ครั้งแรก 15 มิ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 5 นาที

อาการปวดศีรษะ เป็นภาวะที่สร้างความเจ็บปวดและไม่สบายในศีรษะ หรือหนังศีรษะ อาการปวดศีรษะเกิดได้ทั้งแบบเบา หรือรุนแรงจนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตหรือทำงาน แต่อาการนี้สามารถควบคุมได้ด้วยการใช้ยาและการปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิต

อาการของภาวะปวดศีรษะ

อาการปวดศีรษะมีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดจะมีอาการแตกต่างกันไป เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

  • อาการปวดศีรษะจากความเครียด (Tension Headaches) เป็นชนิดของอาการปวดศีรษะที่พบได้มากที่สุด ส่วนมากจะเกิดกับผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป อาการปวดลักษณะนี้จะมีความรู้สึกเหมือนถูกยางรัดรอบศีรษะ ซึ่งเกิดจากการรัดตัวของกล้ามเนื้อที่คอและหนังศีรษะ มักจะเกิดขึ้นนานหลายนาที แต่ในบางกรณีก็อาจคงอยู่ได้หลายวัน และสามารถเกิดขึ้นซ้ำๆ ได้ด้วย
  • อาการปวดศีรษะเป็นชุด (Cluster Headaches) คืออาการปวดตุบๆ ที่ศีรษะ ซึ่งจะทำให้เกิดความทรมานและแสบร้อนที่ข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะหรือข้างหลังดวงตา จึงทำให้มีน้ำตาไหลและมีอาการคัดจมูกร่วมด้วย อาการปวดชนิดนี้สามารถคงอยู่ได้ระยะเวลาหนึ่ง และอาจคงอยู่ได้ยาวนานกว่า 6 สัปดาห์ อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวันและหลายๆ ครั้งต่อวัน สาเหตุการเกิดอาการปวดชนิดนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มักเกิดกับผู้ชายอายุระหว่าง 20-40 ปี
  • อาการปวดศีรษะไมเกรน (Migraine Headaches) เป็นอาการปวดศีรษะรุนแรงที่ทำให้เกิดอาการปวดตุบๆ ข้างใดข้างหนึ่งของศีรษะ สามารถแบ่งได้เป็นหลายชนิด เช่น การปวดไมเกรนแบบเรื้อรัง (Chronic Migraines) ที่สามารถเกิดขึ้นได้มากกว่า 15 ครั้งต่อเดือน และอีกชนิดคืออาการปวดไมเกรนแบบอ่อนแรงครึ่งซีก (Hemiplegic Migraines) เป็นอาการที่คล้ายกับโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับไมเกรนอย่างคลื่นไส้ มีปัญหาการมองเห็น และวิงเวียนเท่านั้น แต่ไม่ได้ปวดศีรษะแต่อย่างใด
  • อาการปวดศีรษะเหตุใช้ยาเกิน (Rebound Headaches) คือการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นหลังการหยุดยาที่ใช้รักษาอาการปวดศีรษะทุกวัน ผู้ที่ใช้ยารักษาอาการปวดศีรษะอย่าง Acetaminophen Triptans (Zomig, Imitrex) Ergotamine (Ergomar) และยาแก้ปวดอย่าง Tylenol มักจะประสบกับอาการปวดชนิดนี้
  • อาการปวดศีรษะเหมือนถูกฟ้าผ่า (Thunderclap Headaches) คืออาการปวดรุนแรงกะทันหัน ส่วนมากเป็นอาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ และคงอยู่ได้นานกว่า 5 นาที อาการปวดชนิดนี้อาจเป็นสัญญาณของภาวะหลอดเลือดในสมอง และมักต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน

สาเหตุหลักของอาการปวดศีรษะ

แพทย์ได้จำแนกสาเหตุของอาการปวดศีรษะออกเป็นหลายสาเหตุ โดยอาการปวดไมเกรน อาการปวดศีรษะแบบชุด และการปวดศีรษะจากความเครียด มักเกิดจากกระบวนการของสมองเอง ส่วนสาเหตุทางการแพทย์ของอาการปวดศีรษะชนิดอื่นๆ ได้แก่

  • เนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) หรือโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง (Brain Aneurysm) สามารถทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ เนื่องจากภายในกะโหลกจะมีพื้นที่ว่างอยู่เพียงเล็กน้อย เมื่อภายในกะโหลกเริ่มมีการสะสมกันของเลือดหรือเนื้อเยื่อส่วนเกิน จะทำให้เนื้อสมองถูกกดทับหรือถูกดันจนทำให้เกิดอาการปวดขึ้นมา
  • โรคปวดคอร่วมกับปวดศีรษะ (Cervicogenic Headaches) เกิดขึ้นเมื่อแผ่นหมอนรองกระดูก (Discs) เสื่อมสภาพและกดลงบนกระดูกสันหลังทำให้เกิดอาการปวดคอและปวดศีรษะร่วมกัน
  • การใช้ยามากเกิน หากได้รับยาแก้ปวดปริมาณค่อนข้างมากทุกวันและเริ่มลดปริมาณการใช้หรือหยุดยากะทันหัน จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้น
  • ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) คือการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มสมองชั้นบาง ๆ ที่กะโหลกซึ่งห่อหุ้มไขสันหลังและสมองไว้
  • การติดเชื้อที่โพรงจมูกหรือไซนัส การติดเชื้อที่โพรงจมูกสามารถสร้างแรงดันและความเจ็บปวดจนทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ (Sinus Headache)
  • อาการปวดศีรษะจากกระดูกสันหลัง (Spinal Headache) เกิดขึ้นจากการรั่วซึมของน้ำหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง (Cerebrospinal Fluid) อย่างช้าๆ มักเกิดจากการระงับประสาททางไขสันหลังหรือการเจาะน้ำไขสันหลัง
  • การกระทบกระแทก บ่อยครั้งที่อาการปวดศีรษะ เกิดจากการกระทบกระแทกบริเวณศีรษะ ซึ่งก็อาจทำให้เกิดอาการปวดต่อเนื่องยาวนานได้

เมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์?

อาการปวดศีรษะส่วนมากไม่ใช่อาการโรคร้ายแรง เว้นแต่จะเกิดจากการถูกกระแทกที่ศีรษะ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้ ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

การวินิจฉัยอาการปวดศีรษะ

อาการปวดศีรษะ อาจเป็นอาการจากโรคหรือภาวะทางการแพทย์อื่นๆ ได้ ดังนั้น แพทย์จะวินิจฉัยด้วยการซักประวัติสุขภาพและตรวจร่างกาย ซึ่งอาจรวมไปถึงการตรวจประเมินระบบประสาทด้วย

การซักประวัติเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะจะช่วยให้แพทย์หาสาเหตุของอาการได้ง่ายขึ้น ผู้ป่วยบางคนอาจขาดยาหรือขาดการรับประทานอาหารบางอย่าง จึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้น เช่น การขาดกาแฟสำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ

แพทย์อาจตรวจเพิ่มเติมหากสงสัยว่ามีภาวะทางการแพทย์บางอย่างที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้น เช่น

  • การวัดจำนวนเม็ดเลือด (Complete Blood Count (CBC)) เพื่อตรวจหาสัญญาณของภาวะติดเชื้อ
  • การเอกซเรย์กะโหลก เพื่อให้เห็นภาพของกระดูกกะโหลก
  • การเอกซเรย์โพรงจมูก การถ่ายภาพที่ใช้กับการวินิจฉัยโรคไซนัสอักเสบ
  • การทำ CT หรือทำ MRI บริเวณศีรษะ สำหรับกรณีที่คาดว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง มีเนื้องอกหรือมีลิ่มเลือดในสมอง

การรักษาอาการปวดศีรษะ

การรักษาอาการปวดศีรษะมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุการเกิด แต่ส่วนมากสามารถรักษาได้ด้วยยา เช่น Aspirin Acetaminophen หรือ Ibuprofen

หากการใช้ยาไม่ได้ผล แพทย์อาจแนะนำแนวทางในการรักษาดังนี้

  • การฝึกไบโอฟีดแบ็ค (Biofeedback) เป็นเทคนิคผ่อนคลายที่ช่วยจัดการกับความเจ็บปวด
  • โปรแกรมควบคุมความเครียด (Stress Management Classes) นักจิตวิทยาจะสอนวิธีรับมือกับความเครียดและแนวทางบรรเทาความเครียดต่างๆ กรณีที่อาการปวดศีรษะเกิดจากความเครียด
  • การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy) เป็นการบำบัดพูดคุยที่ทำให้ผู้ป่วยรับรู้ว่าสถานการณ์ใดบ้างที่สร้างความเครียดและความกังวลให้
  • การฝังเข็ม (Acupuncture) การบำบัดทางเลือกด้วยการจิ้มเข็มตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจช่วยลดความเครียดลงได้
  • การออกกำลังความเข้มข้นน้อยถึงปานกลาง (Mild to Moderate Exercise) สามารถเพิ่มการผลิตสารเคมีบางตัวจากสมองที่ช่วยทำให้ผ่อนคลายและมีความสุขขึ้น
  • การบำบัดด้วยความเย็นหรือความร้อน (Cold or Hot Therapy) เป็นวิธีประคบร้อนและประคบเย็นสลับกันที่ศีรษะเป็นเวลา 5-10 นาทีหลายๆ ครั้งต่อวัน
  • การอาบน้ำหรือแช่น้ำร้อน สามารถลดความตึงของกล้ามเนื้อลงได้

สำหรับอาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้น 3 ครั้งขึ้นไปภายในหนึ่งเดือน แพทย์จะรักษาด้วยการใช้ยา Sumatriptan เพื่อควบคุมอาการปวดศีรษะไมเกรน ซึ่งก็มียาอื่นๆ มากมายที่สามารถใช้รักษาหรือป้องกันไมเกรนเรื้อรัง ดังนี้

การป้องกันอาการปวดศีรษะ

การใช้ชีวิตที่ดี และการพักผ่อนให้เพียงพอสามารถป้องกันอาการปวดศีรษะได้ โดยมีหลักปฏิบัติ ดังนี้

  • เลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการ แต่ละบุคคลจะมีอาการที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะแตกต่างกันไป แต่อาหารที่เชื่อว่าทำให้เกิดอาการนี้ ได้แก่ ชีส ไวน์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หัวหอม ช็อคโกแลต เนื้อหมัก เบียร์ดำ สารเติมแต่งในอาหาร อาหารจำพวกนม และข้าวสาลี
  • เลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนมากเกิน การดื่มกาแฟมากกว่า 6 แก้วขึ้นไปต่อวันสามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะเรื้อรังจากฤทธิ์ถอนคาเฟอีนได้ ดังนั้น การจำกัดคาเฟอีนเป็น 2-3 แก้วต่อวัน หรือไม่ดื่มเลย จะช่วยลดอาการปวดศีรษะได้
  • นอนหลับไม่เพียงพอ การนอนไม่พอ เป็นตัวกระตุ้นอาการปวดศีรษะที่พบได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นจึงควรพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงค่อวัน หรือนอนจนรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นในตอนเช้า
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลา 30 นาที สามารถบรรเทาความเครียดที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้

5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Headaches: Causes, types, and treatment. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/73936)
Headaches - Types, Causes, Symptoms, Diagnosis, Treatment. WebMD. (https://www.webmd.com/migraines-headaches/migraines-headaches-basics)
Headache: When to worry, what to do - Harvard Health (https://www.health.harvard.edu/pain/headache-when-to-worry-what-to-do)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

ดูคำถามและคำตอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการนี้
คุณหมอคะ ทำไมถึงปวดในเส้นเดือดที่หลังมือคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ปวดหัวไมเกรนบ่อยๆทำอย่างไรดี
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
อยากรู้คะว่าอาการปวดเอวจะหายได้บ้างไหมคะ เพราะว่ามันจะปวดตลอดเวลาคะ หลังจากี่ผ่าตัดคลอดลูกมาแล้ว2คนคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ถ้าคนที่เรารักมากเคยเป็นมะเร็งต่อมนำ้เหลืองมาก่อนแล้วเกือบ12ปีแล้วตอนนี้มาปวดท้องบ่อยกินยาแล้วเดียวก็หาย1-2วันเดียวก็มาปวดอีกเราควรจะทำยังไงดีค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ปวดท้องตอนมาประจำเดือนตลอด บางครั้ง3เดือนมาประจำเดือนครั้งหนึ่ง. ต้องรัษายังไงค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ปวดหลังเป็นประจำจะเป็นโรคอะไรไหมค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ