Metoprolol เป็นชื่อสามัญของยา Lopressor ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูงและป้องกันการเกิดอาการเจ็บหน้าอก
ยานี้จัดอยู่ในกลุ่ม beta blocker ออกฤทธิ์โดยการขยายหลอดเลือดและทำให้หัวใจบีบตัวช้าลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดความดันโลหิต นอกจากนั้น Metoprolol ยังอาจช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตภายหลังจากการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันอีกด้วย และแพทย์จะสั่งจ่ายยาในรูปแบบออกฤทธิ์ได้ยาวกว่าปกติ (Toprol XL) เพื่อใช้รักษาภาวะหัวใจวาย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในบางกรณี แพทย์อาจสั่งจ่ายยานี้เพื่อใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ การศึกษาในปี 2013 พบว่า หากใช้ยา Metoprolol ร่วมกับ amiodarone แล้วนั้น Metoprolol สามารถป้องกันการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบ atrial fibrillation หลังการผ่าตัดหัวใจได้ บางครั้งยานี้อาจใช้ในการรักษาโรคอื่นๆ นอกจากโรคหัวใจเช่นโรคปวดหัวไมเกรน หรือความผิดปกติทางการเคลื่อนไหวซึ่งเกิดจากยาที่ใช้รักษาโรคทางจิตเวช องค์การอาหารและยาได้อนุมัติให้สามารถใช้ยานี้ได้ตั้งแต่ปี 1978 ภายใต้ชื่อการค้า Lopressor ปัจจุบันยานี้เป็นยาที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีการสั่งจ่ายจากแพทย์มากกว่า 27 ล้านครั้งต่อปี
คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ยา Metoprolol
Metoprolol ช่วยควบคุมความดันโลหิตที่สูงและอาการเจ็บหน้าอก แต่ไม่ใช่ยาที่สามารถรักษาภาวะเหล่านี้ให้หายขาดได้ อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่คุณจะได้รับประโยชน์จากยาอย่างเต็มที่ หากคุณมีประวัติภูมิแพ้มาก่อน อาการแพ้ของคุณอาจรุนแรงมากขึ้นระหว่างที่ใช้ยา Metoprolol และอาจต้องใช้ยา epinephrine ในปริมาณที่มากขึ้น ผู้ป่วยโรคหอบหืด หัวใจเต้นช้า หรือหัวใจวายไม่ควรใช้ยาในกลุ่ม beta blocker ซึ่งรวมถึง Metoprolol ด้วยเช่นกัน แพทย์จะต้องสั่งจ่ายยานี้อย่างระมัดระวังในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ก่อนเริ่มใช้ยา ควรแจ้งแพทย์หากคุณมีภาวะหัวใจเต้นช้า หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนเลือด
และหากคุณมีภาวะต่อไปนี้ควรแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มใช้ยา
- โรคหอบหืดหรือโรคปอดอื่นๆ
- โรคเกี่ยวกับตับ
- เบาหวาน
- ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง
- หัวใจวาย
- หัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิด
และคุณควรจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณเป็นโรค pheochromocytoma ซึ่งเป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่ต่อมหมวกไต ซึ่งอาจทำให้เกิดความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วได้ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังวางแผนที่จะเข้ารับการผ่าตัดซึ่งรวมถึงการผ่าตัดเกี่ยวกับฟันด้วย การใช้ยา Metoprolol ในการรักษาภาวะวิตกกังวล Metoprolol สามารถใช้ควบคุมอาการวิตกกังวลเช่นอาการวิตกกังวลก่อนขึ้นแสดงและโรควิตกกังวลอื่นๆ ได้เช่นเดียวกับยาในกลุ่ม beta blocker ตัวอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มใช้ยานี้หรือยาชนิดอื่นในการรักษาโรควิตกกังวล เพราะอาจมียาอื่นที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่าและเหมาะสมกับอาการของคุณมากกว่า
การใช้ยา Metoprolol ในหญิงตั้งครรภ์
ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังหรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงให้นมบุตรก่อนที่จะเริ่มใช้ยา Metoprolol เนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะกล่าวได้ว่าการใช้ยานี้ปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์หรือไม่ และควรใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์หากจำเป็นเท่านั้น ยานี้อาจสามารถผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ ดังนั้นควรถามแพทย์เกี่ยวกับการให้นมบุตรก่อนเริ่มใช้ยา ไม่มีหลักฐานที่ระบุว่า Metoprolol นั้นปลอดภัยหรือมีประสิทธิภาพหากใช้ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 6 ปี
ผลข้างเคียงของยา Metoprolol
- มึนงง
- อ่อนเพลีย
- ซึมเศร้า
- คลื่นไส้
- ปากแห้ง
- ปวดท้อง
- อาเจียน
- ท้องอืด
- แสบร้อนกลางหน้าอก
- ท้องผูก
- ผื่นหรือคัน
- มือและเท้าเย็น
- คัดจมูก
นอกจากนั้นยังอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หากมีอาการต่อไปนี้ควรหยุดยาและแจ้งแพทย์ทันที
- หายใจลำบาก
- หายใจเสียงวี๊ด
- เท้า มือ ข้อเท้าหรือขาบวม
- น้ำหนักเพิ่มผิดปกติ
- เป็นลม
- หัวใจเต้นเร็วหรือผิดจังหวะ
ปฏิกิริยาระหว่างยา Metoprolol กับยาอื่นๆ
มียาหลายชนิดที่อาจส่งผลต่อการทำงานของ Metoprolol และ Metoprolol เองก็อาจส่งผลต่อการทำงานของยาตัวอื่นเช่นกัน ดังนั้นควรแจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทุกตัวที่กำลังรับประทาน รวมถึงยาผิดกฎหมายและวิตามิน สมุนไพร หรืออาหารเสริม
กลุ่มของยาที่สามารถมีปฏิกิริยากับ Metoprolol ได้ประกอบด้วย
- ยาต้านเศร้า เช่น bupropion (Wellbutrin), fluoxetine (Prozac, Sarafem) และ paroxetine (Paxil)
- ยารักษาโรคมาลาเรีย เช่น hydroxychloroquine
- ยาที่ใช้รักษาอาการแสบร้อนกลางหน้าอกหรืออาการอื่นๆ ของโรคกระเพาะเช่น cimetidine (Tagamet) และ ranitidine (Zantac)
- ยาโรคหัวใจบางตัวเช่น clonidine (Catapres), propafenone (Rythmol) และ quinidine (Quinaglute, Quinidex)
- ยาแก้แพ้กลุ่ม antihistamine เช่น diphenhydramine (Benadryl)
- ยารักษาโรค HIV บางชนิด เช่น ritonavir (Norvir)
- ยาฆ่าเชื้อราบางชนิดเช่น terbinafine (Lamisil)
- ยารักษาโรคทางจิตเวชบางชนิด เช่น thioridazine (Mellarill)
ยา Metoprolol กับแอลกอฮอล์
คุณควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ขณะรับประทานยานี้ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำให้อาการง่วงนอนซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยารุนแรงมากขึ้น
ปฏิกิริยาอื่นๆ จากยา Metoprolol
ควรทราบว่ายานี้อาจทำให้คุณง่วงนอนได้ อย่าขับรถหรือใช้เครื่องจักรจนกว่าคุณจะรู้ว่ายานี้ส่งผลต่อร่างกายคุณอย่างไร แพทย์อาจแนะนำให้คุณรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ ซึ่งคุณควรปฏิบัติตามอย่างระมัดระวัง
ขนาดของยา Metoprolol
ยานี้มีในรูปแบบเม็ดมาตรฐาน 50 มิลลิกรัมและ 100 มิลลิกรัม นอกจากนั้นยังมียารูปแบบออกฤทธิ์นานในขนาด 25,50,100 และ 200 มิลลิกรัมทั้งในแบบที่เป็นยาสามัญหรือภายใต้ชื่อการค้า Lopressor และ Toptol XL โดยทั่วไป ขนาดยาที่มักเริ่มใช้คือ 100 มิลลิกรัมต่อวัน โดยรับประทานวันละครั้งหรือแบ่งเป็นวันละสองครั้ง แพทย์อาจค่อยๆ เพิ่มขนาดของยาขึ้น โดยในผู้ที่รับประทานยา Toprol XL ที่ออกฤทธิ์ได้ยาวนั้น ขนาดยาเริ่มต้นอาจเริ่มที่ 25-100 มิลลิกรัม วันละครั้ง ถึงแม้ว่าคุณสามารถแบ่งครึ่งเม็ดยาของยาที่ออกฤทธิ์ยาได้ แต่คุณไม่ควรบดหรือเคี้ยวเม็ดยา
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การได้รับยา Metoprolol เกินขนาด
อย่ารับประทานยาในปริมาณที่มากเกินกว่าแพทย์สั่ง
หากคุณรับประทานยาเกินขนาด อาจทำให้เกิดอาการต่อไปนี้ได้
- มึนหัว
- เป็นลม
- หายใจหรือกลืนลำบาก
- มือ เท้า ข้อเท้า หรือขาบวม
การลืมรับประทานยา Metoprolol
อย่าหยุดรับประทานยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์เนื่องจากหากหยุดรับประทานยาอย่างฉับพลันอาจทำให้ความดันโลหิตกลับมาสูงได้ แพทย์ควรจะค่อยๆ ลดขนาดยาลงอย่างช้าๆ หากคุณลืมรับประทานยา ให้ทานยามื้อนั้นทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้าหากกำลังจะถึงเวลารับประทานยามื้อถัดไป ให้ข้ามมื้อยาที่ลืมนั้นไปเลย อย่าพยายามชดเชยด้วยการรับประทานยาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
รูปภาพยา Metoprolol
Metoprolol 50 mg-TEV, pink, round, film coated
Metoprolol 100 mg-TEV, blue, round, film coated
Toprol XL 25 mg, white, oval, film coated
Toprol XL 50 mg, white, round, film coated
Toprol XL 100 mg, white, round, film coated
Toprol XL 200 mg, white, elliptical, film coated
Metoprolol 50 mg-WAT, pink, round, film coated
Metoprolol 100 mg-WAT, blue, round, film coated
Metoprolol 25 mg-MYL, white, round, film coated
Metoprolol 50 mg-MYL, pink, round, film coated
Metoprolol 100 mg-MYL, blue, round, film coated
Metoprolol 100 mg-CAR, white, capsule, film coated
Metoprolol 50 mg-GG, white, round,
Metoprolol 100 mg-GG, white, round, film coated
Metoprolol 50 mg-MUT, orange, oval,
Metoprolol 100 mg-MUT, yellow, oval,
Metoprolol 50 mg-CAR, white, oblong, film coated
Metoprolol Succinate 25mg Tablet, white, round, film coated
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยา Metoprolol
คำถาม: ยานี้ทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มหรือไม่? ฉันรู้สึกเหมือนอ่อนเพลียตลอดเวลา มันเกี่ยวข้องกับยานี้หรือไม่?
คำตอบ: ถึงแม้ว่าน้ำหนักเพิ่มนั้นจะไม่ใช่ผลข้างเคียงที่พบบ่อยจากการใช้ยา Metoprolol แต่อาการอ่อนเพลียหรืออ่อนแรงนั้นอาจเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยของยานี้ การมีน้ำหนักเพิ่มหรือลดน้ำหนักได้ยากนั้นอาจเกี่ยวข้องกับภาวะอื่นเช่นความเครียดหรืออ่อนเพลีย ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์หากมีอาการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติ อย่าหยุดหรือเปลี่ยนขนาดยาที่รับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
คำถาม: Metoprolol ทำให้มีอาการปวดหัวหรือนอนไม่หลับได้หรือไม่?
คำตอบ: การระมัดระวังและทราบข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยานั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากจะทำให้คุณสามารถสังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ จากข้อมูลเกี่ยวกับยา Metoprolol พบว่าอาการปวดหัวและนอนไม่หลับนั้นเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ หากคุณมีอาการนี้หรืออาการอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อคุณ ควรปรึกษาแพทย์
คำถาม: ผลข้างเคียงของยา Metoprolol คืออะไร? ฉันกำลังใช้ยานี้รักษาโรคความดันโลหิตสูง
คำตอบ: ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยของยานี้คือมึนหัว อ่อนเพลีย หัวใจเต้นช้า ท้องเสีย ซึมเศร้าหรือหายใจลำบาก หากคุณมีอาการน้ำหนักขึ้นอย่างเฉียบพลัน คัน มีผื่น สับสน หรือตัวบวม
คำถาม: Metoprolol ทำให้ระดับน้ำตามในเลือดสูงขึ้นหรือไม่?
คำตอบ: Metoprolol เป็นยาในกลุ่ม beta-blocker ซึ่งมีการใช้ในโรคหัวใจหลายชนิดซึ่งรวมถึงโรคความดันโลหิตสูง เจ็บหน้าอก และหัวใจวาย ข้อมูลจากทางผู้ผลิตกล่าวว่า Metoprolol อาจทำให้เกิดการกำเริบของโรคเบาหวานได้ ดังนั้นจึงอาจเป็นไปได้ที่ยานี้อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ผลข้างเคียงของยาที่พบบ่อย
คำถาม: ฉันมีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วง มันเป็นไปได้มั้ยที่จะเกิดจากการใช้ยา Metoprolol? ปัจจุบันฉันรับประทานยาขนาด 100 มิลลิกรัมวันละ 2 ครั้ง
คำตอบ: ผลข้างเคียงและปฏิกิริยากับยาที่พบได้บ่อยนั้นไม่พบว่ามีเรื่องของผมร่วงอยู่ด้วย และไม่ใช่ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยของยา มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดผมร่วงได้ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การดูแลตัวเองไปจนถึงโรคประจำตัวของคุณ การใช้สารเคมีที่ออกฤทธิ์แรงบนผม เพื่อดัดผมถาวรหรือเปลี่ยนสีผมนั้นอาจทำให้ผมร่วงได้ นอกจากนั้นการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างการตั้งครรภ์หรือวัยหมดประจำเดือน อายุ พันธุกรรม ความผิดปกติของไทรอยด์ และภาวะซีดก็สามารถทำให้เกิดผมร่วงหรือบางลงได้เช่นกัน การรับประทานอาหารที่เหมาะสมอาจเป็นสิ่งที่สำคัญในการดูแลผมของคุณรวมถึงสุขภาพรวมของคุณด้วย
คำถาม: Metoprolol ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือไม่?
คำตอบ: Metoprolol เป็นยาในกลุ่ม beta-blocker ใช้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับหัวใจหลายภาวะเช่นความดันโลหิตสูง เจ็บหน้าอก และหัวใจวาย ข้อมูลจากบริษัท Lexi-Comp ผู้ผลิตยานั้นพบว่า Metoprolol อาจทำให้โรคเบาหวานกำเริบได้ดังนั้นยานี้อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้แต่ไม่ใช่ผลข้างเคียงที่พบบ่อย
คำถาม: ผลข้างเคียงของยา Metoprolol คืออะไร?
คำตอบ: ผลข้างเคียงส่วนใหญ่ของยามันไม่รุนแรงและเกิดขึ้นชั่วคราว ผลข้างเคียงที่มีรายงานว่าพบนั้นประกอบด้วย มึนหัว อ่อนเพลีย ปวดหัว มวนท้อง ความดันโลหิตต่ำ
คำถาม: ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหากฉันดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างที่รับประทานยา Metoprolol tartrate คืออะไร?
คำตอบ: งานวิจัยได้กล่าวว่าแอลกอฮอล์นั้นไม่ได้ขับขวางการทำงานของยาในกลุ่ม beta-blocker หากรับประทานในปริมาณปานกลาง แต่อย่างไรก็ตามแอลกอฮอล์และยาส่วนใหญ่นั้นจะถูกเผาผลาญที่ตับ หากตับมีการทำงานมากจากการมีแอลกอฮอล์และยาในปริมาณสูงอาจทำให้ค่าการทำงานของตับสูงขึ้นได้ หากต้องการประเมินการทำงานของตับ ควรมาตามวันนัดของแพทย์ทุกครั้ง การรับประทาน Metoprolol มากเกินไป ร่วมกับยาที่อาจทำให้เกิดอันตรายต่อตับได้
คำถาม: ขณะนี้ฉันรับประทานยา Metoprolol succinate ตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มใช้ ฉันเริ่มได้ยินเสียงในหู มันมีความเกี่ยวข้องกับการใช้ยาหรือไม่?
คำตอบ: Toprol XL (metroprolol succinate) เป็นยาในกลุ่ม beta-1 selective adrenergic receptor) ที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยานี้คืออ่อนเพลีย เวียนหัว ซึมเศร้า หายใจลำบาก หัวใจเต้นช้า ความดันโลหิตต่ำ ท้องเสีย ผื่นคัน มีการรายงานว่าพบผลข้างเคียงเช่นได้ยินเสียงในหูระหว่างการใช้ยา Toprol XL ในระยะแรกหลังได้รับการอนุมัติและในการรับประทาน Metoprolol แต่ไม่ได้เป็นผลข้างเคียงของยา Toprol
คำถาม: ขนาดของยา Metoprolol tartrate ที่ใช้บ่อยสำหรับรักษาโรคความดันโลหิตสูงคือเท่าไร
คำตอบ: Metoprolol tartrate (Lopressor) เป็นยากลุ่ม beta-blocker ที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง อาการเจ็บหน้าอก และป้องกันการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ผลข้างเคียงของยาที่อาจพบได้ประกอบด้วยอาการวิตกกังวล กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ รู้สึกอ่อนเพลีย อาเจียน และมีอารมณ์ทางเพศลดลง หรืออาจมีปัญหาในการเข้าถึงจุดสุดยอด ยานี้ควรรับประทานพร้อมกับอาหารหรือตามหลังมื้ออาหารทันทีพร้อมกับน้ำ 1 แก้ว ควรรับประทานยาในเวลาเดียวกันทุกวันและรับประทานตามที่แพทย์สั่ง ระหว่างที่ใช้ยานี้ควรติดตามความดันโลหิตของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าระดับยาที่ใช้อยู่นั้นเหมาะสมสำหรับการควบคุมความดันโลหิตของคุณ ขนาดของยาที่มักใช้นั้นขึ้นกับผู้ป่วยแต่ละคน โดยมักจะเริ่มที่ 100 มิลลิกรัมต่อวัน รับประทานวันละครั้งหรือแบ่งออกเป็น 2 ครั้งตามที่แพทย์สั่ง ก่อนที่อาจมีการปรับระดับยาเพิ่มทุกสัปดาห์จนกว่าจะสามารถควบคุมความดันโลหิตได้ตามที่ต้องการ ระดับของยาที่ใช้นั้นอยู่ระหว่าง 100-450 มิลลิกรัมต่อวัน คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาว่าระดับยาขนาดใดที่ทำให้คุณสามารถควบคุมความดันโลหิตได้ดีที่สุด หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ
คำถาม: Metoprolol เป็นยาที่ใช้รักษาโรคอะไร?
คำตอบ: Metoprolol เป็นยาในกลุ่ม beta-blockers ที่ส่งผลต่อหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิต ยากลุ่มนี้ใช้รักษาอาการเจ็บหน้าอก ความดันโลหิตสูง และรักษาหรือป้องกันการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน บางครั้งอาจมีการใช้ยานี้ในภาวะอื่นที่ไม่ได้อยู่ในใบข้อมูลของยาได้ การใช้ในบริบทดังกล่าวนั้นไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา สำหรับ Metoprolol นั้นการใช้ยาในบริบทนี้อาจใช้เพื่อป้องกันไมเกรน การรักษาอาการมือสั่นและโรควิตกกังวล ผลข้างเคียงที่พบบ่อยประกอบด้วยคลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์ทางเพศลดลง นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย กระสับกระส่ายและอื่นๆ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรของคุณ
คำถาม: มียาอื่นที่สามารถใช้แทน Metoprolol ได้หรือไม่
คำตอบ: Metoprolol เป็นยาในกลุ่ม beta-blockers ซึ่งใช้รักษาอาการเจ็บหน้าอกและความดันโลหิตสูงและยังใช้รักษาหรือป้องกันการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันได้อีกด้วย ยากลุ่มนี้ทำงานโดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ หากคุณมีอาการซึ่งเป็นผลข้างเคียงของยาหรือไม่สามารถทนต่อยาได้ควรปรึกษาแพทย์ ยาในกลุ่มนี้ยังมีอีกหลายตัว หรือแพทย์อาจตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้ยาในกลุ่มอื่นก็ได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยา Metoprolol คือมึนหัว ท้องผูก ท้องเสีย ปากแห้ง ท้องอืด ปวดหัว แสบร้อนกลางหน้าอก เวียนหัว ง่วงนอน ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ และมีปัญหาเกี่ยวกับการนอน และยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่รุนแรงได้ อย่าหยุดรับประทานยานี้เองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจมักต้องใช้ยารักษาตลอดชีวิต นอกจากนั้นการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นธัญพืช ผักและผลไม้ ร่วมกับการออกกำลังกายยังอาจช่วยควบคุมความดันโลหิตได้อีกด้วย