กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

มะม่วง ข้อมูล สรรพคุณ ประโยชน์ และวิธีการบริโภคเพื่อสุขภาพ

แนะนำประโยชน์ของมะม่วง และแนวทางการกินการใช้มะม่วงเพื่อสุขภาพ
เผยแพร่ครั้งแรก 2 ส.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 20 มี.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
มะม่วง ข้อมูล สรรพคุณ ประโยชน์ และวิธีการบริโภคเพื่อสุขภาพ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • มะม่วง (Mango) เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผลมีรูปทรงรี เปลือกสีเขียว เนื้อผลตอนดิบจะกรอบ และเมื่อสุกจะนิ่มและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งเปลือกและเนื้อ โดยจะมีรสชาติที่หวานขึ้น
  • คุณค่าทางอาหารในมะม่วงดิบ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี และประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย เช่น คาร์โบไฮเดรต วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 9 วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก หรือแมกนีเซียม
  • ประโยชน์ของมะม่วงมีหลายด้าน เช่น เพิ่มความสดชื่น ดูแลผิวพรรณ บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง บำรุงสายตา หรือช่วยระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากอาการไข้ ไม่ควรเลือกรับประทานมะม่วงสุก เพราะอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรืออาจทำให้อาการไข้กำเริบขึ้น
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพ

มะม่วง ผลไม้ยอดฮิตของคนไทย เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอินเดีย มีทั้งรสชาติเปรี้ยว รสหวานอมเปรี้ยว และรสมัน นับเป็นเป็นผลไม้เศรษฐกิจของประเทศไทย มีหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ล้วนได้รับความนิยมทั้งสิ้น 

สำหรับใครที่ชื่นชอบการรับประทานมะม่วง เคยสงสัยหรือไม่ว่า นอกจากระสชาติอร่อยแล้ว มะม่วงมีสารอาหารอะไรบ้าง และมีประโยชน์มากน้อยอย่างไรต่อร่างกาย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

รู้จักมะม่วงให้มากยิ่งขึ้น

มะม่วง (Mango) เป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยผลมีรูปทรงรี เปลือกสีเขียว เนื้อผลตอนดิบจะกรอบ และเมื่อสุกจะนิ่มและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งเปลือกและเนื้อ โดยจะมีรสชาติที่หวานขึ้น

คุณค่าทางอาหาร

มะม่วงเป็นผลไม้ที่ให้สารอาหารครบถ้วนมากพอสมควร โดยในมะม่วงดิบ 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี โดยประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญดังนี้

นอกจากนี้มะม่วงยังประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 9 วิตามินซี แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสังกะสี

ประโยชน์ของมะม่วง

นอกจากจะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยจนได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ได้แก่

1. ทำให้สดชื่น 

ด้วยรสชาติเปรี้ยวของมะม่วง เมื่อรับประทานจะทำให้รู้สึกสดชื่น และกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น โดยมะม่วงจะช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ และช่วยแก้อาการร้อนใน เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามินซี

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

2. ช่วยดูแลผิวพรรณ

มะม่วงมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอและวิตามินซี ที่ทำให้ผิวพรรณไม่หมองคล้ำ ช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส และดูเปล่งปลั่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

3. ช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันแข็งแรง 

มะม่วงไม่ได้มีดีแค่รสชาติเท่านั้น แต่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่ส่วนช่วยทำให้กระดูกและฟันแข็งแรงขึ้น ช่วยป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย

4. ช่วยบำรุงสายตา 

สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เช่น มองไม่ชัด ปวดตา หรือตาสู้แสงไม่ได้ มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินเอและเบตาแคโรทีน ที่สามารถบำรุงและรักษาสายตาให้สามารถมองเห็นได้ปกติยิ่งขึ้น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

5. ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย 

มะม่วงมีเอนไซม์ที่มีคุณสมบัติช่วยในการย่อยสลายโปรตีนทำให้ดูดซึมดีขึ้น และอุดมไปด้วยกากใยอาหารเป็นจำนวนมาก จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ทำงานดี พร้อมกับทำให้การขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติ

6. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง 

งานวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในมะม่วง สามารถป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว และมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยสารเหล่านั้นได้แก่ เควอซิทิน ไอโซเควอซิติน แอสตรากาลิน ไฟเซติน กรดแกลลิกและเมทิลแกทเลท

7. ช่วยทำให้หลับสบาย 

มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ โดยจะทำให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น

8. ควบคุมความดันโลหิต 

ในมะม่วงมีโพแทสเซียมและแมกนีเซียม ที่มีส่วนสำคัญต่อระบบไหลเวียนโลหิต โดยจะช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตให้สมดุล นอกจากนี้ยังมีวิตามินอี ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเพศได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

9. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ 

มะม่วงมีวิตามินเอ วิตามินอีและซีลีเนียมที่มีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ ยังมีวิตามินบี 6 ที่จะช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ โดยช่วยลดระดับของโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่จะสร้างความเสียหายให้แก่ผนังหลอดเลือด อันเป็นที่มาของโรคหัวใจนั่นเอง

10. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล 

ในมะม่วงอุดมไปด้วยเพคตินและวิตามินซีที่จะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

11. บำรุงสมอง 

วิตามินบี 6 มีส่วนป้องกันและเสริมสร้างการทำงานของสมองได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีส่วนสำคัญต่อการทำงานของสารสื่อประสาทที่มีส่วนช่วยกำหนดอารมณ์และรูปแบบของการนอนหลับ  

นอกจากนั้นยังมีกลูตามีน (Glutamine) ซึ่งเป็นสารที่มีส่วนช่วยให้สมองเกิดการจดจำที่ดีขึ้น ที่สำคัญยังทำให้เซลล์สมองเกิดความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

12. ป้องกันโรคโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์ 

คุณแม่ตั้งครรภ์มักจะมีอาการแพ้ท้อง ซึ่งบรรเทาได้โดยการรับประทานมะม่วงเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญต่อคนท้อง จึงสามารถแก้ภาวะโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์ได้

13. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย 

มะม่วงอุดมไปด้วยวิตามินซี และวิตามินเอ รวมถึงยังมีสารแคโรทีนอยด์อีก 25 ชนิด จึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ทำให้ร่างกายสามารถต่อกรกับสารพิษและแบคทีเรียชนิดต่างๆ ได้ดี ทำให้ร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น โอกาสในการเจ็บป่วยก็มีน้อยลง

แนวทางการใช้เพื่อสุขภาพ

นอกจากผลของมะม่วงที่นำมารับประทานหรือทำเป็นเมนูต่างๆ ได้แล้ว ส่วนอื่นๆ ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ด้วย ดังนี้

  • ใบ ช่วยบรรเทาโรคเบาหวานให้ทุเลาลงได้ เพียงนำใบมะม่วงมาล้างให้สะอาดและนำมาต้มในน้ำ 1 ถ้วย ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นนำมากรองเอาแต่น้ำ ดื่มเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้อาการของโรคเบาหวานบรรเทาลงแล้ว น้ำจากใบยังช่วยแก้อาการท้องอืดและแก้อาการลำไส้อักเสบเรื้อรังได้อีกด้วย
  • เปลือกต้น สามารถนำมาต้มรับประทานเพื่อแก้โรคคอตีบ ช่วยรักษาอาการเยื่อปากอักเสบ และจมูกอักเสบ วิธีใช้คือ ให้นำมาคั่วรับประทานร่วมกับน้ำตาล นอกจากนี้ ยังช่วยแก้อาการปวดประจำเดือน ลดอาการปวดเมื่อยและแก้ไข้ตัวร้อนได้ด้วย
  • เม็ด นำมาตากแห้งและต้มเพื่อดื่มช่วยขับพยาธิได้
  • เนื้อ นำมาบำรุงผิวหน้าได้ด้วยการบดละเอียดและนำมาพอกผิว เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำให้รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน และทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังสามารถนำมาบำรุงผมได้อีกด้วย โดยมีสูตรการทำดังนี้
    • สูตรพอกหน้าเพื่อผิวกระจ่างใส วิธีทำ นำเนื้อมะม่วงสุกมาบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที ล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยปรับสภาพผิวให้ค่อยๆ กระจ่างใส ช่วยลดจุดด่างดำและชะลอริ้วรอยได้
    • สูตรลดสิว วิธีทำ ฝานมะม่วงเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นนำมาวางบนใบหน้าปล่อยไว้ 30 นาทีแล้วล้างออก วิตามินเอจากมะม่วงจะช่วยลดการเกิดสิวได้เป็นอย่างดี
    • สูตรหมักผม เพื่อผมนุ่มสลวยเงางาม วิธีทำ นำเนื้อมะม่วงมาบดผสมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ และไข่แดง 2 ฟอง โดยบดจนได้เนื้อเนียนละเอียดแล้วนำมาหมักผมทิ้งไว้ 30 นาที เสร็จแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำ ผมจะนุ่มสลวย มีน้ำหนักเงางาม

แนวทางการรับประทานมะม่วงเพื่อสุขภาพ

เนื่องจากมะม่วงเป็นผลไม้ที่หาได้ง่ายและมีประโยชน์ที่หลากหลาย สำหรับบ้านไหนที่ซื้อติดบ้านเป็นประจำอยู่แล้ว สามารถนำมาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ดังนี้

1. ยำมะม่วงปลาแซลมอน

  • วัตถุดิบ ปลาแซลมอนสดสไลด์บางๆ มะม่วงดิบหรือมะม่วงมันซอยเป็นเส้นและแช่น้ำเย็นไว้ให้กรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด หอมแดง ต้นหอม น้ำปลา น้ำมะนาวและพริกป่น
  • วิธีทำ นำน้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น และหอมแดงมาคลุกเคล้าจนได้รสชาติที่ชอบ โรยมะม่วงที่เตรียมไว้และตักใส่จานปลาแซลมอน โรยต้นหอมและเม็ดมะม่วงหิมพานต์อีกครั้งเป็นอันเสร็จ เมนูนี้ นอกจากจะได้ประโยชน์จากมะม่วงแล้ว แซลมอนถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก

2. เนื้อต้มจิ๋วมะม่วงดิบ

  • วัตถุดิบ เนื้อน่องลายตุ๋นจนเปื่อย น้ำซุปเนื้อ มะม่วงดิบ มันเทศ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา หอมแดงซอย ใบกะเพรา ใบโหระพา และพริกขี้หนูบุบพอแตก
  • วิธีทำ เพียงนำมะม่วงมาต้มกับน้ำซุปและปรุงรสให้ได้รสชาติที่ต้องการ เป็นเมนูที่ช่วยเพิ่มโปรตีน มีสมุนไพรที่ช่วยขับลม และยังเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยอีกด้วย

3. น้ำมะม่วงสมูทตี้โยเกิร์ต

  • วัตถุดิบ เนื้อมะม่วงสุก (หั่นเป็นชิ้น) 100 กรัม น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง (หรือปริมาณตามชอบ) 2 ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 50 กรัม น้ำแข็งบดปริมาณตามขนาดแก้ว และมะม่วงสุก หรือใบสะระแหน่
  • วิธีทำ ให้นำส่วนผสมทั้งมาผสมลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ จากนั้นปั่นส่วนผสมให้ละเอียดเข้ากัน เทใส่แก้วและตกแต่งด้วยเนื้อมะม่วงหรือใบสาระแหน่ ประโยชน์จากเครื่องดื่มชนิดนี้จะช่วยเสริมสร้างวิตามินซีให้แก่ร่างกายและยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย

4. น้ำพริกมะม่วง

  • วัตถุดิบ กะปิ กุ้งแห้ง กระเทียม พริกขี้หนูสวน น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น และน้ำมะนาว 
  • วิธีทำ นำส่วนประกอบทั้งหมดมาตำและคลุกเคล้าให้เข้ากัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้น้ำพริกมะม่วงที่สามารถนำไปรับประทานคู่กับข้าว ผักทอด ผักสด หรือไข่เจียวก็อร่อยได้ไม่แพ้กับน้ำพริกอื่นๆ เลย และจะได้ประโยชน์จากมะม่วงอย่างเต็มที่

5. สลัดมะม่วงสายบัว

  • วัตถุดิบ มะม่วงสุกหั่นเต๋า สายบัวหั่นเฉียง (ลวกสุก) เปลือกมะนาวสับ มะเขือเทศสีดา น้ำส้มสายชูจากน้ำผึ้ง น้ำมะนาว น้ำมันมะกอก หรืออาจจะเพิ่มพริกแดงสับ หอมแดงสับ ผักชีลาว และสะระแหน่ตามชอบ 
  • วิธีทำ นำส่วนผสมมาคลุกเคล้ากัน โดยเริ่มจากทำน้ำยำก่อน จึงตามด้วยสายบัวและมะม่วง หรือผักอื่นๆ คลุกเคล้า ชิมรสตามชอบ

ข้อควรระวังการใช้หรือบริโภค

  1. ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ที่ร่างกายกำลังฟื้นตัวจากอาการไข้ ไม่ควรเลือกรับประทานมะม่วงสุก เพราะอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรืออาจทำให้อาการไข้กำเริบขึ้น
  2. หากเป็นโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานมะม่วง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมในปริมาณสูง อาจทำให้เกิดภาวะโพแทสเซียมสูงเกินกว่าปกติได้
  3. ก่อนรับประทานทุกครั้ง ควรล้างให้สะอาดทั้งก่อนและหลังปอกเปลือก เพราะยางของมะม่วงอาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อปาก ตา และผิวหนังได้

มะม่วง นอกจากมีรสชาติอร่อยถูกปากแล้ว ยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย แต่สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากรับประทานมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ ที่สำคัญถ้ามีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ไต ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Cynthia Sass, 6 Health Benefits of Mangoes (https://www.health.com/nutrition/health-benefits-mango)
Megan Ware, What to know about mangoes (https://www.medicalnewstoday.com/articles/275921.php) 15 November 2019
Ryan Raman, Mango: Nutrition, Health Benefits and How to Eat It (https://www.healthline.com/nutrition/mango) 17 December 2018

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
ประโยชน์ของการหยุดสูบบุหรี่ที่มีต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงอะไรบ้าง ตั้งแต่ 20 นาที จนถึง 15 ปี
ประโยชน์ของการหยุดสูบบุหรี่ที่มีต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงอะไรบ้าง ตั้งแต่ 20 นาที จนถึง 15 ปี

ร้อยพันประโยชน์ของการหยุดสูบบุหรี่ อ่านสักนิด คุณภาพชีวิตดีขึ้นแน่นอน

อ่านเพิ่ม
อาหารต้านเชื้อราแคนดิดา (Candida Diet)
อาหารต้านเชื้อราแคนดิดา (Candida Diet)

หากจำนวนเชื้อราแคนดิดาในร่างกายมีมากเกินไป อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้

อ่านเพิ่ม
มาตรฐาน การอบประคบสมุนไพร : การอบสมุนไพร
มาตรฐาน การอบประคบสมุนไพร : การอบสมุนไพร

ภูมิปัญญาไทยที่ทรงคุณค่า บรรเทาอาการเจ็บป่วย รักษาโรค และบำรุงสุขภาพได้ หากใช้อย่างถูกวิธี

อ่านเพิ่ม