กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
ทีมแพทย์ HD
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
ทีมแพทย์ HD

น้ำผึ้ง มากคุณค่าทางสารอาหาร และช่วยบำรุงผิวพรรณ

นอกจากความหอมหวานแล้ว น้ำผึ้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและความสวยความงามอีกมากมาย
เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 ตรวจสอบความถูกต้อง 3 พ.ค. 2019 เวลาอ่านประมาณ 4 นาที
น้ำผึ้ง มากคุณค่าทางสารอาหาร และช่วยบำรุงผิวพรรณ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • น้ำผึ้ง เป็นผลผลิตรสหวานจากรังผึ้งซึ่งเกิดจากการผึ้งได้ไปกินน้ำหวานจากดอกไม้ และแหล่งน้ำหวานอื่นๆ จัดเป็นอาการยอดนิยมในหลายๆ คน เพราะมีรสชาติหวานอร่อย และมีประโยชน์มากมาย
  • น้ำผึ้งมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ลดการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย ขับสารพิษในผู้ที่มีอาการท้องผูกด้วย
  • น้ำผึ้งมีจุดเด่นในการบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความชุ่มชื้นใต้ผิว มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่ได้รับจากแสงแดด
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรรับประทานน้ำผึ้งอย่างระมัดระวัง เพราะเป็นอาหารที่มีน้ำตาลสูง และควรซื้อน้ำผึ้งจากแหล่ง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพราะน้ำผึ้งจากบางแหล่งซื้อนั้นมาจากดอกไม้ที่มีพิษ ที่ส่งผลทำให้เกิดอาการท้องเดินได้
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคเบาหวาน

น้ำผึ้ง สุดยอดวัตถุดิบจากธรรมชาติที่ไม่ได้มีแค่ความหอมหวานอร่อย แต่ยังอุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และถูกใช้เป็นยาเพื่อประโยชน์ทางสุขภาพมาช้านาน รวมถึงความโดดเด่นในเรื่องการบำรุงผิวพรรณ และเพิ่มความสวยความงาม 

วันนี้เราจึงได้นำข้อมูลเกี่ยวกับน้ำผึ้งและคำแนะนำการใช้อย่างถูกวิธีมาฝากกัน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจเบาหวานวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 83%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ความหมายของน้ำผึ้ง

น้ำผึ้ง (Honey) เป็นผลิตผลของน้ำหวานจากดอกไม้ และแหล่งน้ำหวานอื่นๆ จากธรรมชาติที่ผึ้งงานนำมาเก็บสะสมไว้ในรังผึ้ง จากนั้นเหล่าผึ้งจะกินน้ำหวานที่ได้มาเข้าไป และน้ำหวานที่ผ่านการย่อย และผ่านเอนไซม์ในท้องผึ้งก็จะกลายมาเป็นน้ำผึ้งอยู่ในรังผึ้งอย่างที่เรารับประทานกันในที่สุด 

น้ำผึ้งที่ได้มาจากแต่ละแห่งนั้นจะมีรสชาติ ความหอมหวาน และสีที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ หรือชนิดของเกสรดอกไม้ที่ผึ้งได้ไป รวมถึงแหล่งของพืชและพื้นดินในบริเวณที่ผึ้งอาศัยอยู่ 

ดังนั้นน้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่ก็จะประกอบไปด้วยน้ำหวานจากดอกไม้นานาพันธุ์ ส่วนน้ำผึ้งจากผึ้งเลี้ยงอาจมีน้ำหวานจากดอกไม้ชนิดเดียว หรือเพียงไม่กี่พันธ์ุเท่านั้น

คุณค่าทางโภชนาการ

น้ำผึ้ง 100 กรัม จะให้พลังงาน 303 กิโลแคลอรี่ และประกอบไปด้วยสารสำคัญต่อไปนี้

  • น้ำ ประมาณ 20% 
  • น้ำตาลชนิดต่างๆ เช่น กลูโคส และฟรักโทส ประมาณ 79% 
  • กรดชนิดต่างๆ ประมาณ 0.5 % 
  • วิตามิน เอนไซม์ และแร่ธาตุต่างๆ เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และวิตามินซี ประมาณ 0.5 % 

จะเห็นได้ว่า องค์ประกอบหลักของน้ำผึ้งก็คือ น้ำตาล และเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดียวเป็นส่วนมาก ซึ่งจะสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย 

ประโยชน์ของการดื่มน้ำผึ้ง

น้ำผึ้งเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารที่ไม่เพียงมีรสชาติหอมหวาน และอร่อยถูกปาก แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารหวาน หรือทำเป็นเครื่องดื่มดับกระหาย โดยเฉพาะน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นที่ขึ้นชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลากหลายด้าน 

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจเบาหวานวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 83%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

1. ลดการอักเสบ

น้ำผึ้งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยหนึ่งในนั้น คือ สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการอักเสบทั้งแบบปกติ และแบบเรื้อรัง

การดื่มน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่นจะช่วยกำจัดสารโพรสตาแกลนดินส์ (Prostaglandins) ที่ร่างกายหลั่งออกมาเพื่อตอบสนองต่อการบาดเจ็บหรือติดเชื้อ และส่งผลให้เกิดกระบวนการอักเสบตามมา ซึ่งในบางครั้งก็มีการหลั่งสารชนิดนี้ออกมามากกว่าปริมาณที่ต้องการ จึงทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้

2. ช่วยในการขับถ่าย

เอนไซม์ในน้ำผึ้งมีประโยชน์ในการช่วยย่อยสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต จึงมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ แก้อาการท้องผูกในเด็ก และคนชราได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้การดื่มน้ำผึ้งผสมกับมะนาวและน้ำอุ่นยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการผลิตเมือกในลำไส้ ซึ่งจะช่วยในการกำจัดสารพิษ สำหรับใครที่กำลังประสบกับปัญหาท้องผูก การดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้จึงอาจช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวกขึ้น

3. เพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย

น้ำผึ้งอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานชั้นเยี่ยม และยังดีต่อสุขภาพกว่ามากเมื่อเทียบกับสารให้ความหวานแทนน้ำตาล นอกจากนี้การดื่มแบบผสมกับน้ำอุ่นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณจะรับประทานแต่น้ำผึ้งโดยไม่ออกกำลังกาย แต่ควรหมั่นทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย และออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-5 วัน วันละประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีการเผาผลาญพลังงานอยู่เสมอ

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจเบาหวานวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 78 บาท ลดสูงสุด 83%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นออกกำลังกายอย่างไรในช่วงแรก ก็อาจปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับแนวทางการออกกำลังกาย หรือจ้าง และปรึกษาเทรนเนอร์สำหรับออกกำลังกายในช่วงเริ่มต้น เพื่อให้ต้นเองรู้แนวทางการออกกำลังอย่างเหมาะสม จากนั้นค่อยลองออกกำลังด้วยตนเองอีกครั้ง

4. กำจัดแบคทีเรีย

น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการต่อต้านแบคทีเรีย เนื่องจากมีสารที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่สามารถก่อให้เกิดโรคร้ายได้ อีกทั้งมีกรดตามธรรมชาติที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรค ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายที่จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยขึ้นนั่นเอง

5. กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

นอกจากจะช่วยต่อต้านแบคทีเรียได้ และลดการอักเสบได้แล้ว น้ำผึ้งยังมีกลูโคสตามธรรมชาติที่มีส่วนช่วยให้เซลล์ในภูมิคุ้มกันร่างกายกำจัด หรือทำลายสิ่งแปลกปลอม จึงช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น

6. ช่วยอาการนอนไม่หลับ

สำหรับคนที่มีอาการเครียด นอนไม่หลับ ก็สามารถได้ประโยชน์จากน้ำผึ้งเช่นกัน 

เพราะในน้ำผึ้งมีกรดที่สำคัญอย่างกรดเดซิโนอิค (Decenoic acid) ซึ่งเป็นกรดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยคลายเครียด และทำให้อารมณ์ดี ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับได้เป็นอย่างดี โดยรับประทานก่อนนอน และเลี่ยงความหวานโดยรับประทานเป็นช้อนชาเล็กๆ หรือผสมน้ำดื่ม

ประโยชน์ต่อการบำรุงผิวพรรณ

ประโยชน์ของน้ำผึ้งในการบำรุงผิวพรรณ หรือผสมในเครื่องสำอางชนิดต่างๆ ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์อย่างพระนางคลีโอพัตรา หรืออีกหลายๆ คน ก็ใช้วัตถุดิบชนิดนี้เป็นเครื่องประทินโฉมกันมานานแล้ว 

คุณสมบัติที่โดดเด่นของน้ำผึ้งอยู่ที่การต่อต้านแบคทีเรีย เพราะมีสารที่ชื่อว่า "ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์" ช่วยต่อต้านแบคทีเรียได้อย่างดีเยี่ยม กำจัดเชื้อโรคได้โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อ รวมถึงรักษาโรคผิวหนัง และบำรุงความงามอย่างกว้างขวาง

นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีสารให้ความชุ่มชื้นที่จะช่วยให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม และด้วยคุณสมบัติที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี และช่วยเสริมสร้างเซลล์ใหม่ให้แก่ผิวหนังด้วย 

โดยวิธีใช้ที่ทำได้ง่ายๆ และแนะนำกันมานานรุ่นต่อรุ่น คือ ใช้น้ำผึ้งแท้ทาผิวหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำ หรืออาจใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดออก จะรู้สึกได้ทันทีว่าผิวนุ่มเนียนขึ้น 

นอกจากนี้ยังมีเครื่องสำอางมากมายที่มักใช้น้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบ เช่น ครีมพอกหน้า ครีมขัดหน้า สบู่ล้างหน้า และเจลล้างหน้า แต่เลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ และศึกษาข้อมูลประกอบการตัดสินใจใช้ให้ดี   

ข้อควรระวังในการใช้น้ำผึ้ง

แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้กับทุกคน บุคคลที่มีปัญหาสุขภาพต่อไปนี้ ควรระมัดระวัง หรือจำกัดการดื่มน้ำผึ้ง

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะมีน้ำตาลแคลอรี่สูง หากรับประทานมากเกินพอดีจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
  • คนที่มักมีอาการอาหารไม่ย่อย และอาเจียนบ่อยๆ 
  • เด็กอายุน้อยกว่า 1 ขวบไม่ควรดื่ม เพราะในน้ำผึ้งอาจมีสปอร์ของเชื้อคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium botulinum) ซึ่งจะเจริญเติบโตได้ดีในระบบทางเดินอาหารของเด็กเล็ก และทำให้เกิดสารพิษที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่มักเกิดขึ้นไม่บ่อย
  • บางครั้งน้ำผึ้งอาจได้มาจากน้ำหวานของเกสรดอกไม้ที่เป็นพิษ เช่น น้ำหวานจากดอกต้นตาตุ่มทะเล ซึ่งเมื่อกินเข้าไปจะทำให้ท้องเดิน ดังนั้นก่อนซื้อน้ำผึ้งที่หาบเร่ขาย หรือวางขายตามริมทาง ควรสอบถามถึงแหล่งที่มาให้ละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงพิษภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

นอกจากนี้น้ำผึ้งที่นิยมนำมาบำรุงสุขภาพและความสวยความงามนั้นมักไม่ผ่านการใช้ความร้อนฆ่าเชื้อหรือการพาสเจอร์ไรส์ เพราะจะช่วยคงสารอาหารที่มีประโยชน์ไว้ได้มากกว่า พบได้มากตามริมทางหรือร้านค้าท้องถิ่น 

ส่วนน้ำผึ้งที่ขายตามร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้านั้นส่วนใหญ่จะผ่านการพาสเจอร์ไรส์มาก่อน ดังนั้นหากต้องการใช้น้ำผึ้งสดๆ จากรัง โดยไม่ผ่านขั้นตอนใดๆ คุณควรเลือกแหล่งจำหน่ายที่น่าเชื่อถือด้วย

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคเบาหวาน จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Asha'ari ZA et al., Ingestion of honey improves the symptoms of allergic rhinitis: evidence from a randomized placebo-controlled trial in the East Coast of Peninsular Malaysia (https://www.ncbi.nlm.nih.gov), October 2013
Cohen HA et al., Effect of honey on nocturnal cough and sleep quality: a double-blind, randomized, placebo-controlled study (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22869830), 6 August 2012
นายชยานนท์ เชาวน์วุฒิกุล, คณะการแพทย์แผนไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, น้ำผึ้ง...มากกว่าความหวาน (http://www.ttmed.psu.ac.th/blog.php?p=39), 6 มิถุนายน 2556

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
รู้หรือไม่...น้ำตาลทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง
รู้หรือไม่...น้ำตาลทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง

งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า น้ำตาลมีส่วนทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ร่างกายมีโอกาสเสี่ยงได้รับเชื้อโรคมากกว่าปกติ

อ่านเพิ่ม
รู้จักเนยหลากชนิดพร้อมประโยชน์ต่อสุขภาพ
รู้จักเนยหลากชนิดพร้อมประโยชน์ต่อสุขภาพ

รวมประโยชน์ของเนยที่ดีสุขภาพ มาดูกันว่ามีอะไรบ้างนอกจากความหอมอร่อย

อ่านเพิ่ม