กองบรรณาธิการ HonestDocs
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HonestDocs

Paget Disease (โรคพาเก็ท)

เผยแพร่ครั้งแรก 24 ก.พ. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • โรคพาเก็ทของเต้านม (Paget Disease) เป็นมะเร็งเต้านมรูปแบบหนึ่ง แต่คนมักเข้าใจผิดว่า เป็นโรคทางผิวหนังเนื่องจากอาการแสดงในครั้งแรกนั้นอาจสับสนกับโรคทางผิวหนังที่พบได้ทั่วไปบริเวณหัวนมได้
  • ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า โรคนี้เกิดจากอะไร แต่ข้อแรกสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากก้อนเนื้องอกภายในเต้านมมีการเคลื่อนที่ผ่านทางท่อน้ำนมออกมาสู่หัวนมและลานนม ส่วนข้อสองสันนิษฐานว่า เซลล์ที่บริเวณหัวนม หรือลานนม กลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง
  • อาการแสดงของโรคนี้มักเกิดภายในเต้านมข้างเดียวเท่านั้น มักจะเริ่มที่หัวนมก่อนจะแพร่กระจายสู่ลานนมและบริเวณอื่นๆ นอกจากนี้ยังอาจมีอาการเหล่านี้ เช่น ผิวหนังบริเวณหัวนมแตกเป็นขุย รู้สึกแสบ คัน บริเวณหัวนม มีสารคัดหลั่งสีเหลืองใส หรือเป็นเลือดออกจากหัวนม
  • แนวทางการรักษาโรคนี้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและดุลพินิจของแพทย์เจ้าของไข้ เช่น การตัดเต้านม  การตัดก้อนในเต้านม และการใช้หลายวิธีการรักษาร่วมกันเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของมะเร็งหลังจากการผ่าตัด เช่น การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง และการให้ยาฮอร์โมน
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคมะเร็งสำหรับผู้หญิง

โรคพาเก็ทของเต้านม (Paget Disease) เป็นมะเร็งเต้านมรูปแบบหนึ่ง แต่คนมักเข้าใจผิดว่า เป็นโรคทางผิวหนังเนื่องจากอาการแสดงในครั้งแรกนั้นอาจสับสนกับโรคทางผิวหนังที่พบได้ทั่วไปบริเวณหัวนมได้ 

นอกจากนี้โรคพาเก็ทของเต้านมยังไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ Paget’s Disease ที่กระดูก ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทางเมตาบอลิกของกระดูกด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ข้อมูลจาก American Cancer Society ระบุว่า โรคพาเก็ทของเต้านมนั้นสามารถพบได้ประมาณ 1% ของมะเร็งเต้านมทั้งหมด และมักพบในผู้หญิงที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

สาเหตุการเกิดโรค Paget Disease

แม้ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า โรคนี้เกิดจากอะไร แต่มี 2 ทฤษฎีที่อธิบายเกี่ยวกับการเกิดของโรคที่เชื่อถือกันอย่างกว้างขวาง ดังนี้

  • เซลล์มะเร็งจากก้อนเนื้องอกภายในเต้านมมีการเคลื่อนที่ผ่านทางท่อน้ำนมออกมาสู่หัวนมและลานนม ทฤษฎีนี้อาจสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมโรคนี้ขึงมักพบร่วมกับการมีก้อนที่ภายในเต้านมข้างเดียวกัน
  • เซลล์ที่บริเวณหัวนม หรือลานนม เกิดการกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งด้วยตัวเอง

อาการของโรค Paget Disease ที่เต้านม

อาการและอาการแสดงของโรคนี้มักถูกเข้าใจผิดว่า เป็นโรคทางผิวหนังชนิดอื่น เช่น โรคผิวหนังอักเสบ หรือผื่นแพ้ ซึ่งพบได้บ่อยกว่ามาก การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่เกิดขึ้นสามารถหายไปเองได้ หรือถ้ามีการรักษาด้านผิวหนังก็จะตอบสนองต่อการรักษาได้ดี ทำให้ดูเหมือนว่า ผิวหนังของคุณกำลังจะหายดี 

ดังนั้นผู้หญิงส่วนมากจึงมักมีอาการเช่นนี้นานหลายเดือนก่อนที่จะสามารถวินิจฉัยได้ว่า "เป็นโรคพาเก็ทของเต้านม" 

อาการและอาการแสดงของโรคนี้มักเกิดภายในเต้านมข้างเดียวเท่านั้น โดยโรคมักจะเริ่มที่หัวนมก่อนที่จะแพร่กระจายสู่ลานนมและบริเวณอื่นๆ ของเต้านม

อาการอื่นๆ ที่สามารถเป็นได้ของโรคนี้เช่น

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • ผิวหนังบริเวณหัวนมแตกเป็นขุย
  • ผิวหนังบริเวณเต้านม หรือลานนมมีน้ำเหลืองซึม หรือแข็งขึ้น หรือมีลักษณะคล้ายผื่นแพ้
  • รู้สึกแสบ คัน บริเวณหัวนม
  • บริเวณหัวนมแดง
  • มีสารคัดหลั่งสีเหลืองใส หรือเป็นเลือดออกจากหัวนม
  • หัวนมแบน หรือบุ๋มเข้าใน
  • คลำได้ก้อนในเต้านม

การวินิจฉัยโรค Paget Disease ที่เต้านม

National Cancer Institute ได้กล่าวว่า ประมาณ 50% ของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้จะมีก้อนที่สามารถคลำได้ขณะทำการตรวจเต้านมโดยบุคลากรทางการแพทย์ ดังนั้นแพทย์จึงอาจทำการตรวจดังต่อไปนี้ก่อนที่จะวินิจฉัยโรค

  • ตรวจเต้านม แพทย์จะทำการดูและคลำหาก้อน หรือบริเวณที่แปลกประหลาดภายในเต้านมทั้งสองข้าง รวมถึงผิวหนังด้านนอกและหัวนม
  • การทำ Mammogram และ MRI การทำ Mammogram เป็นการเอกซเรย์เนื้อเยื่อของเต้านมซึ่งสามารถตรวจพบก้อนภายในเต้านมได้ หากการตรวจไม่พบอาการใดๆ ของมะเร็งเต้านม แพทย์อาจแนะนำให้ทำการ MRI หรือ ตรวจเอกซเรย์คลื่นเม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อตรวจหาก้อนมะเร็งที่ Mammogram มองไม่เห็น
  • การตัดชิ้นเนื้อจากเต้านม แพทย์จะทำการตัดตัวอย่างชิ้นเนื้อขนาดเล็กจากก้อนภายในเต้านมและส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
  • การตัดชิ้นเนื้อจากหัวนม แพทย์ หรือศัลยแพทย์เต้านมจะทำการตัดตัวอย่างเนื้อเยื่อจากผิวหนังของหัวนมออกไปตรวจ และถ้าเป็นไปได้จะเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากหัวนมด้วยเพื่อนำไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ
  • การตัดต่อมน้ำเหลือง หากการตรวจทางภาพวินิจฉัย หรือการตัดชิ้นเนื้อ แสดงว่า มีมะเร็งเต้านมแบบลุกลาม แพทย์อาจต้องการทราบว่า มะเร็งมีการแพร่กระจายไปยังบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้แล้วหรือไม่ หากไม่พบก็มักจะแสดงว่า มะเร็งน่าจะไม่ได้มีการแพร่กระจายสู่ต่อมน้ำเหลืองอื่นๆ

การรักษาโรค Paget Disease ที่เต้านม

แนวทางการรักษาโรคนี้จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและดุลพินิจของแพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งอาจใช้เพียงวิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ หรือใช้หลายวิธีร่วมกันก็ได้

  • การตัดเต้านม เป็นการผ่าตัดนำเต้านมทั้งข้างออก แต่ไม่ได้ตัดต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกด้วยหากพบว่าไม่มีมะเร็งลามไปยังบริเวณดังกล่าว
  • การตัดก้อนในเต้านม เป็นการผ่าตัดเพื่อนำเฉพาะบริเวณที่เป็นมะเร็งในเต้านมออกซึ่งรวมถึงหัวนมและลานนม และมักจะต้องใช้การรักษาด้วยการฉายรังสีร่วมด้วยหลังจากการผ่าตัด
  • การรักษาร่วม หมายถึง การใช้หลายวิธีการรักษาร่วมกันเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำของมะเร็งหลังจากการผ่าตัด เช่น การให้ยาเคมีบำบัด การฉายแสง และการให้ยาฮอร์โมน

ผู้หญิงทุกคนควรหมั่นสังเกตความผิดปกติของเต้านมด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นผื่น สีของผิวหนัง ความเรียบของผิวหนัง ก้อนในผิวหนัง อาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งมีของเหลวใดๆ ออกมากจากเต้านม หรือไม่ 

หากมีความผิดปกติเกิดขึ้นไม่ควรนิ่งนอนใจ แต่ควรไปรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยต่อไป นอกจากนี้หากคุณอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็ง อาจเข้ารับการตรจจคัดกรองมะเร็งประจำปีก็ได้ 

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคมะเร็งสำหรับผู้หญิง จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


8 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Paget's Disease Treatment, Symptoms & Diagnosis. MedicineNet. (Available via: https://www.medicinenet.com/pagets_disease/article.htm)
Paget's Disease of the Nipple: Symptoms, Diagnosis, and More. Breastcancer.org. (Available via: https://www.breastcancer.org/symptoms/types/pagets)
Paget's Disease. NORD (National Organization for Rare Disorders). (Available via: https://rarediseases.org/rare-diseases/pagets-disease/)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

ดูคำถามและคำตอบอื่นๆ ที่เกี่ยวกับอาการนี้
มะเร็งเต้านมมีโอกาสลามไปอีกข้างไหมคะ ตอนนี้ผ่าตัดได้ 4 ปีแล้วค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม เราสามารถทานของอาหารทะเลได้หรือไม่ค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
อายุ26ปีค่ะ ช่วงก่อนมีประจำเดือน คลำๆหน้าอกด้านขวาตอนนอนตะแคงไปทางซ้ายแล้วเจอเป็นเนื้อแข็งๆ ไม่แน่ใจว่ามีมานานรึยัง ลักษณะแบบนี้ มีโอกาสเป็นซีส หรือ มะเร็งเต้านมรึเปล่าคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
เจ็บใต้ราวนมเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมมั้ยค่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
คนที่มีหน้าอกใหญ่มากมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าคนมีหน้าอกปกติ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
แม่ของดิฉันตรวจพบเจอก้อนซีสที่เต้านมแต่ไปหาหมอตรวจแล้วพบเป็นแค่ซีส หมอจึงนัดตรวจผลอีก1ปี อยากถามว่าจะมีสิทธ์เป็นมะเร็งเต้านมได้หรือมั้ย
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)