ผักชีลาว (Dill)

ผักชีลาว พบได้บ่อยในอาหารพื้นเมืองภาคอีสาน นอกจากมีกลิ่นเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ ทั้งส่วนเมล็ด ใบ และลำต้นของ ผักชีลาวยังมีสรรพคุณทางยาหลายอย่างน่าสนใจ
เผยแพร่ครั้งแรก 14 พ.ย. 2019 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ผักชีลาว (Dill)

ผักชีลาว (Dill) เป็นผักทีมีใบเอกลักษณ์และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสดหรือผ่านความร้อน ตั้งแต่ส่วนยอดถึงราก นอกจากจะใช้ตกแต่งอาหารและช่วยให้อาหารมีกลิ่นหอมน่ารับประทานมากขึ้นแล้ว ยังสามารถลดกลิ่นคาวในอาหารได้ ทางภาคอีสานนิยมใส่ผักชีลาวในอาหารพื้นเมือง เช่น อาหารประเภทหมกหรือแกง

ประโยชน์ของผักชีลาว

ส่วนต่างๆ ของต้นผักชีลาวให้ประโยชน์ดังนี้

  • เมล็ดผักชีลาว
    ในตำรับยาสมุนไพร เรียกเมล็ดของผักชีลาวว่า “เทียนตาตั๊กแตน” เมล็ดผักชีลาวมีลักษณะรี ยาว รูปไข่ สีน้ำตาลอมเหลือง คล้ายตาตั๊กแตน กลิ่นหอมกว่าส่วนอื่นๆ แต่มีสรรพคุณเช่นเดียวกับกับลำต้นและใบ

    จัดอยู่เครื่องยาไทยในพิกัดเทียน (เทียน หมายถึง เครื่องยาสมุนไพร ที่ได้จากผลหรือเมล็ดแห้ง) เป็นส่วนประกอบในตำรับยาหอมเทพจิตรและยาหอมนวโกฐ

    มีสรรพคุณแก้อาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับลม ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาการจุกแน่นในท้องได้

    งานวิจัยหลายฉบับระบุว่า เมื่อนำเมล็ดผักชีลาวไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย จะมีคุณสมบัติต้านและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่างๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการท้องร่วงและอาหารเป็นพิษ สอดคล้องกับงานวิจัยหนึ่งในแอฟริกาที่ใช้น้ำมันจากผักชีลาวเป็นสารกันบูด เนื่องจากสามารถยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรียในอาหารได้หลายชนิด

    การแพทย์อายุรเวทของอินเดีย มักใช้เมล็ดผักชีลาวช่วยในการขับลมในท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร แก้ปวดท้อง ลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยขับปัสสาวะ นิยมใช้ใบผักชีลาวเป็นส่วนประกอบหนึ่งของยาขับลมในเด็ก แก้อาการสะอึกและอาการโคลิก มักเกิดในเด็กเล็ก มีอาการร้องไห้งอแง จนมีอาการหน้าแดงและกำมือแน่นตามมา ไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง ส่วนหนึ่งเกิดจากมีลมในท้องมาก มีอาการปวดท้อง

    มีการศึกษาพบว่า เมล็ดผักชีลาวช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรล และไขมันชนิดไม่ดี (LDL) ในเส้นเลือด รวมถึงช่วยเพิ่มไขมันชนิดดี (HDL) ได้ด้วย

    ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ การบริโภคเมล็ดผักชีลาวช่วยเพิ่มความเข้มข้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ทำให้กระตุ้นการไหลน้ำนม ในมารดาให้นมบุตรได้เป็นอย่างดี เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน ที่มีหน้าที่เพิ่มบีบตัวของมดลูกระหว่างการคลอดบุตร ช่วยรักษาอาการตกเลือดหลังคลอด และยังช่วยกระตุ้นน้ำนมระหว่างให้นมบุตร นอกจากนี้ยังช่วยลดกลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่น และลดอาการหวัดคัดจมูกได้ด้วย

    นอกจากนี้ เมล็ดผักชีลาวยังใช้เป็นสารประกอบในยาฆ่าแมลง สามารถขับไล่ตัวอ่อนและขัดขวางการเจริญเติบโตของไข่แมลงได้เป็นอย่างดี
  • ใบและลำต้นผักชีลาว
    มีสารให้กลิ่นหอม นิยมใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอม น่ารับประทาน และสามารถลดความคาวจากอาหารทะเล หรืออาหารประเภทปลาได้

    งานวิจัยหนึ่งของประเทศอิหร่านระบุว่า เมื่อรับประทานน้ำต้มใบผักชีลาวเป็นระยะเวลา 14 วัน สามารถลดระดับไตรกรีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้ประมาณ 20-50%

    จากการวิเคราะห์สารพฤกษเคมีในห้องปฏิบัติการ พบว่าใบและลำต้นผักชีลาวมีแทนนิน (Tannins) เทอร์พีนอยด์ (Terpenoid) อัลคาลอยด์ (Alkaliod) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) สารเหล่านี้มีคุณสมบัติเด่นในการต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งและโรคแผลในกระเพาะอาหาร ลดการละคายเคืองและต้านการอักเสบ

    ยิ่งไปกว่านั้น สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ยังช่วยซ่อมแซมเบต้าเซลล์ (β-cells) ในตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ในการผลิตและหลั่งอินซูลิน ช่วยในการลดระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

ผักชีลาว บรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้จริงหรือ?

ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่มีข้อมูลชัดเจนในการใช้ผักชีลาวรักษากรดไหลย้อนในคน มีเพียงแค่การใช้ในหนูทดลองเท่านั้น ซึ่งพบว่าสามารถช่วยลดการหลั่งกรดได้จริง

ส่วนข้อมูลวิจัยสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคกรดไหลย้อนในคนได้ พบว่ายาแคปซูลลูกยอและขมิ้นชันช่วยได้ สรรพคุณหลักของลูกยอคือ ช่วยยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และทำให้การบีบตัวของทางเดินอาหารและหูรูดหลอดอาหารแข็งแรงขึ้น ป้องกันหลอดอาหารอักเสบ เมื่อรับประทานคู่กับยาขมิ้นชันที่มีสรรพคุณช่วยให้ลดการระเคือง และช่วยเคลือบผิวเยื่อบุทางเดินอาหารแล้ว จะทำให้อาการกรดไหลย้อนดีขึ้นได้

วิธีรับประทานคือ ก่อนอาหาร ให้รับประทานแคปซูลลูกยอครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง และมื้อหลังอาหารให้รับประทานยาแคปซูลขมิ้นชันครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3 ครั้งเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้วิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับโรคกรดไหลย้อน คือการปรับทั้งพฤติกรรมและอาหารจะเห็นผลชัดเจนที่สุด

กินผักชีลาวอย่างไรให้ปลอดภัย?

เพื่อความปลอดภัย ในการบริโภคผักชีลาว ควรคำนึงถึงคำแนะนำต่อไปนี้

  • แนะนำให้รับประทานผักชีลาวควบคู่ในมื้ออาหาร ในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป มีรายงานว่าในบางคนอาจมีอาการแพ้ผักชีลาวจากการรับประทานและการสัมผัส จนเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนัง อาจจะทำให้ผิวหนังไวต่อแสงและทำให้เกิดผื่นแดง
  • หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรรับประทานผักชีฝรั่ง เนื่องจากจะกระตุ้นให้มีประจำเดือน และเป็นสาเหตุที่ทำให้แท้งบุตรได้
  • ผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรืออยู่ระหว่างการควบคุมระดับน้ำตาล ไม่ควรรับประทานผักชีลาวมากเกินไป เพราะผักชนิดนี้มีคุณสมบัติในการลดน้ำตาลในเส้นเลือด อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานผักชีลาวทั้งก่อนและหลังเข้ารับการผ่าตัด 2 สัปดาห์ เพราะผักชนิดนี้มีฤทธิ์กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้เลือดออกมากเกินไป

8 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
ขวัญชนก กลิ่นกลั่น, อรพิน เกิดชูชื่น และ ณัฏฐา เลาหกุลจิตต์, สารหอมระเหยและประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียของโฟมแป้งเคลือบน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพร (http://www.crdc.kmutt.ac.th/Data%202014/CRDC8/data/705-708.pdf), 2557.
Zeng H, Tian J, Zheng Y, Ban X, Zeng J, Mao Y et al, In vitro and In vivo activities of essential oil from the seed of Anethum graveolens L. against Candida spp. (https://www.researchgate.net/publication/51455282_In_Vitro_and_In_Vivo_Activities_of_Essential_Oil_from_the_Seed_of_Anethum_graveolens_L_against_Candida_spp), May 2011.

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)