August 24, 2019 12:18
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
อาการเจ็บหน้าอก (Chest pain) อาจเป็นได้ทั้งสาเหตุที่มาจากหัวใจ และสาเหตุที่ไม่ใช่หัวใจครับ
- สาเหตุที่มาจากหัวใจ (Cardiac cause) จะมีลักษณะการเจ็บที่แน่นเหมือนมีอะไรมาทับ อาจมีอาการเจ็บร้าวไปบริเวณแขนซ้าย/กรามซ้ายได้ มีเหงื่อออก อาจมีอาการใจสั่น หน้ามืดหมดสติได้ครับ อาการที่เป็นจากหัวใจเหล่านี้ถือเป็นภาวะฉุกเฉินครับ ควรรีบมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านในทันที
- สาเหตุที่ไม่ใช่หัวใจ (Non-cardiac cause) มีได้หลายสาเหตุ เช่น โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดแดงใหญ่, โรคกระเพาะ, โรคกรดไหลย้อน, โรคที่เกี่ยวกับปอด, ตับอ่อนอักเสบ, เจ็บบริเวณกล้ามเนื้อบริเวณอก เป็นต้น โรคต่างๆเหล่านี้บางโรคเป็นโรคที่ไม่รุนแรง อาการอาจหายไปได้เอง แต่บางโรคอันตรายไม่แพ้สาเหตุจากโรคหัวใจควรรีบไปโรงพยาบาลครับ
การวินิจฉัยโรคต่างๆที่ได้กล่าวมาข้างต้นต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ ดังนั้นแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าปวดบริเวณหน้าอกหรือซี่โครง สัมพันธ์กับการหายใจ หายใจเข้าเเล้วเจ็บ กดเจ็บ ขยับเเล้วเจ็บ เคยมีประวัติโดนกระเเทก ออกกำลังกายหนัก หรือผิดท่า
จะคิดถึงโรคเช่น กระดูกอ่อนอักเสบ (Costochondritis) กล้ามเนื้ออักเสบ ครับไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
ถ้าสงสัยเป็นเเค่พวกปวดกล้ามเนื้อหรือกระดูกซี่โครงอักเสบให้ลองซื้อยาเเก้อักเสบกลุ่มNSAIDมากินก่อนครับ เช่น Ibuprofen , Celecoxib(Cerebrex) ,Etoricoxib(Arcoxia)
ร่วมกับพยายามงดกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ(ระวังเรื่องเเพ้ยา เเละไม่ควรกินติดต่อกันนานๆครับ เพราะส่งผลต่อไตหรืออาจมีแผลในกระเพาะอาหารได้)
ถ้าเจ็บที่เต้านม มีบวมเเดง อาจเป็นผิวหนังอักเสบหรือฝีในเต้านมก็ได้ครับ
....
หรือ อาจเป็นภาวะลมรั่วในเยื่อหุ้มปอด(Pneumothorax)ได้ครับ กรณีที่เป็นน้อยๆจะปวดได้ สัมพันธ์กับการหายใจ เเต่ถ้าเป็นมากจะมีอาการหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม ร่วมด้วยพวกนี้ควรพบเเพทย์ครับ
....
ถ้าจุกเเน่นกลางอก มีเรอเปรี้ยวเเสบหน้าอก คลื่นไส้ สัมพันธ์กับการกินอาหาร กินเเล้วนอนทันทีจะเป็นมาก มีประวัติ กินชากาเเฟ สูบบุหรี่บ่อยๆ น่าจะเป็นกรดไหลย้อนครับ
.....
ส่วนถ้าพวกโรคหัวใจขาดเลือดมักจะปวดเหมือนอะไรมาทับกลางอก หรือปวดใน้ลิ้นปี่ได้ มีร้าวไปเเขนหรือกราม มีเหงื่อเเตกได้ บางคนออกเเรงพอหัวใจเริ่มทำงานหนักขึ้นจะปวด เพราะเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ บางคนถ้าเส้นเลือดตีบมาก อยู่เฉยๆก็ปวดครับ ส่วนใหญ่เกิดในคนอายุเยอะๆหน่อยครับประมาณ 40 ปีขึ้นไป มักมีโรคร่วมเช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงครับ กรณีนี้ควรพบเเพทย์ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจครับ(EKg)
.....
เเนะนำว่าถ้าปวดมากขึ้น พักหรือกินยาเเล้วไม่หาย มีเหนื่อยหายใจหอบ มีเเน่นหน้าอกให้รีบไปพบเเพทย์ครับ
.....
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
อาการเจ็บหน้าอก สามารถเป็นได้หลายอย่างครับ
ตั้งแต่ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จะเจ็บหน้าอกแปล๊บๆ จี๊ดๆเหมือนของมีคมแทง เป็นมากขึ้นเมื่อหายใจเข้าออก และนอนราบ จะดีขึ้นเมื่อนั่งเอนตัวมาข้างหน้า, โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน มักจะเจ็บแน่นๆหน้าอก เหมือนถูกบีบรัด บางครั้งมีเหงื่อแตกใจสั่น ร้าวไปกรามหรือไหล่, โรคลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือดปอดเฉียบพลัน มักจะเหนื่อยขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจมีความดันโลหิตต่ำ ออกซิเจนต่ำทำให้เขียวในบางครั้ง มักมีประวัติหลอดเลือดดำอุดตันที่ขา เช่น นอน/นั่งอยู่กับที่นานๆ ประวัติโรคเลือดผิดปกติ, โรคกรดไหลย้อน อาจจะมีเรอเปรี้ยว จุกแน่นลิ้นปี่ ร่วมด้วย, โรคปอดแตก จนกระทั่งโรคกล้ามเนื้อหรือกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ จากอุบัติเหตุ/ออกกำลังกาย หรือทำงานหนักๆ มักจะเจ็บตอนขยับตัว หรือกดบริเวณดังกล่าว ดังนั้นเวลาหายใจเข้าออก มีการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อทรวงอก ทำให้เจ็บมากขึ้น เป็นต้นครับ
แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกาย จะดีที่สุดครับ เพราะแต่ละสาเหตุรักษาต่างกันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
สาเหตุของอาการเจ็บหน้าอกนั้นเกิดได้จากหลายอย่างครับ เช่น
- การอักเสบของกล้ามเนื้อหรือกระดูกซี่โครง จะทำมีอาการเจ็บหน้าอกในระดับตื้นๆ มีจุดกดเจ็บที่ชัดเจน และอาการเจ็บมักสัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทางบางท่า
- กรดไหลย้อน จะทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอก จุกแน่นคอ เรอบ่อย เรอเหม็นเปรี้ยว โดยอาการมักเป็นมากขึ้นหลังรับประทานอาหารมันๆหรือรับประทานอาหารอิ่มใหม่ และจะเป็นมากในตอนนอนมากกว่าตอนนั่งหรือยืน
- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกในลักษณะเจ็บแน่นเหมือนมีอะไรมากดมาเหยียบ อาจเจ็บเสียวร้าวไปที่ไหล่ซ้ายหรือคอด้านซ้ายได้
- ปอดอักเสบ จะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกโดยที่สัมพันธ์กับการหายใจเช้าลึกๆ ร่วมกับมีอาการไอ มีเสมหะ หอบเหนื่อย มีไข้
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
ไม่ทราบว่านอกจากอาการเจ็บหน้าอกจี๊ดๆ เจ็บครั้งนึงนานกี่นาทีคะ รุนแรงหรือไม่ แล้วมีอาการอื่นๆหรือไม่คะ เช่น เจ็บแบบแน่น เจ็บแบบปวดร้าวไปที่อื่น มีหอบเหนื่อย มีเหงื่อออก ใจสั่น อ่อนเพลีย หน้ามืด คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น สำหรับอาการเจ็บหน้าอกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-โรคหัวใจ มักมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเหมือนถูกกดทับ เจ็บร้าวไปที่อื่น หรือเจ็บแปล๊บเหมือนมีดแทง มีอาการเหนื่อย เหงื่อออก ใจสั่น คลื่นไส้ อ่อนแรง เวียนศีรษะ ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
สำหรับโรคหัวใจที่ทำให้เจ็บหน้าอก เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน(Myocardial Infarction), เลือดเซาะผนังหลอดเลือดแดงใหญ่(Aortic Dissection), กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลัน (Myocarditis), โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) เป็นต้น
-กล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกอักเสบหรือกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ (Myositis/Costochondritis) จะมีอาการเจ็บจี๊ดๆแถวหน้าอกเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง มีจุดกดชัดเจน อาจเจ็บเวลาที่ขยับตัวหรือเปลี่ยนท่าบางท่า มักเกิดจากการใช้งานหนัก เช่น ออกกำลังกาย ยกของหนัก หรือจากการบาดเจ็บ
-โรคกรดไหลย้อน(GERD) มีอาการแสบร้อนกลางหน้าอก จุกแน่นลิ้นปี่ เรอเปรี้ยวหรือขมคอ บางรายอาจมีอาการไอแห้งๆได้ มักเป็นมากหลังกินอาหารมื้อหนัก นอกจากนี้อาจคิดถึงโรคทางระบบอาหารอื่นๆ เช่น โรคกระเพาะ (Peptic Ulcers), ภาวะหลอดอาหารทะลุ (Esophageal Perforation), โรคของถุงน้ำดี (Gallbladder disease), ตับอ่อนอักเสบ (Pancreatitis), โรคไส้เลื่อนกะบังลม (Hiatal Hernia) เป็นต้น
-โรคเกี่ยวกับปอด เช่น โรคลิ่มเลือดอุดกั้นปอด (Pulmonary Embolism) มีอาการเจ็บแปล๊บกลางอก หัวใจเต้นเร็ว ไอเป็นเลือด, ภาวะความดันหลอดเลือดปอดสูง (Pulmonary Hypertension) เจ็บแน่นหน้าอกเหมือนโดนทับ, เยื่อหุ้มปอดอักเสบ (Pleuritis) เจ็บแปล๊บเหมือนถูกแทง เป็นมากเวลาหายใจเข้า ไอ จาม, โพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ (Pneumothorax) เจ็บแปล๊บมากขึ้นเมื่อหายใจเข้า
-จากสาเหตุอื่นๆ เช่น จากความเครียด ความกังวล จะสัมพันธ์กับอารมณ์ ตรวจร่างกายแล้วอย่างอื่นปกติ
ถ้าอาการเจ็บจี๊ดๆแถวหน้าอก ถ้าเจ็บเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง มีจุดกดชัดเจน อาจเจ็บเวลาที่ขยับตัวมากๆ ถ้าเจ็บไม่ค้างนาน ไม่มีอาการอื่นๆร่วมด้วย ส่วนมากจะเป็นเพียงการเจ็บแน่นหน้าอกจากกล้ามเนื้อบริเวณหน้าอกอักเสบหรือกระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ อาการเจ็บแบบนี้ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายค่ะ รักษาโดยทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ยากลุ่ม NSAIDs เช่น Ibuprofen Diclofenac และประคบอุ่นร่วมด้วย ยืดกล้ามเนื้อ และงดการใช้งานหนักหรือออกกำลังกายที่รุนแรงค่ะ อาการมักดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ
แต่ถ้ามีเจ็บแน่นหน้าอกแบบเหมือนมีอะไรมากดทับ แน่นหน้าอกนาน แล้วปวดร้าวไปที่อื่น มีเหงื่อออก ใจสั่น อ่อนเพลีย หน้ามืด คลื่นไส้อาเจียน กรณีนี้ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีค่ะหนูมีอาการปวดจี้ดๆที่อกข้างซ้ายบ่อยๆค่ะไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)