จุดเริ่มต้นของตลาด Smart Clothes

เผยแพร่ครั้งแรก 15 ม.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
จุดเริ่มต้นของตลาด Smart Clothes

ในปี 1984 Adidas แนะนำให้โลกได้รู้จัก Micropacer ซึ่งเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่มีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ซึ่งในช่วงทศวรรษ 1980 เทคโนโลยี Wearable (อุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ขนาดเล็กที่สวมใส่ได้ เช่น smartwatch และ wristband) ถือเป็นข่าวใหญ่เลยทีเดียว ย้อนกลับไปในสมัยนั้น คอมพิวเตอร์ส่วนตัวเพิ่งจะเริ่มวางขายเองด้วยซ้ำ ดังนั้น การที่รองเท้าวิ่งจะมีเทคโนโลยีที่ว่าก็จัดเป็นเรื่องมหัศจรรย์เลยทีเดียว หลังจากนั้นมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปมาก เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้เกิดการก้าวกระโดดอย่างใหญ่หลวงจนแทบจะจินตนาการไม่ได้ และ smart clothes ก็กำลังมาแรงทีเดียว

ทุกวันนี้ เราพบเทคโนโลยี wearable ได้ทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม การใช้เทคโนโลยีผสมผสานเข้ากับเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวันก็ยังไม่ใช่เรื่องที่พบได้เป็นปกตินัก การที่มีเซ็นเซอร์ดิจิตอลตรวจวัดสุขภาพอยู่ในเสื้อผ้านั้น ถูกอ้างว่ามีประโยชน์หลายอย่าง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันคือการที่เซ็นเซอร์อยู่ใกล้ผิวหนังมากขึ้น ทำให้วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำกว่าการวัดจากสายรัดข้อมือ อีกความเชื่อหนึ่งคือจะมีการใช้เทคโนโยลีดิจิตอลทางสุขภาพกันมากกว่านี้หากมันไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์เสริม แต่เป็นคุณลักษณะหนึ่งของสิ่งที่ต้องซื้อใช้เป็นประจำอยู่แล้ว

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

Smart clothes เพื่อการฝึกซ้อมที่ดีกว่า

Athos ซึ่งเป็นหนึ่งใน Smart clothes รุ่นแรก ๆ ทำให้คุณเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในร่างกายของคุณขณะที่คุณกำลังฝึกซ้อม โดย Athos จะวัดปฏิกิริยาทางไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อของผู้ใช้งานในขณะนั้นจากเซ็นเซอร์ที่มีอยู่มากมาย และส่งต่อข้อมูลไปยังแอพลิเคชั่น ซึ่งจะมีการตอบกลับทันที การใช้การตรวจคลื่นไฟฟ้าของกล้ามเนื้อ (Electromyography-EMG) ของเทคโนโลยี Wearable ที่สุดจะแหวกแนวนี้ทำให้สามารถตรวจได้ว่ากล้ามเนื้อมัดหนึ่ง ๆ ต้องทำงานมากแค่ไหนในการออกกำลังกาย

เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแค่ทำให้ผู้ใช้รู้ว่ากล้ามเนื้อมัดใดที่กำลังถูกกระตุ้นอยู่ แต่ยังบอกผู้ใช้ได้ด้วยว่าพวกเขาออกกำลังกายได้ถึงเป้าหมายหรือยัง ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานยังรู้ได้ด้วยว่าพวกเขาใช้กล้ามเนื้อมัดที่เหมาะสมหรือไม่ และจะระมัดระวังมากขึ้น การตอบกลับยังกระตุ้นให้ผู้ใช้พัฒนาตัวเอง และพยายามมากขึ้นเพื่อให้มีการพัฒนาไปได้มากที่สุดด้วย

นอกเหนือไปจากการติดตามการทำงานของกล้ามเนื้อแล้ว Athos ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจอีกด้วย ดังนั้นข้อมูลที่ได้ระหว่างการออกกำลังกายจึงครอบคลุมมาก

ในขณะนี้ เทคโนโลยี smart clothes ยังราคาสูงเกินจะใช้กันได้แพร่หลาย จึงมีแต่พวกนักกีฬาอาชีพและพวกที่โหมออกกำลังช่วงสุดสัปดาห์ที่กระเป๋าหนักเท่านั้นที่ใช้เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ คือคาดว่าราคาของ smart clothes จะลดลง ซึ่งน่าจะทำให้มีการซื้อมากขึ้น นอกจากนี้ทางผู้ผลิตยังใส่ใจเรื่องความสวยงามและการใช้งานจริงอีกด้วย เช่นทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายโดยไม่ทำลายเทคโนโลยีของเสื้อผ้า

เมื่อแฟชั่นมาบรรจบกับเทคโนโลยี

แบรนด์แฟชั่นใหญ่ ๆ ก็ยังเริ่มผสมผสานเทคโนโลยีที่ว่าเข้ากับเสื้อผ้าของตัวเอง ตัวอย่างเช่น Ralph Lauren ที่กำลังทำ Ralph Lauren polo tech shirt ซึ่งเสื้อเชิ้ตสุดเนี้ยบนี้ สามารถวัดข้อมูลทางชีวภาพได้ เช่น การหายใจ ชีพจร ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไป และจำนวนก้าวเดิน และยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับความจำเป็นในการปรับการออกกำลังกายของคุณด้วย เสื้อนี้ยังมีเซ็นเซอร์ชีวภาพจากเส้นใยของเงินทออยู่ในเนื้อผ้า ซึ่งทำงานกับ iphone หรือ ipod ได้ด้วย

เสื้อเชิ้ตขั้นเทพนี้ยังอ้างว่าเส้นใยของมันมีคุณสมบัติในการช่วยการไหลเวียนโลหิต และการฟื้นฟูกล้ามเนื้ออีกด้วย

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

Smart clothes ในแง่อื่น ๆ นอกเหนือไปจากการประยุกต์ใช้เรื่องสมรรถภาพทางกาย

ค่านิยมเรื่องเสื้อผ้าที่ทำให้สุขภาพดีขึ้นกำลังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่นเสื้อชั้นใน smart bra ชนิดต่าง ๆ ที่ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิตัลทางด้านสุขภาพกับเสื้อผ้าเข้าด้วยกัน ซึ่งความแตกต่างที่ว่านี้รวมความตั้งแต่ความแตกต่างของเสื้อไปจนถึงการออกแบบที่ต่างกัน ตั้งแต่การทำหน้าที่เป็นแค่เซ็นเซอร์ตรวจจับแรงกดจนถึงขนาดที่ว่าอาจจะวินิจฉัยอาการเจ็บป่วยได้เลยทีเดียว เช่น smart bra ของ Microsoft ที่มีทั้งเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiogram) และเซ็นเซอร์ตรวจจับปฏิกิริยาทางไฟฟ้าที่ผิวหนัง (electrodermal activity sensor) ซึ่งจากการใช้ทั้งสองเซ็นเซอร์ที่ว่า ก็ทำให้เสื้อชั้นในตัวนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเครียดของผู้ใช้ได้ หลังจากที่สัญญาณถูกส่งไปยังแอพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกันอยู่ เสื้อชั้นในตัวนี้ถูกนำเข้าสู่ท้องตลาดในฐานะของเครื่องมือป้องกันการกินมากเกินไปจากภาวะทางอารมณ์ (แอพลิเคชั่นนี้โน้มน้าวให้คนหยุดกินเมื่อเครียดเกินไป)

นอกจากนี้ยังมีความทุ่มเทในการพัฒนาเสื้อชั้นในสำหรับการตรวจหามะเร็งเต้านมด้วย โดยเซ็นเซอร์อุณหภูมิที่ติดไว้ในเสื้อชั้นในอาจมีศักยภาพที่จะตรวจหามะเร็งได้ดีกว่าการตรวจแมมโมแกรม และอาจใช้เป็นเครื่องมือตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่เชื่อถือได้ด้วย

iTBra ใช้เทคโนโลยีที่ทำให้ตรวจหามะเร็งเต้านมได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และมีการแสดงให้เห็นว่าตรงกับการวินิจฉัยที่ตรวจสอบแล้วถึง 87% iTBra นั้นเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และไม่ได้ใช้รังสีในการระบุการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเซลล์เต้านมในแต่ละวัน ในเมื่อการตรวจพบมะเร็งให้ได้รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญของความสำเร็จการรักษา เสื้อชั้นในนี้ก็อาจเป็นตัวบุกเบิกหนทางสำหรับเสื้อผ้าอื่น ๆ ให้สามารถช่วยชีวิตคนได้ในอนาคต


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
The Future of Condition-Specific Smart Clothing. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/the-future-of-condition-specific-smart-clothing-4125706)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)