ใครคือกลุ่มเสี่ยงของการเป็นมะเร็งหลอดอาหาร? จะสามารถสังเกตอาการของโรคนี้ได้อย่างไร?
มะเร็งหลอดอาหารสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลัก คือ Squamous cell esophageal cancer และ Esophageal adenocarcinoma
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
Squamous cell esophageal cancer เป็นมะเร็งที่เกิดกับหลอดอาหารชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเกิดกับเซลล์เยื่อบุภายในหลอดอาหาร
ส่วน Esophageal adenocarcinoma จะเกิดจากเนื้อเยื่อที่พบบริเวณล่างสุดของหลอดอาหารใกล้กับกระเพาะ
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร
มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหาร ผู้ที่มีความเสี่ยงจึงควรเฝ้าระวังและสังเกตุอาการแสดงของโรค เพราะหากตรวจพบได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ จะมีผลต่อการรักษาอย่างมาก และทำให้อัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร ประกอบด้วย
- โรคกรดไหลย้อน: หากคุณเป็น Barrett’s esophagus หรือโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง จะมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลอดอาหารมากขึ้น
- ดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่: การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร
- เพศและอายุ: ผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง และผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป จะเริ่มมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารมากขึ้น
- อาหารและเครื่องดื่มที่รับประทาน: หากคุณมีภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินหรือรับประทานผักและผลไม้น้อย จะทำให้ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้น ผู้ที่ดื่มน้ำร้อนๆ จะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งหลอดอาหารบางชนิดได้ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้
- สิ่งแวดล้อม : ผู้ที่ถูกสารเคมีหรือสารพิษบางชนิด เช่น การรักษาด้วยการฉายรังสี ฝุ่นซิลิกา และน้ำยาซักแห้งอาจมีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้น
อาการของมะเร็งหลอดอาหาร
ผู้ป่วยหลายรายจะไม่แสดงอาการที่ชัดเจนของจนกระทั่งโรคได้มีการลุกลามไปแล้ว ตัวอย่างอาการที่พึงระวัง ประกอบด้วย
- ปัญหาการกินอาหารและการกลืน: จะมีการกลืนอาหารได้ลำบากขึ้น โดยเฉพาะในขนมปังและเนื้อสัตว์ เมื่อมะเร็งมีการลุกลามมากขึ้นจะทำให้สามารถรับประทานอาหารที่เป็นน้ำได้ลำบากขึ้นด้วย เนื่องจากจะมีอาการติดคอและอาจไหลย้อนกลับมาได้ อาจมีอาการแสบร้อนกลางหน้าอกได้ ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหารเพื่อให้สามารถปรับตัวกับภาวะกลืนลำบากที่เกิดขึ้น โดยการเลือกรับประทานอาหารอ่อน และอาหารที่กลืนง่าย และเคี้ยวอย่างระมัดระวัง
- น้ำหนักลด: เนื่องจากมีอาการกลืนลำบากหรือกลืนแล้วเจ็บจากโรคมะเร็งหลอดอาหาร ทำให้สามารถรับประทานอาหารได้น้อยลง หรือไม่ได้รับพลังงานมากเพียงพอต่อความต้องการ
- เสียงแหบ: เป็นอาหารที่มักพบได้บ่อยในโรคมะเร็งหลอดอาหารที่มีการลุกลาม อาจเกิดตามมาหลังจากการสะอึกบ่อยๆ หรืออาเจียนเป็นเลือด
- เจ็บคอ: อาจรู้สึกเจ็บข้างในคอเมื่อมีการกลืนหรือเจ็บที่หน้าอกหรือบริเวณไหล่
การคาดเดาผลกระทบของโรคของมะเร็งหลอดอาหาร
เนื่องจากโรคนี้มักไม่แสดงอาการจนกระทั่งมีการลุกลามและแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นนอกจากหลอดอาหาร ทำให้รู้ได้ยากว่าผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารนี้อยู่ อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกๆ ก่อนที่จะมีการแพร่กระจายจะมีอัตราการรอดชีวิตค่อนข้างดี โดย 80-90% ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ที่ 5 ปีหลังจากการรักษา
มะเร็งหลอดอาหารไม่ใช่มะเร็งที่พบได้บ่อย ในประเทศสหรัฐอเมริกามีผู้ป่วยใหม่ประมาณ 12,000-18,000 คนต่อปี
หากมีคุณมีโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง (Barrett’s esophagus) ควรเข้ารับการตรวจติดตามอย่างสม่ำเสมอ การป้องกันและการตรวจคัดกรองโรคถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับโรคนี้
นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีคุณค่า และดูแลสุขภาพ จะทำให้ร่างกายคุณแข็งแรงและช่วยป้องกันมะเร็งได้ทุกชนิด
กดไหลย้อนเกิดจากสาเหตุอะไร