ภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ คือภาวะที่กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงน้อยลง เนื่องจากขาดกิจกรรมทางร่างกายซึ่งเกิดจากการบาดเจ็บหรือโรคภัยบางชนิดที่ทำให้การเคลื่อนไหวแขนหรือขาเป็นไปได้ยาก อาการของภาวะกล้ามเนื้อฝ่อที่พบมากที่สุด คือแขนหรือขามีขนาดเล็กกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัดเจน
สาเหตุการเกิดภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ
ภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ มักเป็นผลมากจากกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งานนานจนเสื่อมสภาพลง เช่น ผู้ประสบอุบัติเหตุแล้วต้องใส่เฝือก ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถขยับร่างกายได้ รวมถึงนักบินอวกาศที่ต้องใช้ชีวิตในสภาพไร้น้ำหนัก แต่ไม่ว่าภาวะนี้จะเกิดขึ้นนานเพียงใด แต่ถ้าผู้ป่วยได้กลับไปออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ กล้ามเนื้อก็สามารถกลับมาแข็งแรงเช่นเดิมได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ ได้แก่
- ภาวะทางการแพทย์บางชนิดที่ทำให้กล้ามเนื้อเสื่อมสภาพ หรือทำให้เคลื่อนไหวร่างกายลำบาก เช่น
- Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS) ภาวะที่มีผลต่อเซลล์ประสาทควบคุมการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อที่อยู่ภายใต้จิตใจ
- โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ (Dermatomyositis) ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและมีผื่นขึ้นตามผิวหนัง
- โรคกิลเลน-บาร์เร่ (Guillain-Barré Syndrome) เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่ทำให้เส้นประสาทอักเสบและกล้ามเนื้ออ่อนแรง
- โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองที่ร่างกายทำลายชั้นปกคลุมเส้นประสาท
- โรคกล้ามเนื้อเสื่อม (Muscular Dystrophy) เป็นโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- โรคประสาทอักเสบ (Neuropathy) ทำให้ความรู้สึกหรือการทำงานส่วนนั้นๆ หายไป
- โรคข้ออักเสบ (Osteoarthritis) ทำให้การเคลื่อนไหวในข้อต่อลดลง
- โปลิโอ (Polio) การติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เนื้อเยื่อเป็นอัมพาต
- โรคกล้ามเนื้ออักเสบ (Polymyositis)
- โรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) โรคอักเสบเรื้อรังที่เกิดกับข้อต่อ
- โรคกล้ามเนื้อฝ่อจากสันหลัง (Spinal Muscular Atrophy) โรคสืบทอดที่ทำให้กล้ามเนื้อแขนและขาเสื่อมสภาพลง
- อายุที่มากขึ้น
- มีอาการกล้ามเนื้อผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ (Alcohol-associated Myopathy) หรืออาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากการดื่มสุราปริมาณมากๆ เป็นเวลานาน
- แผลไหม้
- ภาวะทุพโภชนาการ (Malnutrition)
- การบาดเจ็บที่ปลายเส้นประสาทหรือไขสันหลัง
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- การบำบัดด้วยยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เป็นเวลานาน
การวินิจฉัยภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ
แพทย์จะวินิจฉัยภาวะกล้ามเนื้อฝ่อด้วยการสอบถามประวัติสุขภาพ และอาจจะจัดให้มีการทดสอบต่างๆ ประกอบการวินิจฉัยและกำจัดความเป็นไปได้ที่จะเป็นโรคอื่นๆ ออกไป ดังนี้
- การตรวจเลือด
- การเอกซเรย์
- การสแกนคลื่นสะท้อนแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging (MRI))
- การสแกนคอมพิวเตอร์ (Computed Tomography (CT) Scan)
- การตรวจกล้ามเนื้อและประสาทด้วยไฟฟ้า (Nerve Conduction Studies)
- การเจาะตรวจชิ้นเนื้อ (Biopsy) ประสาทหรือกล้ามเนื้อ
- การวัดคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (Electromyography (EMG))
การรักษาภาวะกล้ามเนื้อฝ่อ
การรักษาภาวะกล้ามเนื้อฝ่อจะขึ้นอยู่กับผลการวินิจฉัยและความรุนแรงของภาวะสูญเสียกล้ามเนื้อของผู้ป่วย โดยการรักษาส่วนมาก คือการออกกำลังกายในน้ำที่ช่วยให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวได้มากขึ้น โดยจะมีนักกายภาพบำบัดเป็นผู้ฝึกสอนการออกกำลังกายที่ถูกต้องให้ รวมถึงช่วยขยับแขนขา ในกรณีที่ไม่สามารถขยับได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในระหว่างนี้อาจมีนักโภชนาการมาช่วยดูแลเรื่องการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วย
แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ก็อาจต้องรักษาด้วยการบำบัดอัลตราซาวด์ ด้วยการใช้คลื่นเสียงช่วยในการรักษา ส่วนการผ่าตัดจะเกิดขึ้นในกรณีที่เส้นเอ็น เอ็นยึด ผิวหนัง หรือกล้ามเนื้อมีการรัดตัวแน่นเกินจนทำให้เคลื่อนไหวส่วนนั้น ๆ ไม่ได้เลย
ทำไม่ ต้องอ้วนลงพุ่งค่ะ