ประโยชน์ของผักกูด ไอเดียการกินการใช้ผักกูดเพื่อสุขภาพ และข้อควรระวัง

เผยแพร่ครั้งแรก 27 พ.ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
ประโยชน์ของผักกูด ไอเดียการกินการใช้ผักกูดเพื่อสุขภาพ และข้อควรระวัง

ผักกูดเป็นผักพื้นบ้านชนิดหนึ่งของไทย มักขึ้นอยู่ตามริมรั้ว เจริญเติบโตได้ง่าย และอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย โดยในอดีตได้มีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งผักกูดมีประโยชน์อย่างไรบ้าง และมีไอเดียในการนำมากินการใช้อย่างไร เราก็ได้รวบรวมข้อมูลมาให้ได้ศึกษาและทำความเข้าใจกันดังนี้

รู้จักผักกูด

ผักกูด (Paco fern) เป็นพืชที่อยู่ในตระกูลของเฟิร์น ลักษณะขอบใบเป็นเกล็ดหยักเป็นซี่ มักขึ้นอยู่ตามริมทาง ริมลำน้ำ โดยผักกูดมีหลายชนิด สามารถนำมารับประทานได้ แต่จะมีรสชาติที่แตกต่างกันไป โดยบางชนิดอาจจะมีรสขมจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก สำหรับส่วนของผักกูดที่นิยมนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด ก็คือ ใบนั่นเอง

คุณค่าทางโภชนาการ

ผักกูด 100 กรัม ประกอบไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

พลังงาน 19 กิโลแคลอรี โปรตีน 4.09 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3.67 กรัม วิตามินอี 0.99 กรัม แคลเซียม 18.79 กรัม ฟอสฟอรัส 72.72 กรัม ธาตุเหล็ก 0.82 กรัม โซเดียม 10.90 กรัม โพแทสเซียม 507.70 กรัม วิตามินบี 2 0.07 มิลลิกรัม และแอนติออกซิแดนท์ 211.92 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของผักกูด

ผักกูดเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินมากมาย จึงมีสรรพคุณทางยาและมีประโยชน์อย่างหลากหลาย โดยประโยชน์ของผักกูดก็มีดังนี้

1.ช่วยบำรุงเลือด

ในผักกูดมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือด จึงช่วยในการบำรุงเลือดได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคนที่มีปัญหาเลือดจาง คนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด และคุณแม่หลังคลอดเป็นที่สุด นอกจากนี้ธาตุเหล็กยังช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแร่ธาตุชนิดอื่นได้ดีขึ้นอีกด้วย

2.ลดคอเลสเตอรอล

ผักกูดมีสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ลดความเสี่ยงจากโรคร้าย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ดังนั้น คนที่ทานผักกูดเป็นประจำจึงสามารถป้องกันภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูงได้เป็นอย่างดี

3.ป้องกันอาการอ่อนเพลีย

ผักกูดมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด ที่จะช่วยให้ร่างกายเกิดความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และคลายความเหนื่อยล้า ปวดเมื่อย อ่อนเพลียได้อย่างดีเยี่ยม ในคนที่ต้องทำงานหนักเป็นประจำจนมีเวลาพักผ่อนน้อย จึงควรทานผักกูดมากที่สุด

4.เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

เพียงทานผักกูดเป็นประจำ ก็จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีความแข็งแรงมากขึ้นได้ นั่นก็เพราะในผักกูดมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ โดยเมื่อภูมิคุ้มกันสูงขึ้น ก็จะช่วยลดความเสี่ยงการป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้เช่นกัน

5.บำรุงผิวพรรณ

ผักกูดมีสารเบต้าแคโรทีนและวิตามินที่จำเป็นต่อการบำรุงผิวเป็นจำนวนมาก จึงช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สดใส ดูอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพผิวที่ดีอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นใครที่อยากมีผิวสวยก็ต้องทานผักกูดกันเป็นประจำ

6.บำรุงสายตา

เนื่องจากผักกูดอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนสูงมาก จึงสามารถบำรุงสายตาและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับดวงตาได้เป็นอย่างดี โดยสารเบต้าแคโรทีนจะถูกนำไปย่อยสลายที่ตับ กลายเป็นวิตามินเอ แล้วถูกส่งมาบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคต้อกระจก ป้องกันความเสื่อมของดวงตา และลดอาการเหนื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานหนักได้ดี

7.คลายร้อน แก้ร้อนใน

ผักกูดมีส่วนช่วยคลายร้อน แก้ร้อนใน และลดอุณหภูมิในร่างกายได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับการนำมาทานในช่วงที่อากาศร้อนจัดเป็นที่สุด หรือหากมีอาการร้อนใน การทานผักกูดก็จะช่วยบรรเทาและรักษาให้หายเป็นปกติได้เหมือนกัน

8.บำรุงกระดูก

ผักกูดเป็นแหล่งของเส้นใยอาหาร และมีแคลเซียมสูง จึงช่วยในการบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี สามารถรับประทานแทนการดื่มนมเพื่อเสริมแคลเซียมให้กับร่างกายได้

9.ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น

แค่ทานผักกูดเป็นประจำก็จะช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น นั่นก็เพราะผักกูดมีเส้นใยอาหารสูงมาก จึงมีคุณสมบัติเป็นยาระบาย ทำให้ขับถ่ายง่าย ถ่ายคล่อง ป้องกันอาการท้องผูกได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับคนที่มีอาการท้องผูกบ่อยเป็นที่สุด

10.ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน

การทานผักกูดจะช่วยป้องกันปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้ พร้อมกับช่วยบำรุงฟันและเหงือกให้แข็งแรง จึงไม่เกิดปัญหาเหงือกอักเสบและไม่ทำให้เลือดออกตามไรฟันนั่นเอง ดังนั้นมาทานผักกูดให้มากขึ้นกันเถอะ

11.ลดความดันโลหิต

สำหรับคนที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง การทานผักกูดก็จะช่วยแก้ปัญหาได้เหมือนกัน เพราะผักกูดมีสรรพคุณในการลดระดับของความดันโลหิตให้ต่ำลง และช่วยควบคุมความดันให้เป็นปกติไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป

ไอเดียการใช้ผักกูดเพื่อสุขภาพ

นอกจากประโยชน์ที่มากล้นของผักกูดแล้ว ก็มีไอเดียในการนำผักกูดมาใช้เพื่อสุขภาพได้หลายวิธีอีกด้วย ซึ่งเราก็ได้รวบรวมไอเดียการใช้ผักกูดมาแนะนำกันดังนี้

1.ใช้ห้ามเลือด

เมื่อเป็นแผล มีเลือดออก สามารถนำใบผักกูดมาใช้ห้ามเลือดได้ โดยให้นำใบผักกูดมายีหรือตำพอแหลก แล้วนำมาโปะตรงที่เลือดออกไว้สักพัก ก็จะทำให้เลือดหลุดไหลเร็วขึ้น และยังช่วยป้องกันการติดเชื้อโรคที่บาดแผลได้อีกด้วย

2.ลดไข้ ตัวร้อน

ในคนที่มีอาการไข้ตัวร้อน ให้นำใบผักกูดมาต้มในน้ำ แล้วนำมาดื่ม จะช่วยลดไข้ แก้ตัวร้อนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้หายป่วยจากอาหารไข้หวัดเร็วขึ้น

3.แก้ผื่นคัน

การนำผักกูดทั้งต้นมาแช่ในน้ำประมาณ 30 นาที แล้วนำน้ำมาอาบจะช่วยแก้อาการผื่นคันได้ โดยอาบบ่อยๆ จะทำให้ผื่นคันค่อยๆ ยุบลงและหายเป็นปกติในที่สุด

4.รักษาโรคริดสีดวงทวาร

ผักกูดสามารถนำมาใช้เพื่อรักษาโรคริดสีดวงทวารได้ โดยให้นำหัวผักกูด รากถั่วพู เปลือกมะเดื่ออุทุมพร เมล็ดมะกอก และรากกระทุงหมาบ้า มาฝนให้ละเอียดเป็นผง จากนั้นนำมาชงกับน้ำซาวข้าว ดื่มเป็นประจำครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลาหลังมื้ออาหาร

5.ขับปัสสาวะ

ผักกูดมีสรรพคุณในการช่วยขับปัสสาวะ พร้อมขับสารพิษและสิ่งตกค้างในร่างกายออกมาพร้อมกับปัสสาวะด้วย โดยให้นำใบผักกูดมาต้มกับน้ำสะอาด แล้วนำน้ำที่ได้มาดื่มวันละครั้ง จะทำให้ปัสสาวะถูกขับออกมาได้ดี

ไอเดียการกินผักกูดเพื่อสุขภาพ

ผักกูดเป็นผักพื้นบ้าน ที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง นิยมนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู เราลองมาดูวิธีการปรุงอาหารจากผักกูดง่ายๆ กันเลย

1.ยำผักกูด

เมนูยำๆ ที่มากไปด้วยประโยชน์ โดยวิธีการทำ ให้นำผักกูดไปลวก ตักขึ้นมาแช่น้ำเย็นเอาไว้ นำกุ้งไปลวก จนเริ่มสุก ตักขึ้นมา นำหมูสับลงไปลวกต่อ เมื่อสุกแล้วให้ตักขึ้น ขั้นตอนการทำน้ำยำ ใส่พริกขี้หนูกับกระเทียมลงไปตำให้ละเอียด ตักใส่ถ้วย ใส่น้ำมะนาว น้ำปลา น้ำตาลทราย ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน เอาน้ำยำเทราดลงบนกุ้งและผักกูด พร้อมยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย

2.แกงส้มผักกูด

เมนูง่ายๆ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ โดยวิธีทำ ให้ตำพริกขี้หนู กระเทียม ใส่กะปิ ใส่เกลือลงไป ตำจนทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นเด็ดผักกูดเอาแต่เฉพาะส่วนยอด นำปลาแดดเดียวลงไปทอดจนเหลือง นำน้ำใส่หม้อไปตั้งไฟจนเดือด ใส่เครื่องแกงที่ตำเสร็จแล้วลงไป รอจนเดือดอีกครั้งก็ใส่ใบมะกรูด คนให้เข้ากัน ใส่ผักกูดลงไป คนสักครู่ ใส่เนื้อปลาทอด ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยยกขึ้นเสิร์ฟทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ได้ทันที

3.ผัดผักกูดน้ำมันหอย

อีกหนึ่งเมนูผักกูดที่อยากแนะนำ เพราะทำง่ายแถมดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยวิธีการทำ ให้หั่นผักกูดเตรียมไว้ หั่นกระเทียม ตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไป เมื่อกระทะร้อน ใส่กระเทียมลงไปผัดจนหอม ใส่ผักกูดลงไป ปรุงรสด้วย น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำปลา ตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ซึ่งก็เป็นเมนูที่ทำง่ายมาก

4.ไข่เจียวผักกูด

เปลี่ยนไข่เจียวธรรมดาให้กลายเป็นไข่เจียวเพื่อสุขภาพด้วยการใส่ผักกูดลงไป โดยวิธีทำ ให้นำผักกูดมาเด็ดเอาเฉพาะยอดอ่อน นำน้ำใส่หม้อตั้งจนเดือด แล้วลวกผักกูดตักขึ้นมาพักไว้ จากนั้นตอกไข่ ใส่ยอดผักกูดลงไป ใส่น้ำมันหอย น้ำปลา พริกไทย ตีไข่จนทุกอย่างเข้ากัน ใส่น้ำมันลงไปบนกระทะ ตั้งจนร้อน เทไข่ลงไปทอด เมื่อสุกแล้วตักขึ้นเสิร์ฟ ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศหรือซอสพริก ก็ได้เมนูเพื่อสุขภาพที่อร่อยและมีประโยชน์สุดๆ

5.ยำผักกูดใส่กะทิ

เมนูยำผักกูดแบบปักษ์ใต้ ที่ทั้งอร่อยและมีความกลมกล่อมเป็นอย่างมาก โดยเมนูนี้ให้นำผักกูดมาเด็ดเอาแต่ใบแล้วลวกในน้ำร้อน ตักขึ้นแช่ในน้ำแข็งตั้งพักไว้ จากนั้นตำมะพร้าวคั่ว หอมแดง กระเทียม และพริกไทยดำพอละเอียด ใส่ปลาทูย่างลงไปตำให้เข้ากันอีกครั้ง ตักส่วนผสมทั้งหมดใส่ถ้วย ปรุงรสให้อร่อยด้วยน้ำตาล เกลือ และมะนาว คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟได้เลย ซึ่งเมนูนี้ก็ต้องบอกเลยว่าอร่อยมาก แนะนำให้ลองทำกันดู

6.ลวกจิ้มกับน้ำพริก

เป็นไอเดียง่ายๆ ในการกินผักกูด เพียงแค่นำผักกูดมาลวกให้สุก แล้วนำมาจิ้มกับน้ำพริก รับรองว่าได้ทั้งความอร่อยและดีต่อสุขภาพเลยทีเดียว ทั้งนี้จะต้องลวกให้สุกก่อนนำมากินเท่านั้น ห้ามกินแบบดิบๆ เป็นอันขาด เพราะอาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้

ข้อควรระวัง

แม้ว่าผักกูดจะอุดมไปด้วยประโยชน์มากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรรู้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียจากการทานผักกูด โดยในผักกูดมีสารออกซาเลตสูงมาก ซึ่งสารชนิดนี้จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นนิ่วและอาจมีปัญหาไตอักเสบได้ จึงไม่ควรทานแบบดิบๆ เป็นอันขาด แนะนำให้นำไปปรุงให้สุกก่อนทุกครั้ง เพราะเมื่อโดนความร้อน สารออกซาเลตจะถูกสลายออกไป จึงไม่เป็นอันตรายนั่นเอง

ผักกูดเป็นผักพื้นบ้านที่หาทานง่าย มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ทั้งยังมีสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพให้แข็งแรง ป้องกันการเกิดโรคร้ายได้หลายชนิดอีกด้วย เพราะฉะนั้นมาทานผักกูดเพื่อสุขภาพที่ดีของคุณกันดีกว่า แต่อย่าลืมนำไปปรุงให้สุกทุกครั้งก่อนนำมาทานด้วย แล้วคุณจะได้รับประโยชน์จากผักกูดแบบจัดเต็มอย่างแน่นอน

 


2 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
สารพิษที่เพิ่มอัตราการเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ตอนที่ 1. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล. (https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=407)
ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของผักพื้นบ้าน. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผลิตเภสัชกรคุณภาพสู่สังคมไทย. (https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/service-research-special-abstract.php?num=21&year=2549)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป