สตูปลา
ปลาแอนโชวีคือส่วนผสมลับที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับสตูจานนี้ นอกจากจะเพิ่มรสชาติแล้ว แอนโชวียังมีโอเมก้า-3 ที่ช่วยลดคอเลสเตออรอลในเลือด เป็นอาหารบำรุงสมอง ช่วยป้องกันสมองเสื่อม และมีวิตามินดีที่ช่วยดูดซึมแคลเซียม ทำให้กระดูกแข็งแรง
ส่วนผสม (สำหรับ 4 ที่)
- ปลาเนื้อขาว (เช่น ปลากะพง) หั่นเต๋าขนาด 2 นิ้ว ½ กิโลกรัม
- กระเทียมหั่นครึ่ง 4 กลีบ
- ปลาแอนโชวีกระป๋องล้างน้ำ 4 ชิ้น
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า 1 หัว
- เซเลอรี่หั่นเต๋า 1 ก้าน
- แครอตหั่นเต๋า 1 หัวกลาง
- เกลือ ¼+ ½ ช้อนชา
- มะเขือเทศกระป๋อง 28 ออนซ์ 1 กระป๋อง
- น้ำเปล่า 1 ลิตร
- มันฝรั่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ½กิโลกรัม
- เบย์ลีฟ (ใบกระวาน) 1 ใบ
- ไธม์ 1 ก้าน
- พาร์สลีย์สับ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้งป่นเล็กน้อย
- เกลือและพริกไทยดำสำหรับปรุงรสตามชอบ
วิธีทำ
- ตำ (หรือปั่น) กระเทียม เกลือ ช้อนชา และปลาแอนโชวีให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกลงในหม้อ ตามด้วยหอมหัวใหญ่ เซเลอรี่ แครอต และเกลือ ช้อนชา ผัดให้เข้ากันจนนิ่มประมาณ 5 นาที เติมกระเทียมที่ตำผสมกับแอนโชวี คนให้เข้ากันประมาณ 1 นาที ใส่มะเขือเทศลงไป คนให้เข้ากันประมาณ 10-15 นาที
- เติมน้ำ มันฝรั่ง เบย์ลีฟ ไธม์ พริกแห้งป่น หรี่ไฟลง ปิดฝาทิ้งไว้ 30 นาที เติมเกลือและพริกไทยดำตามชอบ
- ใส่ปลาลงไป ระวังอย่าให้สตูเดือด ตั้งไฟอ่อน 5-10 นาที ปิดไฟ ใส่พาร์สลีย์ลงไป คนให้เข้ากันชิมและปรับรสตามชอบ
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 ที่ | |||
พลังงาน | 344 แคลอรี | โปรตีน | 29.6 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 22.5 กรัม | ใยอาหาร | 4.9 กรัม |
ไขมัน | 15.4 กรัม | ไขมันอิ่มตัว | 2.3 กรัม |
กรดโอเมก้า-3 | 0.6 กรัม | กรดโอเมก้า-6 | 1.5 กรัม |
คอเลสเตอรอล | 116 มิลลิกรัม | โซเดียม | 705 มิลลิกรัม |
ซุปลูกเดือยกับเห็ดชิตาเกะ
ลูกเดือยนอกจากจะมีเส้นใยอาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ยังมีซีลีเนียมที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเสริมสร้างระบบไทรอยด์ เห็ดชิตาเกะมีสารเบต้ากลูเคนเพิ่มภูมิต้านทาน ซุปสูตรนี้ใช้น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว รสชาติจะออกมาแนวเอเชียๆ แต่ยังกลมกล่อมและมีประโยชน์ต่อร่างกายพอๆกับอาหารเมดิเตอริเรเนียนเลยทีเดียว
ส่วนผสม (สำหรับ 6 ที่)
- ลูกเดือยแห้ง ½ ถ้วยตวง
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- เห็ดชิตาเกะสไลซ์บาง 1 ถ้วยตวง
- กระเทียมปอกเปลือกหั่นบาง 10 กลีบ
- น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว ¼ถ้วยตวง
- น้ำซุปผัก 4 ถ้วยตวง
- น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
- ผักโขม (หรือผักใบเขียวอื่นๆ) หั่นเป็นท่อนยาว 3 ถ้วยตวง
- เกลือเล็กน้อย
วิธีทำ
- แช่ลูกเดือยแห้งในน้ำทิ้งไว้หนึ่งคืน
- ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอก ตามด้วยเห็ด ปรุงรสด้วยเกลือ ผัดเห็ดกับน้ำมันมะกอกประมาณ 10 นาที ใส่กระเทียมลงไปผัดต่ออีก 2 นาที เติมน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากันจนน้ำส้มสายชูเกือบจะระเหยหมด
- สงลูกเดือยที่แช่น้ำไว้ใส่ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำซุปผักและน้ำเปล่า เร่งไฟจนเดือด หรี่ไฟลงไปที่ระดับกลาง ต้มต่ออีก 20 นาที
- ใส่ผักลงไป เคี่ยวต่ออีก 10 นาทีจนผักสุก ปิดไฟ ยกหม้อลงจากเตา
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 ที่ | |||
พลังงาน | 138 แคลอรี | โปรตีน | 4 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 20 กรัม | ใยอาหาร | 3 กรัม |
ไขมัน | 5 กรัม | ไขมันอิ่มตัว | 1 กรัม |
กรดโอเมก้า-3 | 0.1 กรัม | กรดโอเมก้า-6 | 0.9 กรัม |
คอเลสเตอรอล | 0 มิลลิกรัม | โซเดียม | 103 มิลลิกรัม |
ซุปเลนทิลเลมอน
เมื่อเทียบกับถั่วชนิดอื่นๆแล้ว ถั่วเลนทิลเหมาะที่จะนำมาทำซุปที่สุด เพราะสามารถดูดซับรสชาติของน้ำซุปได้มาก และยังเพิ่มความหนึบหนับให้ซุปอีกด้วย ถั่วเลนทิลมีโปรตีนและใยอาหารสูง ไร้ไขมัน และคอเลสเตอรอล รวมทั้งมีโฟเลตที่ช่วยบำรุงเม็ดเลือด และมีวิตามินบี 1 ซึ่งมีบทบาทในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตในร่ากายอีกด้วย
โฟเลตและวิตามินบีเป็นอาหารที่ดีของหัวใจและสมอง
ส่วนผสม (สำหรับ 6 ที่)
- ถั่วเลนทิลล้างน้ำ 2 ถ้วยตวง
- น้ำซุปผัก 1 ลิตร
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- หอมหัวใหญ่สับละเอียด 1 ถ้วยตวง
- เซเลอรี่สับละเอียด 4 ก้าน
- แครอตสับละเอียด 2 หัว
- กระเทียมสับละเอียด 2 กลีบ
- ผักชีสับละเอียด ¼ ถ้วยตวง
- ผงกะหรี่ 1ช้อนโต๊ะ
- ผงยี่หร่า 1 ช้อนชา
- น้ำมะนาว (หรือเลมอน) 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือเล็กน้อย
- พริกไทยตามชอบ
วิธีทำ
- ต้มถั่วในน้ำซุปผักและน้ำเปล่า หรี่ไฟลงเป็นไฟกลาง ปิดทิ้งไว้ 5 นาที คนให้เข้ากันบ่อยๆ
- ใส่หอมหัวใหญ่ เซเลอรี่ แครอต และกระเทียม คนให้เข้ากัน เปิดฝาทิ้งไว้ 20 นาที ใส่ผักชี ผงกะหรี่ ผงยี่หร่า คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 20 นาทีหรือจนกว่าถั่วจะสุก ปรุงรสด้วยเกลือหรือพริกไทย เติมน้ำมะนาวท้ายสุด คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ยกลงจากเตา
รู้หรือไม่
*สามารถใช้ถั่วเขียว ถั่วเหลือง หรือถั่วแดงแทนถั่วเลนทิลได้
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 ที่ | |||
พลังงาน | 283 แคลอรี | โปรตีน | 19 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 50 กรัม | ใยอาหาร | 13 กรัม |
ไขมัน | 2 กรัม | ไขมันอิ่มตัว | <1 กรัม |
กรดโอเมก้า-3 | 0.1 กรัม | กรดโอเมก้า-6 | 0.3 กรัม |
คอเลสเตอรอล | 0 มิลลิกรัม | โซเดียม | 146 มิลลิกรัม |
ซุปฟักทองแอ๊ปเปิ้ล
คงไม่มีใครปฏิเสธความหวานมันของฟักทองได้ ฟักทองยังมาพร้อมกับปริมาณเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งนอกจากช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมสภาพของสายตาตามวัยแล้ว สารเบต้าแคโรทีนยังมีหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย เมื่อเบต้าแคโรทีนในฟักทองมาเจอกับวิตามินซีในแอ๊ปเปิ้ล ทำให้การทำหน้าที่ดักจับอนุมูลอิสระในร่างกายีขึ้นอีกเท่าตัว
ส่วนผสม (สำหรับ 6 ที่)
- เนื้อฟักทองหั่นเต๋าประมาณครึ่งนิ้ว 1 กิโลกรัม
- แอ๊ปเปิ้ลเขียวหั่นเป็นชิ้นเล็ก 2 ผล
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ ¼ + ⅛ ช้อนชา
- พริกไทย ⅛ ช้อนชา
- ใบเสจสับ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปไก่ 3 ถ้วยตวง
- เฮเซลนัทอบสับละเอียด ⅙ ถ้วยตวง
วิธีทำ
- อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 450 องศาฟาเรนไฮต์
- คลุกฟักทองและแอ๊ปเปิ้ลกับน้ำมันมะกอก เกลือ (ช้อนชา) และพริกไทยในชามผสม ตักใส่ถาดอบ นำเข้าเตาอบประมาณ 30 นาที
- ยกออกจากเตา เติมใบเสจลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน นำไปอบต่อ 15-20 นาที
- ปั่นส่วนผสมที่อบแล้วกับน้ำซุปให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่หม้อตั้งบนไฟกลาง เติมเกลือ ช้อนชาหรือตามชอบ อุ่นจนร้อนประมาณ 6 นาที
- ตักใส่ชามเสิร์ฟ โรยหน้าซุปด้วยเฮเซลนัท
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 1 ที่ | |||
พลังงาน | 183 แคลอรี | โปรตีน | 5.4 กรัม |
คาร์โบไฮเดรต | 24 กรัม | ใยอาหาร | 2.7 กรัม |
ไขมัน | 8.5 กรัม | ไขมันอิ่มตัว | 1.3 กรัม |
กรดโอเมก้า-3 | 0.1 กรัม | กรดโอเมก้า-6 | 1 กรัม |
คอเลสเตอรอล | 3.6 มิลลิกรัม | โซเดียม | 405 มิลลิกรัม |