กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

แนะนำเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัด มีอาการเจ็บคอและไอ

แนะนำเมนูอาหารที่ควรรับประทานเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัด เพื่อช่วยบรรเทาอาการป่วยให้ดีขึ้น
เผยแพร่ครั้งแรก 19 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 2023 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
แนะนำเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัด มีอาการเจ็บคอและไอ

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัด ควรเป็นอาหารที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออาหารที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการป่วยต่างๆ
  • ซุปไก่ และโจ๊กข้าวโอ๊ต เป็นอาหารคาวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ดี เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัดมาก
  • หากมีอาการไอ เจ็บคอ หรือมีน้ำมูกไหล แนะนำให้จิบชาร้อน ชากระเทียม หรือชาเปปเปอร์มินต์จะช่วยบรรเทาอาการได้ดี
  • อาหารว่างที่แนะนำในช่วงเป็นโรคไข้หวัด คือ โยเกิร์ตหรือซีเรียลผสมกับผลไม้ต่างๆ เช่น บลูเบอร์รี่สด หรือมะม่วง จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินต่างๆ ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงเร็วขึ้น 
  • การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้หวัด และบรรเทาความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดได้ (ดูแพ็กเกจฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ที่นี่)

โรคไข้หวัด เป็นหนึ่งในโรคที่มักเป็นในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง หรือในช่วงฤดูฝน มีอาการ ครั่นเนื้อครั่นตัว เป็นหวัดคัดจมูก ไอเจ็บคอ จมูกมีน้ำมูกไหล วัดอุณหภูมิแล้วมีไข้ จนทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย

การรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอจะช่วยป้องกันโรคได้ แต่เมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดแล้วก็จำเป็นต้องดูแลร่างกายอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

แนะนำเมนูอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัด

อาหารที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัด ควรเป็นอาหารที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืออาหารที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการป่วยต่างๆ มีดังนี้

1. ซุปไก่

ซุปไก่ เป็นหนึ่งในอาหารที่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคไข้หวัดรับประทาน เนื่องจากอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และโปรตีนที่ย่อยง่าย ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการในช่วงที่กำลังพักฟื้น

ไม่เพียงเท่านั้น การรับประทานซุปไก่อุ่นๆ สักชามขณะที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัด จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย ป้องกันภาวะขาดน้ำ บรรเทาอาการเจ็บคอ และช่วยให้หายใจได้โล่งขึ้นอีกด้วย

2. กระเทียม

การรับประทานกระเทียมเป็นประจำจะช่วยป้องกันไข้หวัดได้ เนื่องจากกระเทียมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่หากป่วยเป็นโรคไข้หวัดแล้วก็สามารถนำกระเทียมมาทำเป็นชาร้อนจิบบ่อยๆ เพื่อบรรเทาอาการป่วยได้ โดยการหั่นกระเทียมเป็นแว่น แช่ในน้ำร้อนประมาณ 2-3 นาที แล้วกรองกากออก

หากไม่ชอบกลิ่นฉุนของชากระเทียม สามารถเติมน้ำผึ้ง หรือผสมกับน้ำขิงจะช่วยลดกลิ่นฉุน และเพิ่มรสชาติได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ยุค New Normal สุขภาพ เป็นสิ่งที่ทุกคนใส่ใจมากยิ่งขึ้น

ถ้าเริ่มมีอาการเจ็บคอ คันคอ ระคายคอ หรือมีเสมหะ เหนียวคอ มาดู 5 วิธี บรรเทาง่ายๆ ได้ผล อย่ารอให้เป็นหนัก

3. โยเกิร์ต

โยเกิร์ต อุดมไปด้วยโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ชนิดดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยลดการอักเสบ ทำให้หายป่วยได้เร็วขึ้น

แนะนำให้รับประทานโยเกิร์ตในช่วงที่เป็นไข้หวัดทุกวัน วันละ 1 ถ้วย ก็จะช่วยบรรเทาอาการหวัด คัดจมูก และเจ็บคอได้ โดยเลือกรับประทานโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เพราะมีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่าโยเกิร์ตรสอื่นๆ 

4. โจ๊กข้าวโอ๊ต

โจ๊กข้าวโอ๊ตร้อนๆ เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัดมาก เนื่องจากข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยวิตาอีที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเส้นใยเบต้ากลูแคลนที่ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย

การบำรุงร่างกายด้วยการรับประทานโจ๊กข้าวโอ๊ตจึงช่วยให้ร่างกายหายจากโรคไข้หวัดได้เร็วขึ้น โดยสามารถเพิ่มคุณค่าทางอาการด้วยการใส่ผัก อกไก่ หรือไข่ได้

5. ผักใบเขียว

ผักใบเขียว เช่น ผักโขม หรือคะน้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและอีที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผักใบเขียวเหล่านี้เมื่อนำไปผ่านความร้อนสารอาหารจะลดน้อยลง แนะนำให้รับประทานสดๆ จะดีกว่า

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

หากไม่สามารถรับประทานสดๆ ได้ แนะนำให้นำไปปั่นรวมกับผลไม้ เช่น ส้ม มะนาว สับปะรด หรือกล้วย จะช่วยให้รับประทานได้ง่ายขึ้น

นอกจากผักใบเขียวแล้ว บรอคโคลี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่มีประโยชน์ไม่แพ้กัน สามารถนำไปปั่นกินรวมกันได้

6. บลูเบอร์รี่

บลูเบอร์รี่ เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ได้เป็นอย่างดี

แนะนำให้รับประทานบลูเบอร์รี่แบบสดๆ หรือเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยการนำไปผสมกับซีเรียล โยเกิร์ต จะช่วยเพิ่มวิตามินดี ซึ่งเป็นหนึ่งในวิตามินที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายได้เป็นอย่างดี

7. ฟักทอง มะม่วงสุก มะยงชิด

ฟักทอง มะปราง และมะยงชิด จัดเป็นผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนสูงมาก ซึ่งเบต้าแคโรทีนจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ และเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ

นอกจากนี้ การรับประทานเบต้าแคโรทีนเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไข้หวัดมาก

8. ชาร้อน

การจิบชาร้อนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ละลายเสมหะ และหายใจได้โล่งขึ้น

โดยแนะนำให้จิบชายี่หร่า ซึ่งมีวิธีการทำง่ายๆ คือ ชงเม็ดยี่หร่าบดกับน้ำร้อน 1 ถ้วยตวง เพิ่มรสชาติด้วยน้ำตาล กระเทียม ผงอบเชย (Cinnamon) และน้ำผึ้ง จิบวันละ 3 เวลา จะช่วยลดอาการหวัดได้

แต่หากไม่ชอบกลิ่นหรือรสชาติของชาสมุนไพร สามารถเปลี่ยนไปจิบชาเปปเปอร์มินต์แทนได้ ซึ่งมีคุณสมบัติในการละลายเสมหะ ลดน้ำมูก และลดอาการไอได้เช่นเดียวกัน

9. น้ำมันปลา

ผู้ป่วยโรคไข้หวัดควรรับประทานน้ำมันปลา เช่น น้ำมันปลาแซลมอน หรือน้ำมันปลาทูน่า เนื่องจากน้ำมันปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบ และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิตามินซีช่วยรักษาโรคไข้หวัดได้หรือไม่?

หลายคนมักเข้าใจว่า เมื่อป่วยเป็นไข้หวัดให้รับประทานวิตามินซีเยอะๆ จะช่วยรักษาไข้หวัดได้ นั่นไม่ใช่ความจริงเสียทีเดียว

การรับประทานวิตามินซีเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นหวัด และช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้ แต่หากผู้ป่วยเริ่มมารับประทานตอนเป็นไข้หวัดแล้วจะไม่สามารถช่วยได้

ดังนั้น เราจึงควรรับประทานวิตามินซีเป็นประจำ แม้ว่าจะมีร่างกายแข็งแรงปกติก็ตาม จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากวิตามินซีเต็มที

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งเร็วขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ป่วยเป็นโรคไข้หวัด

อย่างไรก็ตาม การป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัดตั้งแต่แรกจะดีกว่า ซึ่งการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคไข้หวัด และบรรเทาความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อป่วยเป็นโรคไข้หวัดได้

ดูแพ็กเกจฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


22 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Kristeen Cherney, Flu Diet: 9 Foods to Eat When You Have the Flu and 4 Things to Avoid (https://www.healthline.com/health/what-to-eat-when-you-have-the-flu), 21 March 2018.
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย, เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene) (http://nutrition.anamai.moph.go.th/images/file/studen_beta_58.pdf).
นศภ. ปฏิมา บุญมาลี, วิตามินซีกับการป้องกันหวัด (https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=17).

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป