มะรุม เป็นพืชที่สามารถรับประทานได้ทั้งใบและฝัก ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูงทั้งคู่ และยังช่วยในการบรรเทารักษาอาการของโรคบางชนิดได้อีกด้วย มะรุมสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพและนำมารับประทาน ดังนี้
ทำความรู้จักมะรุม
มะรุม (Moringa, Drumstick pods) เป็นพืชสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปเอเชีย สามารถนำมารับประทาน และใช้เป็นยาได้ทุกส่วน เนื่องจากมะรุมอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินนานาชนิด ใบมะรุมเป็นใบเล็ก มีลักษณะมนกลม รสชาติหวาน ส่วนฝักมะรุม เป็นฝักยาว มีเปลือกสีเขียว มีรสชาติหวานเช่นกัน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณค่าทางอาหารของมะรุม
ฝักมะรุม 100 กรัม ให้พลังงาน 37 กิโลแคลอรี มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 8.53 กรัม
- โปรตีน 2.1 กรัม
- ใยอาหาร 3.2 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- แคลเซียม 30 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 45 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 461 มิลลิกรัม
- โซเดียม 42 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 50 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.36 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.45 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 141 มิลลิกรัม
- ไนอะซิน 0.68 มิลลิกรัม
- โฟเลต 44 ไมโครกรัม
- ซีลีเนียม 8.2 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 74 I.U.
สรรพคุณของมะรุม
มะรุมมีสรรพคุณดีๆ ต่อร่างกาย ดังนี้
- ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ อาการบวมน้ำส่วนมากเกิดจากการสะสมของโซเดียมในเลือด ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็ม การรับประทานมะรุมเป็นประจำจึงช่วยบรรเทาอาการนี้ เพราะมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งโพแทสเซียมจะช่วยเข้าไปลดโซเดียมในเลือดให้เป็นปกติ นอกจากลดอาการบวมน้ำแล้ว ยังลดความดันโลหิตได้อีกด้วย
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น มะรุมมีไฟเบอร์สูง และมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ จึงช่วยส่งเสริมให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น การรับประทานมะรุมเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคท้องผูก โรคริดสีดวง และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง จากการทดลองในหนูทดลอง พบว่าในมะรุมมีสารเบนซิลไทโอไซยาเนตไกลโคไซด์ สารไนอาซิไมซิน ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และทำลายเซลล์มะเร็ง การรับประทานมะรุม จึงสามารถป้องกันโรคมะเร็งได้
- ช่วยลดอาการหอบหืด จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารเภสัชวิทยาของอินเดียในปี 2551 พบว่า การใช้ผงเมล็ดมะรุม 3 กรัมเป็นเวลา 3 สัปดาห์ช่วยรักษาอาการหอบหืดในผู้ใหญ่ และยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพปอดให้ดีขึ้นด้วย
- ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง มักเกิดจากการขาดธาตุเหล็กเป็นหลัก ซึ่งมะรุมก็มีธาตุเหล็ก และมีวิตามินซีสูง การรับประทานมะรุมเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ เนื่องจากวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
- ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา จากงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Frontiers in Microbiology ในปี พ.ศ. 2560 ได้อ้างถึงการใช้โปรตีนบริสุทธิ์ในเมล็ดมะรุมเป็นสารต้านเชื้อรา Candida เนื่องจากสารสกัดดังกล่าวมีความสามารถในการยับยั้งการเจริญเติบโตของ Candida ได้
- บรรเทาอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหาร ในมะรุม มีสารต่าง ๆ จำพวกฟลาโวนอยด์ และฟีนอลที่ช่วยลดอาการอักเสบ และการเกิดแผลในระบบทางเดินอาหาร
แนวทางการใช้มะรุมเพื่อสุขภาพ
มะรุมสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากมาย ดังนี้
- ขับสารพิษในร่างกาย นำใบสดมาล้างให้สะอาด แล้วบดให้ละเอียด เติมน้ำเล็กน้อยแล้วนำไปคั้นในผ้าขาวบาง นำมาใช้ดื่มเป็นประจำ
- ใช้เป็นยาขับลม เปลือกของต้นมะรุม เมื่อนำมาตากให้แห้ง แล้วนำไปต้มกับน้ำเดือด สามารถนำมาใช้ดื่มเป็นยาขับลมได้ และยังช่วยบรรเทาอาการแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อได้อีกด้วย
- บรรเทาอาการปวด นำเปลือกมะรุมมาสับให้ละเอียด ห่อด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นทำเป็นลูกประคบร้อน แล้วนำมาประคบบริเวณที่เกิดอาการปวด
- บรรเทาอาการไอ เมล็ดมะรุมสีขาวในฝักแก่ สามารถนำมาเคี้ยว เพื่อบรรเทาอาการไอได้ โดยจะทำให้รู้สึกชุ่มคอ และยังช่วยแก้อาการเจ็บคอได้
ไอเดียการกินมะรุมเพื่อสุขภาพ
มะรุม สามารถนำมาประกอบอาหารไทยได้มากมาย เช่น
- ยำมะรุม นำเมล็ดอ่อนมะรุมมาลวกในหม้อน้ำเดือด พอสุกให้นำขึ้นมาแช่น้ำเย็น และนำมาพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ จากนั้นทำน้ำยำโดยใส่ ซีอิ้วขาว น้ำมะนาว น้ำเชื่อม และพริกขี้หนูหั่นละเอียด ผสมให้เข้ากัน ตามด้วยเมล็ดมะรุมที่เตรียมไว้มาผสมกับน้ำยำ ใส่เห็ดฟางลวกสุก และหอมแดงลงไป เคล้าให้เข้ากัน
- แกงดอกแคใบมะรุม ลวกวุ้นเส้นในหม้อน้ำต้มเดือดเมื่อเส้นสุกตักใส่ถ้วยพักไว้ จากนั้นต้มน้ำในหม้อโดยใช้ไฟกลาง เมื่อน้ำเดือดใส่มะเขือพวง ใบมะรุม เห็ดหูหนู เห็นฟาง มะเขือเปราะ และดอกแค เมื่อผักสุกแล้วให้ใส่พริกขี้หนูและเกลือ คนให้เข้ากัน รอจนน้ำเดือดอีกครั้งให้ใส่ผักหวาน ใบพญายอ ใบชะพลูและใบกะเพรา คนให้ทั่ว ปรุงรสตามต้องการ
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่มีภาวะพร่องเอ็นไซม์ Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase (G6PD deficiency) ไม่ควรรับประทานถั่วฝักยาวโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้มีอาการแพ้อย่างรุนแรงได้
- การรับประทานมะรุมในปริมาณมาก อาจส่งผลให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ เป็นผื่นคัน ท้องเสีย หากพบอาการเหล่านี้ ให้หยุดรับประทานมะรุม และรีบไปพบแพทย์ทันที
- มะรุม จัดเป็นพืชที่มีฤทธิ์ร้อน สตรีมีครรภ์จึงควรงดรับประทานมะรุม เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตร
- การรับประทานมะรุมในรูปแบบแคปซูล หรือรับประทานในรูปแบบยา อาจทำให้ค่าเอนไซม์ของตับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติ
ที่มาของข้อมูล
Bethany Cadman, What makes moringa good for you? (https://www.medicalnewstoday.com/articles/319916.php), 4 November 2017
Healthcare Asia Daily News, Top 8 health benefits of drumsticks (http://www.healthcareasia.org/2014/top-8-health-benefits-of-drumsticks/), 17 July 2014
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
Meenakshi Chaudhary, 8 Health benefits of drumsticks (https://www.onlymyhealth.com/health-slideshow/eight-health-benefits-of-drumsticks-1435313065.html), 28 June 2015
United States Department of Agriculture, Basic Report: 11620, Drumstick pods, raw (https://ndb.nal.usda.gov/ndb/foods/show/11620)
WebMD, MORINGA (https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-1242/moringa)
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, มะรุม พืชที่ทุกคนอยากรู้ (https://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/8/มะรุม-พืชที่ทุกคนอยากรู้/)
ดร.ช่อทิพย์ บรมธนรัตน์, มากินมะรุมกันเถอะ (https://www.stou.ac.th/Schools/Shs/upload/เดือนตุลาคม%20อ.ดร.pdf) 7 ตุลาคม 2552
รศ.ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ, มะรุม ลดไขมันป้องกันมะเร็ง (https://www.doctor.or.th/article/detail/1245), 1 มิถุนายน 2550
ศูนย์ข้อมูลสมุนไพร, เผย 5 สมุนไพรลดความดันโลหิตสูง ที่คุณคาดไม่ถึง (http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_herbal/news_detail.php?cat=G&id=185) 31 กรกฎาคม 2557
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, “มะรุม” พืชสมุนไพร แต่ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” (https://www.thaihealth.or.th/Content/5614-“มะรุม”%20พืชสมุนไพร%20แต่ไม่ใช่%20“ยาวิเศษ”.html), 28 พฤษภาคม 2552