เห็ดหูหนูดำ เป็นเห็ดที่มีรสชาติที่อร่อย และมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยเห็ดหูหนูดำสามารถนำมาใช้เพื่อสุขภาพและนำมารับประทาน ดังนี้
ทำความรู้จักเห็ดหูหนูดำ
เห็ดหูหนูมีด้วยกัน 2 ชนิด คือเห็ดหูหนูขาว และเห็ดหูหนูดำ เห็ดหูหนูดำ (Jelly Ear Fungus) เป็นเห็ดที่อยู่ในตระกูลเห็ด Fungi มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Auriculari spp. อยู่ในวงศ์ Auriculariaceae ซึ่งเห็ดตระกูลนี้มักจะชอบขึ้นตามต้นไม้ที่ตายแล้ว ลักษณะของเห็ดจะเป็นแผ่นนิ่มๆ ซ้อนทับกันคล้ายกับใบหูของหนู เนื้อเห็ดบาง ผิวด้านบนเรียบ มีขนเล็กๆ เป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวด้านในสีเหมือนด้านนอก
คุณค่าทางโภชนาการของเห็ดหูหนูดำ
เห็ดหูหนู 100 กรัม ให้พลังงาน 25 แคลอรี่ มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต 6.75 กรัม
- โปรตีน 0.48 กรัม
- ไขมัน 0.04 กรัม
- ใยอาหาร 70.1 กรัม
- โซเดียม 9 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 43 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 16 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.56 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 25 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.66 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม
- ไนอาซิน 0.07 มิลลิกรัม
- ไรโบฟลาวิน 0.2 มิลลิกรัม
- โฟเลต 19 ไมโครกรัม
สรรพคุณของเห็ดหูหนูดำ
สรรพคุณของเห็ดหูหนูดำที่น่าสนใจ มีดังต่อไปนี้
-
กระตุ้นระบบขับถ่าย เห็ดหูหนูดำ เป็นเห็ดที่มีไฟเบอร์สูงมาก และยังมีน้ำยางธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย จึงช่วยทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการท้องผูก เป็นโรคริดสีดวง และยังดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วย
-
ช่วยลดระดับไขมัน ในเห็ดหูหนูดำมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าอะดีโนซีน มีหน้าที่ลดคอเรสเตอรอลที่อยู่ในเลือด นอกจากนี้ยังช่วยลดความเข้มของเลือด อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดเหนียวข้นจนจับตัวเป็นลิ่ม ซึ่งถ้าหากลิ่มเลือดนี้มีขนาดใหญ่และไปกีดขวางการสูบฉีดโลหิตไปยังหัวใจ ก็อาจทำให้เกิดอาการหัวใจขาดเลือดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต
-
มีแคลเซียมสูง เห็ดหูหนูดำ เป็นเห็ดที่มีแคลเซียมสูง และยังมีฟอสฟอรัสในปริมาณมาก การรับประทานเห็ดหูหนูดำบ่อยๆ จะช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ในวัยผู้สูงอายุ หากรับประทานเห็ดหูหนูดำเป็นประจำก็จะช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้
ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เห็ดหูหนูดำมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงปอด ลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยฤทธิ์เย็นของเห็ดหูหนูดำ ยังช่วยให้ร่างกายมีความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย
เมนูสุขภาพที่ทำจากเห็ดหูหนูดำ
เห็ดหูหนูสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น
-
ผัดกระเพราเห็ดหูหนูดำ นำพริกกับกระเทียมไปตำ ล้างเห็ดหูหนูดำให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่กระเทียมกับพริกลงไปเจียวให้หอม ใส่หมูสับลงไปผัด ใส่ผงปรุงรส น้ำตาล ซอส ผัดให้แห้ง เติมน้ำลงไปเล็กน้อย ใส่ใบกระเพรากับเห็ดหูหนูดำลงไป ผัดต่อสักพัก ปิดไฟ ตักใส่จาน
-
ไก่ผัดขิงเห็ดหูหนูดำ ล้างอกไก่ให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ซอยกระเทียมกับเห็ดหูหนูดำและขิงเตรียมไว้ นำกระทะขึ้นตั้งไฟใส่น้ำมันลงไป ใส่กระเทียมกับขิงลงไปผัดจนสุก ใส่เห็ดหูหนูดำลงไป เร่งไฟ ใส่ซอสปรุงรส น้ำตาล น้ำปลา ผงปรุงรส ผัดให้เข้ากัน ใส่เหล้าจีน พริกไทยป่นลงไป หอมหัวใหญ่ซอย พริกชี้ฟ้า ผัดจนทุกอย่างสุก ปิดไฟ ตักใส่จาน
-
สปาเก็ตตี้ลาบเห็ดหูหนูดำ นำเห็ดหูหนูดำไปล้างน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ หั่นไส้กรอก ผักชี หอมแดง นำน้ำใส่หม้อต้มจนเดือด ใส่น้ำมันพืชกับเกลือลงไป แล้วต้มเส้นสปาเก็ตตี้ประมาณ 8 นาที แล้วนำลงไปล้างในน้ำเย็น จากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันไส้กรอกกับเห็ดหูหนูดำลงไปผัด ใส่ผักชี ข้าวคั่ว หอมแดง ใส่น้ำปลา น้ำตาล พริกป่น น้ำมะนาว ผัดส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ปิดไฟ นำเส้นสปาเก็ตตี้ลงไปผัดคลุกเคล้าในกระทะให้เข้ากัน ปรุงรสตามความชอบ
-
ตุ๋นกระดูกหมูเห็ดหูหนู โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้เข้ากัน หั่นเห็ดหูหนูดำเป็นชิ้นเล็กๆ นำกะหล่ำปลีมาผ่าเป็น 4 ส่วน นำน้ำใส่หม้อขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่ซุปก้อน หอมหัวใหญ่ กระดูกหมู กะหล่ำปลี ใส่เห็ดหูหนูลงไป ปิดฝา ตุ๋นทิ้งไว้ด้วยไฟกลาง ตักฟองออก แต่งหน้าด้วยผักชี ตักใส่ชามยกขึ้นเสิร์ฟ
-
ยำเห็ดหูหนูดำ นำเห็ดหูหนูไปล้างให้สะอาด ตัดโคนออก หั่นเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปลวกในน้ำเดือด ตักใส่ชามพักไว้ ลวกหมูสับให้สุก ตักใส่ชามที่มีเห็ด ผสมพริกสดตำ กระเทียม น้ำตาลปี๊ป น้ำปลา แล้วเอามาราดลงบนเห็ดหูหนูกับหมูสับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จาน แต่งหน้าด้วยขึ้นฉ่าย
ข้อควรระวัง
- สิ่งที่ต้องระวังตามตำราแพทย์จีนได้ระบุไว้ว่า ไม่ควรรับประทานเห็ดหูหนูดำในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากตอนกลางคืนนั้น ธาตุเย็นในร่างกายจะทำงานมากกว่าธาตุร้อน
- เนื่องจากเห็ดหูหนูดำมีฤทธิ์เย็น ถ้าหากรับประทานมากเกินไป อาจจะพบอาหารตาแฉะ มีน้ำมูกไหล หรือตัวเย็นมากกว่าปกติ