คำถามเพื่อสุขภาพน่ารู้
อ่านข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับคำถามที่เป็นข้อสงสัยถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆ วิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โบรอน อาหารสมอง สารพฤกษเคมีคืออะไร ? ตอบคำถามที่ว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารที่เรารับประทานอยู่ผ่านการดัดแปลงทำพันธุกรรมมาหรือเปล่าและอีกหลายคำถามที่น่าสนใจ สนใจอ่านต่อได้ที่นี่
Q: ผมเห็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในกลุ่มกรดแอมิโนตามร้านขาย อาหารเพื่อสุขภาพผลิตภัณฑ์เหล่านี้จัดเป็นสารอาหารหรือเปล่าแล้วมันสำคัญเทียบเท่ากับวิตามินไหม
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
A: ขอเน้นย้ำว่าใช่ครับและใช่ครับอีกครั้ง กรดแอมิโนเป็นหน่วยย่อยในโครงสร้างของหนึ่งในสารอาหารที่สำคัญที่สุดสำหรับเรานั้นคือโปรตีน
ทุกๆเซลล์ในร่างกายของเรา (และต้องการ) โปรตีน เราใช้โปรตีนในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลายตลอดจนใช้สร้างฮอร์โมนและเอนไซม์รักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างในเลือด และกำจัดของเสียออกจากร่างกาย รวมทั้งยังมีอีกหลากหลายหน้าที่เมื่อโปรตีนถูกย่อยมันจะแตกออกเป็นสารประกอบเล็กๆเรียกว่ากรดแอมิโน เมื่อกรดแอมิโนเข้าสู่เซลล์ในร่างกายของคุณมันจะรวมตัวกันเป็นโปรตีนอีกครั้งเป็นวัฏจักรที่มหัศจรรย์
ความสำคัญของวิตามินและกรดแอมิโนในแง่โภชนาการนั้นเท่าเทียมกันเพราะคุณจะไม่ได้รับประโยชน์จากสารอาหารกลุ่มหนึ่งเลยหากคุณขาดสารอาหารอีกกลุ่มหนึ่งในปริมาณที่เหมาะสมไป
Q: ผมทราบมาว่าวิตามินไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์หากแร่ธาตุแต่มีและถ้าตัวใดที่จะช่วยให้วิตามินทำงานได้มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษหรือไม่
A: แน่นอนครับตัวอย่างเช่นวิตามินเอทำงานร่วมกับแร่ธาตุอย่างแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส ซีลีเนียมและสังกะสีได้ดีที่สุด วิตามินบีต่างๆก็ทำได้ดีขึ้นเมื่อมีแร่ธาตุกลุ่มดังกล่าว และยังรวมไปถึงโคบอลต์ ทองแดง เหล็ก แมงกานีส โพแทสเซียม และโซเดียม ด้วยสำหรับวิตามินซีมีแร่ธาตุห้าตัวที่พบว่าช่วยให้วิตามินซีมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้แก่ แคลเซียม โคบอลต์ ทองแดงเหล็ก และโซเดียมสำหรับวิตามินดีได้แก่ แคลเซียม ทองแดง แมกนีเซียม ซีลีเนียมและโซเดียมและสำหรับวิตามินอีได้แก่ แคลเซี่ยม เหล็ก แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซีลีเนียม โซเดียม และสังกะสี
Q: โบรอนคืออะไร
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
A: มีความสำคัญเกินคาดครับ โบรอนเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการในปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่มีขนาดที่แนะนำให้รับประทานอย่างเป็นทางการแต่นั่นไม่ได้ทำให้ความสำคัญของมันลดลงเลย โดยเฉพาะในการทำงานร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามินดีเพื่อช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและยังอาจช่วยให้สมองของคุณทำงานได้ดีขึ้นด้วย พบในผักและผลไม้เกือบทุกชนิด แต่ผลไม้ตากแห้งเช่นพลุนหรือเอพริคอต เป็นแหล่งของโบรอนที่ดีที่สุดในการรับประทานเพื่อเสริมอาหารผมแนะนำขนาด 3 มิลลิกรัมต่อวัน (ห้ามเกินวันละ 10 มิลลิกรัม)
Q: อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างสารโภชนบำบัดกับอาหารที่ทำหน้าที่พิเศษที่มีผลดีต่อสุขภาพ (Functional food)
A: อาหารในกลุ่มโภชนบำบัดและฟังก์ชันนัลฟู้ด (มันใช้แทนกันบ่อยๆ) คือส่วนประกอบของอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค โดยมีคุณสมบัติคล้ายยาและมีคุณสมบัติเหนือกว่าคุณค่าทางโภชนาการของอาหารทั่วไปแต่มีความแตกต่างกันคือ ในขณะที่ฟังก์ชันนัลฟู้ดหน้าตาไม่ต่างกับอาหารทั่วไปแต่สารโภชนบำบัดมักจะหมายถึงสารอาหารที่สกัดออกมาจากอาหารและวางขายในรูปเม็ดยา
Q: อะไรคือสารพฤกษเคมี (photochemical)
A: สารพฤกษเคมีคือสารเคมีที่พบในพืชเป็นสารอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพที่ทำให้ ผัก ผลไม้ ธัญพืช ถั่วต่างๆมีสีสันกับรสชาติเฉพาะตัว และมีฤทธิ์ในการป้องกันโรค จึงจัดได้ว่าสารเคมีเหล่านี้เป็นภูมิคุ้มกันของพืชนั่นเองเพราะมันยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังและช่วยป้องกันการทำลายจากอนุมูลอิสระ ช่วยบรรเทาอาการของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ รวมถึงโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
Q: ฉันเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว จึงต้องรับประทานยาปฏิชีวนะ (แอนติไบโอติก) ค่อนข้างบ่อย เคยได้ยินเกี่ยวกับสารเสริมชีวนะ (โพรไบโอติก) แต่ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรและฉันควรจะรับประทานมันหรือเปล่า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
A: แน่นอนครับว่าควรรับประทาน สารเสริมชีวนะ (โปรไบโอติก) มีความหมายว่า “เพื่อชีวิต” เป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกเชื้อจุลินทรีย์ที่รู้จักกันว่าเป็นแบคทีเรียที่เป็นมิตรกับร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านการติดเชื้อและโรคต่างๆ มีแบคทีเรียที่เป็นมิตรหลายพันล้านตัวในร่างกายของเราและพวกมันก็ช่วยกันทำงานอันแสนมหัศจรรย์เช่น ช่วยในการย่อยอาหาร ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยรักษาฮอร์โมนให้อยู่ในระดับปกติ ป้องกันการรุกรานจากเชื้อราและยีสต์(ซึ่งอาจรุกรานเข้ากระแสเลือดและก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้) อีกทั้งยังช่วยในการสร้างวิตามินดีบางชนิดด้วย
แต่โชคร้ายไปหน่อยี่ปฏิชีวนะไม่สามารถแยกระหว่างเชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรกับเชื้อที่เป็นศัตรู การรับประทานยาปฏิชีวนะมากเกินไปจึงอาจเพิ่มปริมาณสายพันธุ์แบคทีเรียที่ดื้อยา และส่งผลให้คุณเป็นโรคต่างๆได้ง่ายขึ้น คุณสามารถเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่ดีได้โดยรับประทานอาหารที่มีเส้นใหญ่อาหารสูงให้มากขึ้น (แบคทีเรียที่ดีบริโภคส่วนใหญ่อาหารและสันดานออกมาเป็นกรดซึ่งจะยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ไม่ดี) และการรับประทานโยเกิร์ตซึ่งจะให้ดีแล้วควรเป็นแบบไขมันต่ำได้ปราศจากไขมันและผลิตจากการเพาะเชื้อจุลินทรีย์ที่มีชีวิต (สารเสริมชีวนะที่ปราศจากนมก็มีให้เลือกซื้อเช่นกัน) แต่วิธีการที่ง่ายที่สุดอาจจะเป็นการรับประทานสารเสริมชีวนะเสริมอาหารทุกวันในระหว่างที่คุณต้องรับประทานยาปฏิชีวนะและต่อเนื่องไปอีกประมาณหนึ่งเดือนหลังจากหยุดยาเพื่อแต่แบคทีเรียที่ดีเข้าไปใหม่ ผมแนะนำหนึ่งแคปซูล (หรือหนึ่งช้อนโต๊ะสำหรับแบบน้ำ) วันละ 3 เวลาโดยรับประทานครึ่งชั่วโมงก่อนอาหาร หมายเหตุ: คุณอาจมีอาการท้องเฟ้อหรือลมในท้องมากเมื่อเริ่มรับประทานสารเสริมปฏิชีวนะครั้งแรกซึ่งถือเป็นข้อบ่งชี้ว่าแบคทีเรียที่ดีกำลังก่อตัวและอาการคุณจะหายไปภายในหนึ่งสัปดาห์โดยประมาณเมื่อร่างกายคุณปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้
Q: ผมทราบว่าสารต้านอนุมูลอิสระสู้กับปฏิกิริยาออกซิเดชันในร่างกายแต่ปฏิกิริยาออกซิเดชันคืออะไรและเกิดจากสาเหตุใด
A: ออกซิเดชันคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหล็กเมื่อขึ้นสนิม การที่แอปเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลโมเลกุลของออกซิเจนที่ไม่เสถียร ซึ่งเรียกว่าอนุมูลอิสระ ขโมยประจุลบจากโมเลกุลอื่นๆเพื่อที่จะกลายเป็นโมเลกุลที่เสถียร ในกระบวนการที่เกิดขึ้นนี้อนุมูลอิสระจากเข้าทำลายเซลล์ ทำให้อายุของเซลล์สั้นลงและทำให้กระบวนการแก่ของเซลล์เร็วขึ้นเมื่อปฏิกิริยาออกซิเดชันได้เกิดขึ้นแล้วเป็นการยากที่จะหยุดมันผลที่ตามมา มีตั้งแต่การติดเชื้อไปจนถึงโรคที่มากับความเสื่อมสภาพต่างๆรวมถึงโรคหัวใจ ข้ออักเสบ และมะเร็ง
สาเหตุที่ทำให้เกิดออกซิเดชันมีหลายสิบ อย่าง แต่ตัวการหลักที่พบได้บ่อยคือมลภาวะ สารเคมีและสารพิษเช่น ควันบุหรี่
Q: อะไรคืออาหารสมองและสารอาหารเหล่านี้ช่วยให้เราฉลาดขึ้นได้จริงหรือ
A: อืม คุณจะเป็นคนฉลาดหาคนรู้จักรับประทานสารอาหารเหล่านี้มีสารอาหารบางตัวที่เพราะว่าช่วยปกป้อง และเสริมการทำงานของสมอง ระดับของสารต้านอนุมูนอิสระชาติในร่างกายของเราซึ่งคอยปกป้องสมองจากอนุมูนอิสระที่มาทำลายล้างสลอดลงเรื่อยๆตามอายุ ด้วยเหตุนี้เองผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นสารต้านอนุมูนอิสระซึ่งมีทั้งวิตามิน แร่ธาตุ กรดอะมิโนและสมุนไพรล้วนสมควรได้ชื่อว่าเป็นอาหารสมอง
จะเป็นการฉลาดหากคุณ รู้จักหาความรู้และมองหาสารอาหารบำรุงสมองบางชนิดโดยเฉพาะในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รวมสารอาหารหลายชนิดไว้ด้วยกันสารอาหารเหล่านั้นได้แก่วิตามินอี สารสกัดจากเมล็ดองุ่น กรดลิโพอิก เอ็นเอดีเอช (โคเอนไซม์ไอ) วิตามินบี1 (ไทอะมีน) วิตามินบี3 (ไนอะซิน) วิตามินบี6 (ไพริด็อกซิน) วิตามินบี 12 กรดโฟลิก โคลีน แอล-คาร์นิทีน ฟีนิลอะลานีน ดีเอชเอ ดีเอ็มเอดี ฟอสฟาทิดิลเอธาโนลามี ฟอสฟาทิดิลเซฟาลิน รากโฟติ(สมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง) ชิเเซนดร้าเบอร์รี่ แอล-กลูตามีน วินโพเซทีน สารสกัดใบแปะก๊วย บัวบก ฮิวเพอร์ซีนเอ แมกนีเซียม เพรกนีโนโลน ฟอสฟาทิดิลเซรี ฟอสฟาทิดิลโคลีน อินอซิทอลเเละสังกะสี ไม่มีอาหารสมองใดที่จะทำให้คุณกลายเป็นไอน์สไตน์ ได้แต่อย่างน้อยพวกมันจะช่วยคุณจำเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่น ทิ้งกุญแจรถไว้ที่ไหนได้ดีขึ้น
Q: อาหารที่ผ่านการดัดแปลงทำพันธุกรรมปลอดภัยพอที่จะรับประทานหรือไม่แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารที่เรารับประทานอยู่ผ่านการดัดแปลงทำพันธุกรรมมาหรือเปล่า
A: ความรู้สึกของผมคือหากคุณหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานอ่านได้ คุณก็ควรจะทำ แต่โชคร้ายที่เป็นเรื่องยาก เพราะสองในสามของอาหารสำเร็จรูปโดยมีส่วนประกอบที่ผ่านการดัดแปลงทำพันธุกรรม และองค์กรอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้มีการบังคับให้แสดงบนฉลากที่มีส่วนประกอบที่ผ่านการดัดแปลงทำพันธุกรรม ในขณะที่กลุ่มประเทศสหภาพยุโรปจะมีความชัดเจนกว่าในเรื่องนี้ อาหารที่ผ่านการดัดแปลงทำพันธุกรรม (GMOs) หรือมีส่วนผสมที่เป็นจีเอ็มโอ จำเป็นต้องแจ้งบนฉลาก ในส่วนการศึกษาเรื่องความปลอดภัยนั้นมีการศึกษาในปี 1998 พบว่าหนูตั้งท้องที่เลี้ยงด้วยอาหารที่ผ่านการตัดต่อทางพันธุกรรมมีดีเอ็นเอจาก อาหารผ่านเข้าไปยังเซลล์บุผนังลำไส้ เม็ดเลือดขาว และเซลล์สมองเช่นเดียวกับเซลล์ของตัวอ่อนในครรภ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในมนุษย์เช่นกันและยังไม่มีใครทราบถึงผลกระทบในระยะยาว คำเเนะนำของผมคือเลือกซื้ออาหารออร์แกนนิก รับประทานอาหารสำเร็จรูปน้อยที่สุดและเยี่ยมเยือนร้านอาหารประเภทฟาสฟู๊ดให้น้อยที่สุด หากคุณเป็นกังวลมากคุณอาจจะติดต่อโรงงานผู้ผลิตและสอบถามให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ของเขาไม่ใช่อาหารที่ผ่านการดัดแปลงทางพันธุกรรมหรือมีส่วนประกอบจากจีเอ็มโอ
หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และอยากอ่านเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพิ่มเติม สามารถสนับสนุนดร.เอิร์ล มินเดลล์ (ผู้แต่ง) พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (แปล) ได้โดยการซื้อหนังสือวิตามินไบเบิล