น้ำตาลเป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่?

คุณสามารถขาดอาหารจากมะเร็งจนตายได้หรือไม่? งานวิจัยใหม่ได้ให้ความกระจ่างในสมมุติฐานเก่า
เผยแพร่ครั้งแรก 31 ธ.ค. 2016 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
น้ำตาลเป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่?

น้ำตาลเป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่? มันเป็นคำถามชี้นำ แต่คำตอบนั้นไม่ง่าย บทความนี้จะขออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างน้ำตาลและมะเร็งให้ทุกท่านได้ทราบกัน

เซลล์ที่แข็งแรง กับ เซลล์มะเร็ง

ทุกเซลล์ของคุณต้องการกลูโคส (น้ำตาลในเลือด) เพื่อใช้เป็นพลังงาน เซลล์ที่แข็งแรงจะเข้ามาตามวงจรชีวิตของการเจริญเติบโต การแบ่งเซลล์ และการตาย เหมือนกับใบไม้บนต้นไม้ เซลล์เก่าจะตายลงและถูกแทนที่ด้วยจำนวนที่เท่ากันของเซลล์ที่แข็งแรง มะเร็งโตขึ้นเมื่อเซลล์เก่าปฏิเสธที่จะตายแต่เลือกที่จะโต แบ่งตัว และ เติบโตในที่เดียวกัน จนเกิดเป็นเนื้องอก (Tumor)    

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

น้ำตาลเป็นสาเหตุทำให้มะเร็งโตหรือไม่?

ความคิดที่ว่าเซลล์มะเร็งเจริญเติบโตในน้ำตาล มีมาตั้งแต่ประมาณช่วงการพิมพ์รายงานในปี 1924 ของ ดร. Otto Warburg's ในชื่อเรื่องว่า “On Metabolism of Tumors” Warburg ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล ในสาขานักชีววิทยาด้านเซลล์ ที่ได้สร้างสมมุติฐานว่าการโตของมะเร็งได้เกิดจากการที่เซลล์มะเร็งได้เปลี่ยนกลูโคสเป็นพลังงานโดยไม่ใช้อ็อกซิเจน นี่เป็นการยืนยันที่น่าสนใจในบางส่วนเพราะเรารู้ว่าเซลล์ที่แข็งแรงสร้างพลังงานโดยการเปลี่ยนกรดไพรูวิกและอ็อกซิเจน กรดไพรูวิกถูกออกซิไดส์ภายในไมโทคอนเดรียของเซลล์ที่แข็งแรง เนื่องจากเซลล์มะเร็งไม่ออกซิไดส์กรดไพรูวิก Warburg คิดว่ามะเร็งควรถูกพิจารณาเป็นความผิดปกติในการทำงานของไมโตคอนเดรีย

แต่นี่ไม่ใช่วิธีการทำงานของมะเร็ง มะเร็งเกิดจากการกลายพันธุ์ระดับยีน เช่น ที่เกิดในยีน BRCA1 และ BRCA2 ถึงแม้ว่าเซลล์ที่แข็งแรงและเซลล์มะเร็งจะเปลี่ยนอาหารของมันเป็นพลังงานในหลาย ๆ ช่องทาง แต่ความแตกต่างนี้เป็นผลกระทบไม่ใช่ต้นเหตุของมะเร็ง

น้ำตาลและโปรตีนทำให้เซลล์มะเร็งมีชีวิตอยู่ต่อไป

มีการพูดกันว่าเซลล์มะเร็ง (Cancer cells) นั้นไม่มีวันตาย เซลล์พวกนี้จะไม่จะไม่ตายไปตามระเบียบวิธีเหมือนกับที่เซลล์ที่แข็งแรงนั้นทำ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบ และอาจจะได้ค้นพบว่าเซลล์เนื้องอกนั้นทำอะไร เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเซลล์ตาย ในงานวิจัยผลแล็บที่มหาวิทยาลัย Duke เซลล์มะเร็งดูเหมือนว่าจะใช้การรวมกันระหว่างน้ำตาลและโปรตีนที่จำเพาะ เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตเมื่อมันควรจะตาย เซลล์มะเร็งพวกที่ดูเหมือนว่าจะใช้น้ำตาลในอัตราที่สูงเพื่อที่จะไม่ทำตามคำสั่งของเซลล์เพื่อที่จะตาย

การพัฒนายาเม็ดเคลือบน้ำตาลรักษามะเร็งแบบใหม่

ที่มหาวิทยาลัย Johns Hopkins University กลุ่มนักวิจัยดูหลาย ๆ วิธีในการตบตาเซลล์มะเร็งเพื่อที่จะให้มันโตช้าขึ้นมากและค่อย ๆ ให้มันฆ่าตัวมันเอง พวกเขาศึกษาเกี่ยวกับ กระบวนการเติมคาร์โบไฮเดรตในสายโพลีเปปไทด์ที่ผิดปกติ  คือการเซลล์มะเร็งนำน้ำตาลและโปรตีนมาไว้ด้วยกันเพื่อรักษาตัวพวกมันเองไว้อย่างไร เมื่อเซลล์เหล่านี้ได้ถูกให้ บิวทิเลต (เกลือ) กับคาร์โบไฮเดรต (ประกอบด้วยน้ำตาล) การเจริญเติบโตของพวกมันจะช้าลง ในการที่จะให้อาหารมะเร็งด้วยยาที่เกี่ยวข้องกับความตาย นักวิจัยผลิตโมเลกุลลูกผสม ที่ทำจากน้ำตาลเชิงเดี่ยวและ n-butyrate เพราะเซลล์มะเร็งดูดซึมน้ำตาลในทันทีทันใด เซลล์พวกนี้จุ่มเข้าไปในโมเลกุลใหม่ที่รบกวนความสามารถในการที่มันจะโตได้เรื่อย ๆ จนมันตาย

คณะทำงานของนักวิทยาศาสตร์อื่นได้ค้นคว้าเกี่ยวกับยาที่จะหาผลประโยชน์จากจุดอ่อนของมะเร็งสำหรับน้ำตาล ยาใหม่บางตัวอาจจะถูกให้ระหว่างการทำเคมีบำบัด เพื่อให้เซลล์เนื้องอกตอบสนองได้ง่ายต่อยารักษาเคมีบำบัด

ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้การเคลือบน้ำตาล บน "ควอนตัมดอท" หรือผลึกขนาดนาโนของยาที่จะเดินทางไปสู่ตับเท่านั้น และหลีกเลี่ยงอวัยวะอื่น ๆ เฉพาะน้ำตาลในขนาดที่น้อยนิดที่ช่วยให้ยาเข้าถึงเป้าหมายที่เฉพาะของร่างกาย ด้วยวิธีนั้น เพื่อลดผลข้างเคียง (side effects) และเพิ่มประสิทธิภาพของยา

จงเลือกน้ำตาลอย่างชาญฉลาดในมื้ออาหารของคุณ

น้ำตาลให้พลังงานแต่ไม่ได้ให้สารอาหารที่จำเป็นในการลดความเสี่ยงของมะเร็ง น้ำตาลธรรมชาติสามารถหาได้ในผลไม้และผลิตภัณฑ์นม ซึ่งสามารถเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ น้ำตาลผสม ประเภทที่ถูกเติมลงไปในอาหารระหว่างการแปรรูป เช่น น้ำตาลทรายขาว น้ำเชื่อมข้าวโพด และ น้ำผลไม้เข้มข้น ควรหลีกเลี่ยงหรือจำกัดการรับประทาน การรับประทานน้ำตาลแคลอรี่เกินขนาดสามารถนำไปสู่ภาวะโรคอ้วนและระดับอินซูลินสูง ซึ่งจะมีส่วนทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งของคุณ

การลดอาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ลูกกวาด ขนมเบเกอรี่ ซีเรียลผสมน้ำตาล และโซดาเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งของคุณ และหาความสมดุลในอาหารการกินของคุณด้วยอาหารจากพืช ปลา และโฮลเกรน (whole grains) ให้เป็นส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพที่มีความเชื่อมโยงในการลดความเสี่ยงของมะเร็ง

จุดที่สำคัญที่สุด

ไม่มีปัญหาถ้าคุณจะรับประทานน้ำตาลธรรมชาติบ้างในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะถ้ามันเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่มีสารอาหารมากแต่ให้พลังงานต่ำ เช่น นม หรือ ผลไม้ น้ำตาลในมื้ออาหารของคุณ ไม่ได้ทำให้มะเร็งโต การทำให้เซลล์ทั้งหมดขาดน้ำตาลจะไม่ฆ่าหรือป้องกันมะเร็ง การสร้างความสมดุลด้วยการทานอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหาร (nutritious foods) และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (regular exercise) ให้เป็นกิจวัตรจะสามารถให้น้ำหนักตัวที่มีสุขภาพดีแก่คุณ และระดับอินซูลินที่ปกติ และนี่คือวิธีการที่หอมหวานในการลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
The Link Between Sugar and Cancer. Verywell Health. (https://www.verywellhealth.com/cancer-loves-sugar-myths-and-facts-430032)
Cancer and sugar: A surprise connection or 50-year cover-up?. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/320156)
Cancer and Sugar: Is There a Link?. WebMD. (https://www.webmd.com/cancer/features/cancer-sugar-link#1)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป