สรรพคุณของยา pioglitazone
ยา pioglitazone เป็นยารักษาโรคเบาหวาน ชนิด thiazolidinedione หรืออาจเรียกว่าชนิด “glitazones” โดยยานี้จะใช้ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes) ยาจะออกฤทธิ์ในการช่วยให้ร่างกายกลับมาตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) ได้ดีขึ้น จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจะช่วยป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับไต, ตาบอด, ปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาท, การตัดขา และปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์ การควบคุมโรคเบาหวานอย่างเหมาะสมอาจช่วยลดวามเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด (heart attack) หรือโรคหลอดเลือดสมองได้ (stroke)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ยา pioglitazone สามารถใช้เป็นยาเดี่ยวหรือใช้ร่วมกับยารักษาโรคเบาหวานชนิดอื่นก็ได้ (เช่น ยา metformin หรือยาในกลุ่ม sulfonylurea เช่น glibenclamide)
โปรดปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้ยา pioglitazone
วิธีใช้ยา pioglitazone
อ่านคำแนะนำในการใช้ยาที่ได้รับจากเภสัชกรก่อนเริ่มใช้ยา pioglitazone และในทุกครั้งที่คุณไปรับยาซ้ำ หากคุณมีคำถามใดๆ ให้สอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกร
รับประทานยานี้ตามแพทย์สั่ง โดยสามารถรับประทานก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ โดยทั่วไปมักรับประทานวันละ 1 ครั้ง ขนาดยาที่คุณจะได้รับจะขึ้นกับสภาวะโรค, การตอบสนองต่อการรักษา และขึ้นกับว่าคุณกำลังใช้ยารักษาโรคเบาหวานชนิดอื่นอยู่หรือไม่ แพทย์จะปรับขนาดยาตามค่าระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อให้ได้ขนาดยาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ ดังนั้นขอให้รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
รับประทานยานี้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลการรักษาเต็มที่ โดยแนะนำให้รับประทานยาในเวลาเดิมของทุกๆ วัน
ถ้าคุณเป็นผู้ที่ใช้ยารักษาโรคเบาหวานชนิดอื่นอยู่ด้วย เช่น metformin หรือ sulfonylurea แนะนำให้ปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดว่าจะต้องหยุดยาเดิม หรือใช้ยาเดิมต่อไป รวมถึงจะเริ่มยาใหม่นี้อย่างไร นอกจากนี้แนะนำให้ปฏิบัติตามแผนการรักษาของแพทย์, คำแนะนำในการรับประทานอาหารที่ได้รับ รวมถึงโปรแกรมการออกกำลังกายที่แพทย์เป็นผู้แนะนำ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำตามแพทย์สั่ง โดยให้นำผลการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดไปให้แพทย์ดูในวันที่ไปพบแพทย์ด้วย แจ้งให้แพทย์ทราบหากพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดที่คุณวัดได้มีค่าสูงเกินไป หรือมีค่าต่ำเกินไป ซึ่งอาจต้องมีการปรับขนาดยา/ปรับการรักษา การรักษาด้วยยานี้อาจใช้เวลานาน 2-3 เดือนก่อนจะได้ผลการรักษาเต็มที่
ผลข้างเคียงของยา pioglitazone
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ เจ็บคอ, ปวดกล้ามเนื้อ, น้ำหนักเพิ่ม หรือมีปัญหาที่ฟัน หากอาการที่เกิดขึ้นเป็นเรื้อรังหรือมีอาการแย่ลง ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที
โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์พิจารณาสั่งยานี้ให้กับคุณ เพราะแพทย์ได้พิจารณาแล้วว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากยามากกว่าความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง และผู้ป่วยหลายรายที่ใช้ยานี้ไม่เกิดอาการข้างเคียงร้ายแรงจากยา
แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการข้างเคียงที่ร้ายแรง ได้แก่ มีปัญหาในการมองเห็น การมองเห็นแย่ลง เช่น ตาพร่า, กระดูกหัก, ปัสสาวะเป็นสีแดง, รู้สึกต้องการปัสสาวะอย่างเร่งด่วน, ปวดขณะปัสสาวะ
ยา pioglitazone อาจทำให้เกิดโรคตับได้ (พบได้น้อย) โดยให้แจ้งแพทย์ทันทีหากคุณมีอาการของโรคตับ ได้แก่ ปัสสาวะมีสีเข้ม, ตัวเหลือง ตาเหลือง, คลื่นไส้อาเจียนเรื้อรัง, ปวดท้อง
โดยทั่วไปยา pioglitazone มักไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycemia) โดยภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจเกิดขึ้นเมื่อได้รับยานี้ร่วมกับยารักษาโรคเบาหวานชนิดอื่น เช่น อินซูลิน (insulin) หรือยากลุ่ม sulfonylurea ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำจะเกิดได้ง่ายขึ้นถ้าคุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก, ออกกำลังกายมากเกินไป หรือได้รับพลังงานจากอาหารไม่เพียงพอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ คุณต้องรับประทานอาหารตามมื้อปกติ โดยไม่ข้ามมื้อใดมื้อหนึ่งไป โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรถึงคำแนะนำในการปฏิบัติตนหากคุณข้ามมื้อการรับประทานอาหารไป
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ได้แก่ เหงื่อออก, มือสั่น, หัวใจเต้นเร็ว, รู้สึกหิว, ตาพร่า, เวียนศีรษะ, เหน็บชาที่มือหรือเท้า แนะนำให้คุณพกน้ำตาลกลูโคสชนิดเม็ดติดตัวไว้เพื่อรักษาอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ หากคุณไม่มีน้ำตาลกลูโคสชนิดเม็ด ให้รับประทานผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลที่ดูดซึมได้เร็ว เช่น ลูกอมที่มีน้ำตาล หรือ น้ำผึ้ง หรือดื่มน้ำผลไม้ หรือดื่มน้ำอัดลมสูตรที่มีน้ำตาล (ต้องไม่ใช่ลูกอมหรือน้ำอัดลมสูตรปราศจากน้ำตาล) และให้แจ้งแพทย์ทราบทันทีเมื่อคุณมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อรักษาอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
อาการของภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูง (hyperglycemia) ได้แก่ กระหายน้ำ, ปัสสาวะบ่อย, สับสน, ง่วงนอน, หน้าแดง, หายใจเร็ว, หายใจมีกลิ่นผลไม้ หากเกิดอาการเหล่านี้ขึ้น ให้แจ้งแพทย์ทันที ซึ่งอาจต้องมีการปรับขนาดยาเพิ่ม
ปฏิกิริยาการแพ้ยานี้พบได้น้อย อย่างไรก็ตาม ให้รีบไปพบแพทย์หากคุณมีอาการของการแพ้ยา ได้แก่ ผื่น, คัน บวม (โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้น คอ), เวียนศีรษะ, หายใจลำบาก
เนื่องจากผลข้างเคียงที่กล่าวไว้ข้างต้นไม่ใช่ผลข้างเคียงทั้งหมดที่อาจเกิดขึ้น ดังนั้นถ้าคุณมีอาการอื่นนอกเหนือจากที่เขียนไว้ข้างต้น ให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ข้อควรระวังในการใช้ยา pioglitazone
หากคุณแพ้ยานี้ หรือแพ้ยาอื่น หรือสิ่งใดๆ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนการได้รับยา pioglitazoneผลิตภัณฑ์ยานี้อาจประกอบด้วยสารประกอบอื่นซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ได้ ปรึกษาเภสัชกรหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
ก่อนการใช้ยานี้ ให้แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของตัวคุณเอง โดยเฉพาะถ้าคุณเป็น โรคหัวใจ (เช่น โรคหัวใจล้มเหลว, อาการเจ็บหน้าอก), โรคตับ, มีน้ำในปอด, อาการบวม, โลหิตจาง, โรคตาบางชนิด (macular edema), มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
คุณอาจมีอาการตาพร่ามัว, เวียนศีรษะ หรือง่วงนอน เนื่องจากภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงเกินไป ห้ามขับรถ, ทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร หรือทำกิจกรรมใดๆ ที่ต้องใช้การตื่นตัว หรือการมองเห็นที่ชัดเจน จนกว่าคุณจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมดังกล่าวได้อย่างปลอดภัย
จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างการใช้ยานี้ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
อาจเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดขณะที่ร่างกายอยู่ในสภาวะเครียด (เช่น จากอาการไข้, การติดเชื้อ, การบาดเจ็บ หรือการผ่าตัด) แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพราะความเครียดของร่างกายที่เพิ่มขึ้นอาจจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแผนการรักษา, การใช้ยา หรือการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ให้แจ้งแพทย์หรือทันตแพทย์ทราบเกี่ยวกับยา อาหารเสริม สมุนไพร ที่คุณกำลังใช้อยู่ทุกครั้ง
ยา pioglitazone อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในผู้หญิง (มักเป็นที่ท่อนแขนส่วนบน, มือ หรือเท้า)
ยา pioglitazone เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงรอบประจำเดือน (กระตุ้นการตกไข่) และเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับวิธีในการคุมกำเนิดที่เชื่อถือได้ขณะใช้ยา pioglitazone
การใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ต้องพิจารณาแล้วว่ามีความจำเป็นเท่านั้น จึงจะใช้ยาได้ โดยให้ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ที่จะได้รับจากยานี้ แพทย์อาจพิจารณาเปลี่ยนเป็นยาฉีดอินซูลินแทนในระหว่างที่คุณกำลังตั้งครรภ์ โดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายานี้ผ่านไปยังน้ำนมได้หรือไม่ ดังนั้นให้ปรึกษาแพทย์ก่อนการให้นมบุตร
คำเตือนในการใช้ยา pioglitazone
ยา pioglitazone อาจเป็นสาเหตุของโรคหรือทำให้โรคหัวใจแย่ลง (หัวใจวาย) ซึ่งพบได้น้อย หากคุณมีอาการของโรคหัวใจล้มเหลว ให้รีบแจ้งแพทย์ทันที ได้แก่ หายใจถี่ หายใจหอบเหนื่อย ข้อเท้าบวม เท้าบวม อ่อนเพลียผิดปกติ น้ำหนักเพิ่มกะทันหัน หรือน้ำหนักเพิ่มผิดปกติ
ไม่แนะนำให้ใช้ยา pioglitazone ในผู้ป่วยที่มีภาวะของโรคหัวใจล้มเหลวบางชนิด ดังนั้นหากคุณเป็นโรคหัวใจล้มเหลว ให้แจ้งแพทย์ทราบก่อนการใช้ยานี้
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยา Actos (pioglitazone)
ผู้ป่วยที่มีสภาวะดังต่อไปนี้ ถือเป็นข้อห้ามในการใช้ยา pioglitazone ให้แจ้งแพทย์ทราบก่อนได้รับยา
- การติดเชื้อ
- มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- น้ำตาลในเลือดต่ำ
- หัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
- หัวใจล้มเหลวรุนแรง
- มีอาการหัวใจล้มเหลวรุนแรงเฉียบพลัน
- โรคตับ
- มีเลือดออกในปัสสาวะ
- มีไข้
- มีอาการบวมน้ำ
- กระดูกหัก
- โรคตา Macular Edema
- แพ้ยา pioglitazone
การใช้ยา pioglitazone ร่วมกับยาอื่น
ปฏิกิริยาอย่างรุนแรง (severe interactions)
รายการยาที่สามารถเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับยา pioglitazone ซึ่งมักไม่ใช้ร่วมกัน ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติม
- ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP2C8 อย่างรุนแรง (strong CYP2C8 inhibitors)
- ยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ CYP2C8 อย่างรุนแรง (strong CYP2C8 inhibitors)
- พืช gymnema (ผักจินดา หรือ ผักเชียงดา)
- ยา gatifloxacin
ปฏิกิริยาร้ายแรง (serious interactions)
รายการเหล่านี้อาจเกิดปฏิกิริยากับยา pioglitazone และทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติม
ปฏิกิริยาปานกลาง (moderate interactions)
รายการยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดความเสี่ยงขึ้นหากใช้ร่วมกับยา pioglitazone ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับข้อมูลเพิ่มเติม
- ยา rifamycins
- ยา insulin
- ยาในกลุ่ม quinolones บางชนิด
- ยา trimethoprim
- ยา leflunomide, teriflunomide
- ยา exemestane
- ยา pregabalin
- ยา bupropion
การได้รับยา pioglitazone เกินขนาด
หากใครก็ตามได้รับยานี้เกินขนาด และทำให้เกิดอาการร้ายแรง เช่น หมดสติ หรือหายใจลำบาก ให้รีบโทรเรียกรถพยาบาลที่สายด่วน 1669 ทันที
หมายเหตุ
ห้ามแบ่งยานี้ให้กับผู้อื่นใช้
เข้าร่วมเรียนโปรแกรมให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวาน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการควบคุมโรคเบาหวานด้วยการใช้ยา การปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการมาพบแพทย์ตามนัด
เรียนรู้เกี่ยวกับอาการของภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ รวมถึงวิธีในการรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำตามแพทย์สั่ง และนำผลการตรวจไปให้แพทย์ดูทุกครั้งที่ไปพบแพทย์
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่จะช่วยให้กระดูกแข็งแรง ได้แก่ การออกกำลังกายแบบยกน้ำหนัก, การรับประทานอาหารอย่างสมดุลซึ่งมีแคลเซียมและวิตามินดีอย่างเพียงพอ, หยุดการสูบบุหรี่ และจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ ให้ปรึกษาแพทย์ถ้าคุณต้องการรับประทานยาเม็ดแคลเซียม และวิตามินดีเสริม และปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการปรับพฤติกรรมที่อาจเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณ
ระหว่างการรับประทานยานี้ แพทย์จะนัดตรวจทางห้องปฏิบัติการ และ/หรือ การตรวจทางการแพทย์ เช่น การตรวจการทำงานของตับ, ระดับน้ำตาลในเลือด, ระดับน้ำตาลสะสมในเลือด, ค่าความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด, ตรวจตา ซึ่งแนะนำให้มาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง
หากลืมรับประทานยา pioglitazone
ถ้าลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่ถ้านึกได้เมื่อใกล้กับเวลาของมื้อถัดไปแล้ว ให้ข้ามมื้อที่ลืม และรับประทานมื้อถัดไปตามปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเป็น 2 เท่า
การเก็บรักษายา pioglitazone
เก็บรักษายาที่อุณหภูมิห้อง ห่างจากแสงแดงและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องอาบน้ำ เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่เทยานี้ทิ้งในห้องน้ำหรือในท่อระบายน้ำ ให้ทิ้งผลิตภัณฑ์ยานี้อย่างเหมาะสมเมื่อยาหมดอายุหรือเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้ยานี้อีก