โรคนี้เป็นโรคที่เกิดจากการที่ไขกระดูกไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดออกมาได้เพียงพอ
โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อเป็นความผิดปกติที่ไขกระดูกของร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดได้เพียงพอ ภายในเลือดของคนเราประกอบไปด้วยเม็ดเลือด 3 ชนิด ซึ่งอยู่ภายในน้ำเลือด เม็ดเลือดแดงทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ของร่างกายและนำคาร์บอนไดออกไซด์กลับมาจากเซลล์ (ไปที่ปอดเพื่อหายไปออก) เม็ดเลือดขาวทำหน้าที่ต่อสู่กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย เกล็ดเลือดเป็นชิ้นส่วนของเซลล์ที่ช่วยทำให้เกิดลิ่มเลือดเพื่อให้เลือดหยุดไหล เม็ดเลือดเหล่านี้มีอายุขัยที่แตกต่างกันไป และจะต้องมีเม็ดเลือดตัวใหม่ขึ้นมาทดแทนซึ่งจะถูกสร้างขึ้นที่ไขกระดูก หากไม่มีกระบวนการสร้างทดแทนแล้วนั้นจะทำให้เกิดปัญหากับร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจและปอด เลือดไหล และเกิดการติดเชื้อได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ความชุกและสาเหตุของโรค
โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ เป็นโรคที่พบได้น้อย เพียง 0.7-4.1 คนในล้านคน ต่อปี ข้อมูลจการายงานใน American Journal of Hematology รายงานในวารสาร Haematologica ได้ประมาณผู้ที่เป็นโรคนี้อยู่ที่ 2.34 คนต่อล้านคนต่อปีโรคนี้เกิดได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงเท่าๆ กัน และมักเกิดในผู้ใหญ่อายุระหว่าง 20-25 ปี และมากกว่า 60 ปี อ้างอิงจาก National Institute of Diabetes and Digestive and Kidney Diseases โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่ออาจเกิดจากการที่เซลล์ต้นกำเนิดในไขกระดูก ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการเจริญเป็นเม็ดเลือดที่ปกติ ถูกทำลาย และบ่อยครั้งที่ไม่ทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดการทำลายดังกล่าวนั้นคืออะไร อ้างอิงจากรายงานใน Haematologica ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะถูกเรียกว่าเป็น โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อแบบไม่ทราบสาเหตุ ในขณะที่หากทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคจะจัดอยู่ในกลุ่มโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อที่เกิดขึ้นภายหลังหรือได้รับทางพันธุกรรม กลุ่มโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อที่เกิดขึ้นภายหลังเป็นกลุ่มที่พบได้มากกว่ากลุ่มที่ได้รับทางพันธุกรรม อาจเกิดจาก
- สารพิษ เช่น benzene (สารเคมีซึ่งบางครั้งมีการใช้ในโรงงานและการสังเคราะห์ทางเคมี) ยาฆ่าแมลง และสารหนู
- ยาเคมีบำบัดและการฉายแสงสำหรับการรักษาโรคมะเร็ง
- โรคติดเชื้อหลายๆ โรคเช่นโรคตับอักเสบ, HIV และ Epstein-Barr virus (เชื้อประเภทหนึ่งของกลุ่ม herpes virus)
- โรคลูปัส, โรคข้ออักเสบชนิดรูห์มาตอยด์ หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกันอื่นๆ (โรคที่ระบบภูมิคุ้มกันเข้าโจมตีเซลล์ปกติในร่างกาย)
- การตั้งครรภ์
- ยาบางชนิด เช่นยาปฏิชีวนะบางตัว ยากดภูมิ และยาแก้อักเสบชนิดที่ไม่ใช้สเตียรอยด์ (NSAIDs)
- มะเร็งที่เกิดการแพร่กระจายไปที่กระดูก
สาเหตุของการเกิดโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อชนิดได้รับทางพันธุกรรมซึ่งพบได้น้อยมากนั้นเกิดขึ้นที่ยีนซึ่งสามารถส่งผ่านจากพ่อแม่สู่ลูกได้ ประกอบด้วย
- Fanconi anemia
- Diamond-Blackfan anemia
- Shwachman-Diamond syndrome
- Dyskeratosis congenita
อาการ
โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ สามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และมีผื่นที่ผิวหนังได้ นอกจากนั้นยังสามารถทำให้เกิดอาการซึ่งเกี่ยวข้องกับการมีเม็ดเลือดแดงต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ หรือเกล็ดเลือดต่ำได้ อาการเหล่านี้อาจรุนแรงตั้งแต่เริ่มต้น หรือค่อยๆ เป็นมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปก็ได้ อาการอ่อนเพลียเป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดของการมีเม็ดเลือดแดงต่ำ อาการอื่นๆ ประกอบด้วย
- หายใจเร็วและเจ็บหน้าอก
- มึนหัว โดยเฉพาะหลังจากเปลี่ยนจากท่านั่งหรือนอนเป็นท่ายืน
- ปวดหัว
- ผิวหนังซีด
- ปลายมือปลายเท้าเย็น
- อ่อนแรง
- ชีพจรเต้นเร็ว
เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เกิดโรคหัวใจที่รุนแรงได้ เช่นหัวใจเต้นผิดจังหวะ, เจ็บหน้าอก, หัวใจโต และหัวใจวาย การมีเม็ดเลือดขาวต่ำจะทำให้เกิดการติดเชื้อ ไข้ และอาการคล้ายหวัดที่สูงขึ้นและหายยากขึ้น
การมีเกล็ดเลือดต่ำจะทำให้
- ช้ำง่ายและเลือดออกง่าย
- เลือดหยุดยาก
- เลือดกำเดาไหล มีเลือดออกตามไรฟัน มีถ่ายเป็นเลือด หรือประจำเดือนมามาก
- เห็นจุดสีแดงเล็กๆ บนผิวหนัง
การวินิจฉัยและการรักษา
การตรวจเลือดสามารถตรวจพบการมีจำนวนเม็ดเลือดที่ต่ำ และความน่าจะเป็นที่จะเป็นโรคนี้ได้ และก็ไม่สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรค ในการวินิจฉัยโรคจะต้องทำการตัดชิ้นเนื้อจากไขกระดูกไปตรวจ โดยการใช้เข็มเข้าไปนำเนื้อเยื่อของไขกระดูกและกระดูก รวมถึงเลือดปริมาณเล็ดน้อยมาทำการตรวจภายใต้กล้องจุลทรรศน์ การรักษานั้นจะจำเป็นต้องทำเมื่อเป็นโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อขั้นรุนแรงซึ่งมีอาการแย่ลงเรื่อยๆ หรือทำให้เกิดอาการที่อันตรายถึงชีวิต ทางเลือกในการรักษามีไม่มาก ประกอบด้วย
- ยาซึ่งกระตุ้นไขกระดูก กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือป้องกันและรักษาการติดเชื้อ
- การให้เลือดเพื่อช่วยทำให้ปริมาณของเม็ดเลือดอยู่ในระดับที่เหมาะสม
- การปลูกถ่ายเลือดและไขกระดูก
คนที่มีภาวะซีดหรือเป็นโรคทาลัสซีเมียจะมีวิธีรักษาให้หายขาดไหม