ผักเชียงดา เป็นผักพื้นบ้านในภาคเหนือของประเทศไทย ด้วยความที่หาง่าย และนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย จึงทำให้ได้รับความนิยมจากคนในพื้นที่มาก นอกจากนี้ประเทศญี่ปุ่นก็ได้ให้ความสนใจสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือดของผักเชียงดาเป็นอย่างยิ่ง
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gymnema inodorum (Lour.) Decne.
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ชื่อวงศ์ APOCYNACEAE
ชื่ออังกฤษ Gymnema
ชื่อท้องถิ่น เจียงดา ผักเจียงดา ผักเซียงดา ผักกูด ผักจินดา ผักเซ่งดา ผักม้วนไก่ ผักเซ็ง ผักว้น ผักฮ่อนไก่ ผักอีฮ่วน เครือจันปา
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของผักเชียงดา
ผักเชียงดาเป็นไม้เถาเลื้อย ลำต้นเมื่อยังอ่อนมีสีเขียวเข้ม แต่ทุกส่วนของลำต้นที่อยู่เหนือดินมียางสีขาว ขนาดของลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-5 เซนติเมตร ใบเดี่ยว ออกคู่ตรงกันข้าม ใบรูปหอกกว้าง ปลายใบเรียวแหลม โคนใบโค้งมนหรือเว้าเล็กน้อย ขอบใบเรียบ ผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ก้านใบยาว 3.5-6 เซนติเมตร ใบกว้าง 9-11 เซนติเมตร ใบยาว 15-19 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อกระจุกจากซอกใบ ดอกย่อย กลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกสีขาว สีเหลืองอ่อน หรือเหลืองอมส้ม เกสรตัวผู้เป็นกระจุกแน่น ผลเมื่ออ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีน้ำตาลคล้ำ มี 2-3 เมล็ด
คุณค่าทางโภชนาการของผักเชียงดา 100 กรัม
ให้พลังงาน 60 แคลอรี
- โปรตีน 5.4 กรัม
- ไขมัน 1.5 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 6.2 กรัม
- ใยอาหาร 2.5 กรัม
- วิตามินบี 1 981 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.32 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 1 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 153 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 78 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 2.3 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 98 มิลลิกรัม
ที่มา: สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สรรพคุณของผักเชียงดา
แต่ละส่วนของผักเชียงดา สามารถนำมาปรุงเป็นยาได้ โดยมีวิธีทำและสรรพคุณดังนี้
- นำใบสดของผักเชียงดามาตำให้ละเอียดใช้พอกบริเวณกระหม่อม เพื่อบรรเทาอาการไข้หวัด หรือนำไปประกอบในตำรายาแก้ไข้อื่นๆ เช่น บอระเพ็ด กระดอม สะเดา เป็นต้น
- ผลของผักเชียงดา มีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ โดยนำผลไปตากแห้ง จากนั้นบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้ง น้ำมะนาวและเกลือเล็กน้อย นำมากวาดคอ จะช่วยทำให้ชุ่มคอ ลดอาการไอ บรรเทาอาการหอบหืด
- ต้นของผักเชียงดา มีสรรพคุณเป็นยาแก้หลอดลมอักเสบ แก้ไอ แก้ปอดอักเสบ ขับปัสสาวะ แก้อาการบวมน้ำ โดยนำทั้งต้นมาต้มในน้ำเดือด แล้วดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันไม่เกิน 14 วัน
- หัวใต้ดินของผักเชียงดา มีรสมันขม มีสรรพคุณเป็นยาแก้พิษอักเสบ พิษร้อน ช่วยดับพิษกาฬ แก้พิษไข้เซื่องซึม และแก้เริม โดยนำส่วนหัวใต้ดินมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด แล้วดื่มก่อนอาหารวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกัน 3-7 วัน
ฤทธิ์ลดน้ำตาลของผักเชียงดา
ในผักเชียงดามีสารสำคัญชื่อ Gymnemic acid ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งการขนส่งน้ำตาล ชะลอการดูดซึมน้ำตาลบริเวณลำไส้เล็ก กระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมเบต้าเซลล์ในตับอ่อน ทำให้มีการหลั่งอินซูลินเพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้น้ำตาลในเลือดลดลง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาทางคลินิกในอาสาสมัครสุขภาพดี พบว่าหลังจากอาสาสมัครดื่มชาที่ได้จากใบเชียงดาอบแห้ง มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อรับประทานต่อเนื่อง 28 วัน สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับประทาน
อย่างไรก็ตาม การศึกษาฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของผักเชียงดาในผู้ป่วยเบาหวานยังมีไม่มากนัก แต่ก็สามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในขั้นต้นได้เช่นกัน
การนำผักเชียงดามาปรุงอาหาร
ยอดผักเชียงดาสามารถนำรับประทานแบบสด หรือนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายชนิด เช่น แกงส้ม แกงแค แกงเขียว แกงโฮะ แกงขนุน แกงเลียงกับปลาแห้ง หรือใส่ในต้มเลือดหมู
ในช่วงฤดูแล้งยอดอ่อนใบอ่อนและดอกของผักเชียงดาจะมีรสหอมหวาน แต่ในช่วงฤดูฝน ยอดอ่อนใบอ่อนและดอก จะมีรสเฝื่อน หลายคนจึงนิยมรับประทานผักเชียงดาเฉพาะช่วงคือฤดูแล้งเท่านั้น แต่หากต้องการรับประทานเพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการ แนะนำให้รับประทานผักเชียงดาใบอ่อนที่ไม่ผ่านความร้อน
ข้อห้ามและข้อควรระวังในการรับประทานผักเชียงดา
ผักเชียงดาเป็นผักพื้นบ้านที่นำมารับประทานเป็นเวลานาน ซึ่งก็ยังไม่เคยปรากฏรายงานความเป็นพิษจากการรับประทาน แต่หากผู้ป่วยเบาหวานที่รับประทานยาแผนปัจจุบันและต้องการรับประทานผักเชียงดาร่วมด้วย ควรรับประทานด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะเสริมฤทธิ์กับยารักษาเบาหวาน จนทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ