หากอาการเท้า หรือข้อเท้าบวมทำให้คุณเกิดความเมื่อยล้าในแต่ละวัน ลองดูวิธีการธรรมชาติที่จะแนะนำต่อไปนี้ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดบวมดังกล่าว
1. แช่เท้าในน้ำอุ่น
การบำบัดรักษาด้วยน้ำ หรือ "Hydrotherapy" เป็นวิธีการรักษาอาการต่างๆ ด้วยการใช้น้ำบำบัดภายนอกร่างกาย โดยเน้นการใช้น้ำร้อน และน้ำเย็นสลับกัน เนื่องจากน้ำอุ่นจะช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ในขณะที่น้ำเย็นจะทำให้เลือดหดตัว
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
วิธีแก้เท้าบวมผ่านการแก้เท้าในน้ำอุ่นจะช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต ซึ่งจะช่วยลด และป้องกันการสะสมของของเหลวบริเวณเท้า และข้อเท้า วิธีการคือ แช่เท้าในน้ำร้อนประมาณ 3-5 นาที
จากนั้นแช่น้ำเย็นประมาณ 30-60 วินาที สลับกันไปมาเป็นเวลา 15-20 นาที ทำเช่นนี้ 2 ครั้งต่อวัน จะทำให้อาการเท้าบวมดีขึ้น
2. ดีเกลือ หรือแมกนีเซียมซัลเฟต
เพิ่มความกระปรี้กระเปร่าจากการอาบน้ำด้วยการเติมดีเกลือ หรือแมกนีเซียมซัลเฟตลงไปในน้ำ เนื่องจากแมกนีเซียมซัลเฟตมีคุณสมบัติช่วยลดอาการบวมและปรับระบบการไหลเวียนโลหิตได้
นอกจากนี้มันยังสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่าย ทำให้เท้าของคุณผ่อนคลาย และหายจากอาการปวดบวม วิธีการคือ ผสมดีเกลือครึ่งถ้วยตวงลงในกะละมังหรืออ่างน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น แล้วแช่เท้าไว้ประมาณ 10-20 นาที ทำซ้ำเช่นนี้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะทำให้อาการดีขึ้น
3. ออกกำลังกาย
เป็นสัญชาตญาณของร่างกายอย่างหนึ่งที่เมื่อเท้า หรือข้อเท้าของเรามีอาการบวม เราจะรู้สึกอยากจะขยับร่างกายโดยอัตโนมัติ เนื่องจากการขยับเยื้อน และใช้กล้ามเนื้อบริเวณเท้ากับขาจะช่วยเคลื่อนย้ายของเหลวส่วนเกินไปยังบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย
ดังนั้นการออกกำลังกายเป็นประจำจึงช่วยป้องกันอาการเท้าบวมได้ แต่ถ้าการออกกำลังกายนั้นทำให้คุณรู้สึกปวดบริเวณที่บวม ลองออกกำลังแบบที่ไม่ต้องใช้เท้าพยุงน้ำหนักตัวมากเกินไป เช่น การว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้ร่างกายของคุณรู้สึกผ่อนคลายได้ด้วย
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
4. ผ้ายืดรัดเท้า หรือข้อเท้า
ผ้ายืดรัดเท้าหรือข้อเท้า มีลักษณะการทำงาน คือ ช่วยกด และกระตุ้นเท้า เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวมารวมอยู่ในบริเวณนั้นมากเกินไป และยังช่วยลดการรั่วไหลของของเหลวจากเส้นเลือดฝอย
คุณสามารถหาซื้อผ้ายืดรัดเท้า หรือข้อเท้าได้จากร้านขายยาทั่วไป อย่างไรก็ตาม หากมีอาการบวมน้ำในระดับกลางถึงระดับรุนแรงร่วมด้วย คุณควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการใช้และลักษณะของผ้ายืดรัดเท้าหรือข้อเท้าที่เหมาะสม
5. ยกเท้าสูง
การยกขาขึ้นให้อยู่เหนือระดับหัวใจในขณะที่คุณนั่งหรือนอนสามารถลดอาการบวมของเท้าได้ หรือลองนอนหงายแล้วยกขาของคุณพิงผนังไว้สัก 2-3 นาที สามารถทำได้หลายครั้งต่อวันตามที่ต้องการ นอกจากนี้ การใช้หมอนรองใต้ขาเวลานอนหลับก็ช่วยได้เช่นกัน
6. แมกนีเซียม
การขาดธาตุแมกนีเซียมอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเท้าบวม ลองปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวัดระดับแมกนีเซียมในร่างกาย ถ้าคุณมีภาวะขาดแมกนีเซียม ลองทานอาหารเสริมที่มีแมกนีเซียมปริมาณ 200-400 มิลลิกรัมต่อวัน
แต่หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับภาวะไตหรือโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แมกนีเซียม อย่างไรก็ตาม แมกนีเซียมมีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติทั่วไป เช่น ผักใบเขียว ถั่วต่างๆ เมล็ดธัญพืช ปลา ถั่วเหลือง กล้วย และช็อคโกแลต
7. ลดการรับประทานอาหารรสเค็ม
การลดปริมาณการบริโภคเกลือจะช่วยลดการกักเก็บน้ำภายในร่างกาย อาการเท้าบวมอาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าคุณอาจทานเค็มมากเกินไป อาหารที่มีส่วนผสมของเกลือจำนวนมาก ได้แก่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ขนมอบเพรสเซล
- มันฝรั่งกรอบ
- ขนมแพนเค้กที่ขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ต
- อาหารจานด่วน หรือฟาสฟู๊ด
- อาหาร ผัก หรือผลไม้กระป๋องต่างๆ
อย่างไรก็ตาม แพทย์สามารถให้คำแนะนำได้ว่าปริมาณเกลือเท่าไหร่ที่เหมาะสมกับร่างกายของคุณ
8. การนวดผ่อนคลาย
การนวดเท้าจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และเพิ่มการไหลเวียนโลหิต เป็นการกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลืองในร่างกายซึ่งสามารถช่วยเคลื่อนย้ายของเหลวส่วนเกินไปยังบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย และช่วยลดอาการบวมลงได้
คุณสามารถนวดเท้าตัวเองได้โดยการบีดนวด หรือลูบด้วยน้ำมัน โดยนวดเข้าหาลำตัว ทำได้หลายครั้งต่อวันเท่าที่ต้องการ ระวังอย่านวดหนักจนคุณรู้สึกเจ็บ แต่ให้ใช้วิธีการกดจุด หรือลูบให้ผ่อนคลาย
การนวดจะมีประสิทธิภาพมากหากทำระหว่างที่แช่ตัวในอ่างน้ำ ระหว่างอาบน้ำ หรือหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ
9. น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์
น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากมีส่วนประกอบของโพแทสเซียมสูงซึ่งจะช่วยลดการกักเก็บของเหลวที่เป็นสาเหตุของอาการเท้าบวมได้
วิธีการ คือ ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นที่ผสมน้ำส้มสายชูในปริมาณเท่ากัน แล้วพันเท้าไว้ อีกวิธีหนึ่งคือ หากคุณสามารถทนกลิ่นของน้ำส้มสายชูได้ ลองผสมน้ำส้มสายชู 2 ช็อนโต๊ะ กับน้ำดื่ม 1 แก้ว และน้ำผึ้งเล็กน้อย แล้วดื่ม 2 ครั้งต่อวัน จะช่วยให้อาการเท้าบวมดีขึ้นได้
10. ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
คุณคงแปลกใจว่าทำไมถึงยังต้องดื่มน้ำเยอะๆ ในเมื่ออาการเท้าบวมเกิดจากการสะสมของน้ำ แต่การดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน หรือการดื่มชาสมุนไพร สามารถช่วยล้างสารพิษ ล้างโซเดียม และของเหลวส่วนเกินออกไปได้ หรืออาจลองดื่มชาขิง หรือชาดอกแดนดิไลออนก็ช่วยได้
เนื่องจากขิงและดอกแดนดิไลออนเป็นพืชธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยขับของเสียและขับปัสสาวะได้ จึงเป็นการชะล้างปริมาณโซเดียมในร่างกายด้วย
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจนวด สปา จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android