เทศกาลกินเจ ควรกินเจอย่างไร ไม่ให้ร่างกายขาดโปรตีน

เผยแพร่ครั้งแรก 29 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 9 นาที
เทศกาลกินเจ ควรกินเจอย่างไร ไม่ให้ร่างกายขาดโปรตีน

เทศกาลกินเจเป็นช่วงเวลาประมาณ 9 วัน มักตรงกับเดือน 9 หรือเดือน 10 ในปฏิทินประเทศไทย โดยในปีนี้ เทศกาลกินเจ 2559 ตรงกันวันที่ 1 - 9 ตุลาคม 2559 ซึ่งการทานเจนั้นคือการเลือกรับประทานอาหารโดยการงดเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ โดยยึดหลักที่ว่าเป็นการงดการฆ่าสัตว์ ดังนั้นคนกลุ่มนี้จะงดการทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่ผู้ที่เลือกทานมังสวิรัติ(แทนการกินเจ)จะสามารถทานนม ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำนม รวมไปถึงไข่ได้ เพราะถือว่าไม่ได้เป็นการฆ่า

แต่อย่างไรก็ตามก็มีบางส่วน ที่เลือกจะไม่รับประทานผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย ซึ่งนั่นอาจจะส่งผลให้ร่างกายของพวกเขาขาดโปรตีนที่เป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานของร่างกายได้ ดังนั้นการเสริมโปรตีน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับคนที่กินเจเป็นประจำ หรือเลือกที่จะกินเจตลอดชีวิต ซึ่งวิธีการเสริมโปรตีนนั้นมีอยู่มากมาย

กินเจไม่ให้ขาดโปรตีน

เพราะโปรตีนเป็นส่วนสำคัญกับร่างกายมนุษย์ และเราได้รับโปรตีนส่วนใหญ่มาจากเนื้อสัตว์ ในช่วงกินเจนั้น โปรตีนจากเนื้อสัตว์ถือเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ก็ยังมีแหล่งของโปรตีนจากพืชหลายชนิด รวมไปถึงโปรตีนจากสินค้าแปรรูปบางอย่าง ที่สามารถให้โปรตีนได้เทียบเท่ากับโปรตีนจากสัตว์ ดังนั้นการหาโปรตีนจากทางอื่นเพื่อทดแทนการขาดโปรตีนในช่วงทานเจจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

โปรตีนจากถั่วและธัญพืช

ถั่ว และธัญพืชต่าง ๆ นับได้ว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ที่เราทุกคนสามารถค้นหาได้ง่ายที่สุด ถึงแม้ว่าโปรตีนจากพืชนั้น จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ยากกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็ตาม แต่การเลือกกินธัญพืช และถั่วเป็นประจำก็ช่วยได้มาก โดยเน้นในเรื่องของปริมาณให้มากขึ้น และควรมีถั่วและธัญพืช ผสมอยู่ในอาหารของทุกมื้อ ย่อมสามารถที่จะทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้อย่างสบาย

โปรตีนจากนมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง ถือเป็นนมหลักของผู้ที่กินเจ แต่ต้องเลือกเป็นนมถั่วเหลืองชนิดที่ไม่มีนมผงผสม ซึ่งน้ำนมถั่วเหลืองนั้นให้โปรตีนที่มากกว่า หรือเทียบเท่ากับนมวัว ดังนั้นในช่วงถือศีลกินเจเวลาอยากทาน ชา กาแฟ จากร้านขายกาแฟ ก็ควรจะบอกคนขายว่า ให้ใส่นมถั่วเหลืองเจแทนนมสด และเลือกใช้ครีมเทียมชนิดเจที่ทำจากนมถั่วเหลือง หรือไม่ก็สั่งอเมริกาโน่ (กาแฟดำล้วน) ดื่มแทนกาแฟแบบใส่นม

โปรตีนสังเคราะห์ทดแทน

ปัจจุบันโปรตีนสังเคราะห์ หรือโปรตีนเกษตร ที่นับได้ว่ากำลังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะจากกลุ่มคนที่กินมังสวิรัติและกินเจ และนอกจากโปรตีนเกษตรแบบที่เป็นเม็ด ๆ หรือเป็นก้อน ๆ อย่างที่เราเห็นเป็นประจำแล้ว ยังมีโปรตีนเกษตรที่ถูกดัดแปลง และถูกปรุงแต่งให้เหมือนกับเนื้อสัตว์จริง ๆ เพื่อช่วยให้กลุ่มคนที่กำลังทานเจหน้าใหม่ ได้กินโปรตีนสังเคราะห์ เพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ได้อย่างง่ายมากยิ่งขึ้น

โปรตีนจากนมพร่องมันเนย (เฉพาะมังสวิรัติ)

หากเลือกที่จะกินเจ การทานนมนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้าม แต่สำหรับคนที่กินมังสวิรัตินั้น การดื่มนม หรือทานอาหารที่มีส่วนผสมของนมนั้น ถือว่าไม่ผิดหลักการ เพราะการดื่มนมถือว่าไม่ใช่การฆ่า แต่อย่างไรก็ตามหากคุณกลัวว่าจะน้ำหนักขึ้น การดื่มนมพร่องมันเนยช่วยได้ ที่สำคัญยังเป็นการเสริมแคลเซียม ที่คนไม่กินเนื้อสัตว์มักจะขาดอยู่บ่อยๆด้วย

ตรวจสุขภาพหลังกินเจ

การย้ำเตือนว่าคนกินเจ ไม่ควรลืมที่จะตรวจสุขภาพอย่างเป็นประจำ เป็นเพราะคนที่กินเจ นอกจากจะเสี่ยงต่อการขาดโปรตีนแล้ว สารอาหารอื่นๆ ที่มีในเนื้อสัตว์ หรือส่วนประกอบของสัตว์ อย่างแคลเซียม และวิตามินบางชนิดที่ควรได้รับอาจขาดหายไป การพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะทำให้เรารู้ว่าควรกินเสริมอาหารใดบ้าง เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติ

การปรุงอาหารเจที่ถูกต้อง

การกินเจนั้นเป็นวัฒนธรรมอันยาวนานจากประเทศจีน ประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ยา = อาหาร ดังนั้นจึงพบว่าคนจีน คนไต้หวัน หลายๆ คนนั้นจะทานอาหารเจตลอดชีวิต เพราะว่าการทานอาหารเจถือเป็นศาสตร์การบำบัดโรคในแพทย์แผนจีน ที่สืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน หลักการแพทย์ของจีนจึงมุ่งเน้นไปที่การป้องกัน ไม่ให้ร่างกายเจ็บป่วย มากกว่าการรักษาร่างกายที่ป่วยไปแล้ว เพราะฉะนั้น การกินที่ถูกต้อง จึงส่งผลอย่างมากต่อสุขภาพร่างกายโดยรวม

 

ผักฉุน 5 ชนิด ที่คนกินเจห้ามทาน

ผักทั้ง 5 ชนิดถือว่าเป็น "ผักฉุน" ที่มีรสหนัก กลิ่นเหม็น (ในปัจจุบันมักจะใส่ในอาหาร เพื่อใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์) หากทานมากจะส่งผลต่อระบบธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย ทำให้อารมณ์แปรปรวน อวัยวะหลักทำงานไม่ปกติ ได้แก่

  1. กระเทียม ทุกส่วนของกระเทียม ส่งผลเสียต่อธาตุไฟ ทานมากอาจทำให้เกิดปัญหาต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกลุ่มโรคหัวใจ
  2. หัวหอม และต้นหอม ส่งผลเสียต่อธาตุน้ำ ทานมากจะส่งผลกระทบต่อไต ทำให้มีกลิ่นตัวแรง ความจำไม่ปกติ
  3. หลักเกียว หรือกระเทียมโทนจีน (ในไทยไม่ค่อยพบ) ส่งผลเสียต่อธาตุดิน ทานมากจะเกิดปัญหาต่อม้าม
  4. กุ้ยช่าย ส่งผลเสียต่อธาตุไม้ ทานมากจะเกิดผลกระทบต่อตับ
  5. ใบยาสูบ ข้อนี้รวมไปถึงสิ่งมึนเมา และของเสพติดทุกชนิด ส่งผลเสียต่อธาตุโลหะ ทานมากจะเกิดปัญหาต่อปอด

ถั่ว 5 สี ที่คนกินเจต้องทาน

ถั่ว 5 สีที่จะกล่าวนี้ เป็นเรื่องของการทดแทนการรับโปรตีน ซึ่งสารอาหารประเภทโปรตีนจากถั่วทั้ง 5 สีนั้นถือว่ามีปริมาณมากกว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ดังนั้นคนทานเจควรจะต้องทานเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายได้รับโปรตีนเพียงพอ แถมถั่วทั้งหมดนี้ยังทานแล้วอิ่มนาน ถือเป็นอาหารลดความอ้วนของหลายๆ คน

  1. ถั่วแดง (Red Beans) มีประโยชน์ต่อหัวใจ
  2. ถั่วดำ (Black Beans) มีประโยชน์ต่อไต
  3. ถั่วเหลือง (Soy Beans) มีประโยชน์ต่อม้าม
  4. ถั่วเขียว (Green Beans) มีประโยชน์ต่อตับ
  5. ถั่วขาว (White Beans) มีประโยชน์ต่อปอด
ควรรับประทานถั่วทั้ง 5 สีหมุนเวียนให้ครบ ทั้งใจช่วงกินเจและไม่กินเจ จะทำให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น

ความหมายของคำว่า "เจ"

คำไทยเรานิยมเรียกว่า "เจ" โดยมาจากคำจีนว่า แปลว่า บริบูรณ์ เรียบร้อย มีความหมายว่าบริสุทธิ์ เพื่อการสักการะ เพื่อการบูชา ไทยเชิงสัญลักษณ์จะหมายถึงว่า ร้านขายอาหารร้านนี้ไม่มีของคาว มักจะเขียนด้วยตัวอักษีสีแดงบนพื้นสีเหลือง เพราะชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นศิริมงคล และสีเหลืองคือสีของผู้ทรงศีล ดังนั้นกานำธงเจมาใช้เป็นสัญลักษณ์ในช่วงเทศกาลกินเจ จึงเป็นการแสดงออกถึง การรักษาศีล เจริญเมตตาธรรม และศิริมงคล

ดั้งเดิมคำว่า "อาหารเจ" นั้นจะต้องเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นมาจากพืชผัก ด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งใดๆ หากคนที่ทานเจแท้จริงแล้วนั้น อาหารมักจะจืด ไม่อร่อย แต่ในปัจจุบันมีการปรับปรุงรส ให้มีความหลากหลาย มีอาหารหลายประเภทให้เลือกทาน จึงเหมาะกับผู้ที่เริ่มทานเจ และผู้ที่อยากจะทดลองทานเจเป็นระยะเวลานานๆ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

สาเหตุสำคัญของการขาดสารอาหาร

หลายคนเชื่อว่า การรับประทานอาหารเจ จะทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะกินเจ หรือกินเนื้อสัตว์ ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคขาดสารอาหารเท่าๆ กัน แก้ไขโดยการเลือกทานอาหารให้ครบ และทดแทนอาหารที่ขาดด้วยอาหารประเภทอื่นๆ

สาเหตุของโรคขาดสารอาหารมีดังนี้

  1. บริโภคอาหารไม่ครบ 5 หมู่
  2. มีนิสัยกินตามใจ เลือกกินแต่อาหารที่ชอบ
  3. มีนิสัยกินอาหารเดิมซ้ำๆ
  4. ไม่ชอบทานผัก
  5. ชอบทานแต่ของทอด

จริงๆ แล้วการทานเจ ไม่ว่าจะในช่วงใดๆ ก็ตาม จะทำให้เราได้มีโอกาสกินพืชผักที่มีประโยชน์มากมายหลายชนิด ซึ่งเราอาจละเลยกินเนื้อสัตว์แทนในช่วงเวลาอื่นๆ หลายคนมีนิสัยเขี่ยผักทิ้ง เลือกกินแต่เนื้อ เลือกกินแต่ของทอด สิ่งเหล่านี้คือสาเหตุหลักของโรคขาดสารอาหาร ซึ่งแทบจะไม่เกี่ยวเลยกับการกินเจ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นคนชนนั้นใด เพศใด อายุเท่าใด หากไม่รู้จักการกินให้ถูกต้องครบถ้วน ก็มีโอกาสเป็นโรคขาดสารอาหารเหมือนๆ กัน

จุดมุ่งหมายของการกินเจ

  1. กินเจเพื่อสุขภาพ เพราะอาหารเจถือเป็นอาหารชีวจิต เป็นอาหาร Detox สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้ ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกายมีประสิทธิภาพ เพราะกากใยจากพืชผักนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่ก็ต้องระวังเรื่องของไขมัน ของทอด น้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารด้วย
  2. กินเจให้ได้เมตตา เพราะคนที่กินเจจะไม่ต้องกินเนื้อสัตว์ ไม่เบียดเบียนเพื่อร่วมโลก ทำให้จิตใจมีเมตตา มีคุณธรรม เกิดความรักตัวกลัวตาย ตระหนักถึงการทานเนื้อจากสิ่งมีชีวิต
  3. กินเจเพื่อละเว้นกรรม เพราะการทานเนื้อสัตว์ ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นผู้ฆ่าเอง แต่การจ้างให้ผู้อื่นฆ่า หรือการซื้อจากผู้อื่น ก็ถือเป็นกรรม เป็นบ่อเกิดแห่งโรคภัยไข้เจ็บ

ข้อห้าม คนกินเจ

การกินเจ ถือเป็นช่วงถือศีล เป็นเวลา 9 วันติดต่อกัน ในคนปกติอาจจะต้องใช้ความอดทนอย่างมาก ซึ่งเทศกาลกินเจนั้นมีข้อห้ามหลายอย่างนอกจากการงบกินเนื้อสัตว์ ที่ต้องทำให้ได้

  1. ห้ามกินผักฉุน 5 ชนิดตามที่กล่าวไป คือ กระเทียม, หัวหอม, หลักเกียว, คื่นฉ่าย และใบยาสูบ
  2. ห้ามดื่มสุรา ของมึนเมา รวมไปถึงเบียร์ทุกชนิด
  3. ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามพูกโกหก
  4. ละเว้นการฆ่าสัตว์ทุกชนิด
  5. ห้ามทานอาหารที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ เช่น ไข่ เนย นม ไขมันสัตว์ เลือด ฯลฯ
  6. ถ้วยชามระหว่างอาหารเจ และอาหารอื่นๆ จะต้องไม่ปนกัน
  7. ห้ามกินอาหารที่คนปรุงไมไ่ด้ถือศีลกินเจ
  8. ห้ามกินอาหารรสจัด
  9. ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง (ในโรงทานมันจะมีการจุดตะเกียง 9 ดวง ทั้งวันทั้งคืน ติดต่อกันนาน 9 วัน ในช่วงเทศกาลกินเจ)

ข้อห้ามทั้งหมดเป็นข้อห้ามสำหรับผู้ที่ถือศีลกินเจอย่างเคร่งครัด แต่หากคนเราทั่วไป อาจจะเลือกทำเฉพาะข้อที่สบายใจ เช่นการงดกินฝักฉุน และงบกินผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์เป็นหลัก

กินเจมีประโยชน์อย่างไร

นอกจากการได้ประโยชน์ของจิตใจ ในช่วงถือศีลแล้ว การทานอาหารเจติดต่อกันเป็นระยะเวลายาวนาน ก็ทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัว มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น

  1. อวัยวะสำคัญในร่างหาย ทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์ เพราะการงดกินผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ หัวใจ ตับ ม้าม ปอด ส่งผลให้อวัยวะข้างเคียงทำงานดีขึ้นคือ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี กระเพาะปัสสาวะ ลำไส้ใหญ่ และลำไส้เล็ก
  2. ร่างกายทนทานต่อสารพิษ เพราะคนที่ทานเจนานๆ มักพบการเกิดโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย น้อยกว่าคนทานเนื้อสัตว์ เช่นลดการเกิดโรค มะเร็งลำไส้ ริดสีดวงทวาร อาหารไม่ย่อย และมะเร็งกระเพาะอาหาร
  3. ระบบขับถ่ายดีขึ้น เพราะกากใยอาหารในพืชผัก จะช่วยให้สามารถขับถ่ายของเสียออกมาได้อีขึ้น และทำให้ระบบการย่อยอาหารเป็นกติ
  4. ผิวพรรณสดชื่นผ่องใส เพราะเลือดจะถูกฟอกให้สะอาด เซลล์ในร่างกายเสื่อสภาพช้าลง ร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดี
  5. ผู้ที่กินเจ มักจะมีความเมตตา ใจเย็น อารมสุขุม โมโหยาก
  6. หยุดการสร้างเจ้ากรรมนายเวร ไม่เกิดการจองเวร อาฆาต พยาบาท

ถือว่าการกินเจ นอกจากจะช่วยให้อิ่มท้องแล้ว ยังช่วยให้อิ่มบุญ อิ่มใจ ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง ผิวพรรณผ่องใส ทำให้สามารถใชีชีวิตได้อย่างราบรื่นและมีความสุข

กินเจภูเก็ต

ประเพณีถือศีลกินผัก ที่จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นประเพณียาวนาน สืบทอดกันมานับร้อยๆ ปี เดิมมีชื่อเรียกว่า "เจี๊ยะฉ่าย" มาจากความเชื่อของลัทธิเต๋า มีการประกอบพิธีในวันขึ้น 1 คำ - 9 ค่ำ ตามปฏิทินของจีน

(อ้างอิงจาก: http://www.phuketvegetarian.com)

นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ มักมาเที่ยวภูเก็ต เพื่อมาดูประเพณีกินผัก และการเดินแห่ประกอบพิธี คนทั้งเมืองจะแต่งกายด้วยชุดสีขาว พร้อมเยี่ยมชมพิธีกรรมในช่วงถือศีลกินผัก

  • พิธีป้างกุ้น เป็นพิธีการเชิญทหารมารักษาความปลอดภัย บริเวณการจัดการเทศกิลกินผัก มันจะทำกันในวันเริ่มต้นเทศกิลกินเจ
  • พิธีส่งเก๊ง เป็นพิธีสวดมนต์เช้าและเย็น โดยใช้บทสวดปักเต้าเก็ง มีการอ่านรายชื่อของผู้ที่เข้าร่วมพิธี
  • พิธีป่ายชิดแช พิธีของพลังจากดวงดาว มีการแจกผ้ายันต์ จุดหมายเพื่อขอให้ดวงดาวช่วยคุ้มครอง
  • การเล่นประทัด เป็นการเล่นประทัดเพื่อแสดงความต้อนรับขบวนแห่ประจำงาน โดยนิยมโยนประทัดใส่บนเสลี่ยง
  • พิธีโข้กุ้น พิธีเลี้ยงอาหารเจ เป็นพิธีเลี้ยงทหารที่เชิญมา โดยจะเริ่มเวลาหลังจากบ่าย 3 โมง มักมีอาหารประเภทหญ้าและถั่วรวมด้วย เพื่อเป็นอาหารของม้า
  • พิธีอิ้วเก้ง พิธีอวยพรให้ประชาชน โดยมีการเดินขบวนแห่ป้ายชื่อ ประชาชนจะคุกเข่าและอยู่ในอาการสงบนิ่ง เพื่อรับพร
  • พิธีโก้ยโห้ย เป็นพิธีลุยไฟ ตามความเชื่อว่าคือการชำระความสกปรกของร่างกาย
  • พิธีโก้ยห่าน พิธีต่อจากพิธีลุยไฟ ถือเป็นการสะเดาะเคราะห์ ผู้ที่ดำเนินการจะต้องตัดกระดาษเป็นสัญลักษณ์แทนตนเอง และเดินข้ามสะพาน ให้ผู้ที่ประทับตราที่ด้านหลังของเสื้อ
  • พิธีส่งพระ พิธีกรรมสุดท้ายของเทศกาลกินเจภูเก็ต ในตอนกลางคืนก่อน 5 ทุ่มจะมีการส่งองค์หยกฮ๋องซ่งเต่ และส่งองค์กิ้วฮ๋องไต่เต่กลับสวรรค์ รวมไปถึงพิธีเชิญทหารกลับกรมกอง

ผู้เข้าร่วมพิธีจะต้องถือศิลอย่างเคร่งครัด 10 ข้อในช่วงเทศกิลกินเจนี้ หากคนไทยคนไหน อยากไปสัมผัสเทศกาลกินผักที่ภูเก็ต ก็เชิญเที่ยมชมได้ในช่วงเทศกาลกินเจ

หลายคนมองว่าการกินเจ เป็นเพียงกระแสสั้นๆ ของคนที่อยากทำบุญเท่านั้น แต่ความจริงคือ การรับประทานผักและผลไม้ช่วยปรับระบบของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบขับถ่าย หรือระบบอื่นๆ เพราะผักและผลไม้ มีวิตามินและเกลือแร่ที่จำเป็นกับเรามากมาย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กวัยเจริญเติบโต คนป่วย หญิงตั้งครรภ์ หรือคนสูงอายุ การทานอาหาร 5 หมู่ให้ครบ ดูเหมือนว่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าการกินเจ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายต้องการโปรตีน และสารอาหารจากสัตว์เพื่อไปบำรุง เสริมสร้างส่วนที่สึกหรอให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
The vegetarian diet. NHS (National Health Service). (https://www.nhs.uk/live-well/eat-well/the-vegetarian-diet/)
High-Protein and Low-Carb Vegetarian Foods. Verywell Fit. (https://www.verywellfit.com/low-carb-vegetarian-protein-foods-2242496)
Low-protein diet: Foods to eat, foods to avoid, recipes, and safety. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/325197)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป