มะเฟือง (Starfruit) เป็นไม้พื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย และศรีลังกา มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม สูงประมาณ 6-15 เมตร ดอกมีสีชมพูอ่อนไปจนเกือบแดง มีกลิ่นหอม ผลอ่อนมีสีเขียว ส่วนผลสุกมีสีเหลือง รสชาติของมีทั้งเปรี้ยวฝาดและหวาน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ผลมะเฟืองมีลักษณะโดดเด่นตรงที่ผลเป็นทรงกระสวย เมื่อผ่าครึ่งจะเห็นเป็นรูปดาว
คุณค่าทางโภชนาการของมะเฟือง
ผล 100 กรัม ให้พลังงาน 31 แคลอรี่ มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- คาร์โบไฮเดรต 6.73 กรัม
- น้ำตาล 3.98 กรัม
- ใยอาหาร 2.8 กรัม
- ไขมัน 0.38 กรัม
- โปรตีน 1.04 กรัม
- ฟอสฟอรัส 12 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม
- สังกะสี 0.12 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 133 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 34.4 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 5 0.39 มิลลิกรัม
- โฟเลต 12 ไมโครกรัม
สรรพคุณของมะเฟือง
นอกจากคุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังมีประโยชน์สรรพคุณที่น่าสนใจอีกหลายอย่างดังต่อไปนี้
- ช่วยย่อยอาหาร เพราะมีใยอาหารสูง จึงช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่ายให้ทำงานได้ดีขึ้น การรับประทานบ่อย ๆ สามารถลดความเสี่ยงต่อโรคท้องผูก โรคริดสีดวงทวาร และโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
- ช่วยลดน้ำหนัก นอกจากใยอาหารที่ช่วยให้อิ่มท้องเร็ว ไม่หิวง่ายแล้ว ยังมีแคลอรีต่ำและเป็นแหล่งของโฟเลต,ไรโบฟลาวิน,ไพริด็อกซิน ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญ จึงช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
- ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด ภายในมีโพแทสเซียม ช่วยควบคุมน้ำในร่างกายและหัวใจให้เกิดความสมดุล และยังช่วยลดระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติ จึงช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย
- บรรเทาอาการปวด อาการปวดศีรษะ ปวดไมเกรน หรือปวดหลัง สามารถบรรเทาได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียม ซึ่งมะเฟืองเป็นผลไม้ที่มีแมกนีเซียมสูง การรับประทานจึงช่วยลดอาการปวดได้จริง
- เป็นสารต้านจุลชีพ จากงานวิจัยพบว่ามะเฟืองมีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ จึงสามารถรักษาโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย เช่น Salmonella typhus, e-Coli, Bacillus cereus ได้
- ช่วยต้านการอักเสบ เพราะมีสารซาโปนิน และฟลาโวนอยด์ ที่มีสรรพคุณต้านการอักเสบได้ โดยจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบที่เกิดขึ้นในร่างกาย เช่น โรคเกาต์ โรคปวดตามไขข้อ ให้ลดน้อยลง
- เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง มะเฟืองอุดมไปด้วยวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ร่างกายจึงแข็งแรงมากขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย
- ช่วยบรรเทาอาการไอ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ที่มีในมะเฟือง สามารถรักษาอาการไอและอาการระคายเคืองในลำคอได้ โดยนักโภชนาการแนะนำให้รับประทานในขณะที่มีอาการไอ หรือเป็นไข้หวัดร่วมด้วย เพื่อบรรเทาอาการให้หายเป็นปกติโดยธรรมชาติ
- ป้องกันโรคมะเร็ง มะเฟืองมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โดยจะยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกาย และกำจัดสารพิษต่างๆ ที่เป็นตัวการก่อมะเร็งให้หมดไป
- บำรุงผิว การรับประทานผลสดๆ สามารถบำรุงผิวพรรณได้ เพราะวิตามินซีในมะเฟืองจะช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวดูขาวกระจ่างใส และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยได้เป็นอย่างดี
- บรรเทาอาการนอนไม่หลับ ภายในมีแมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่จะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับสนิทได้ดียิ่งขึ้น
- ลดไขมันในเลือด ให้ผู้สูงอายุฝานมะเฟืองกินวันละ 3 ชิ้น (100 กรัม) ติดต่อกันนานถึง 1 เดือน ช่วยเพิ่มระดับ HDL ซึ่งมีหน้าทีดับจับคอเลสเตอรอลร้ายไปกำจัดที่ตับ ทำให้ปริมาณไขมันในเลือดลดลง
- ลดน้ำตาลในเลือดและสร้างไกลโคเจน อนุพันธ์กลูโคไพแรนโนไซด์ของเอพิจีนิน (apigenin-6-C-beta-l-fucopyranoside) ที่ได้จากผลมะเฟืองมีผลทันทีในการลดน้ำตาลในเลือดของหนูที่เป็นเบาหวาน และสามารถกระตุ้นการหลั่งสารอินซูลินอีกด้วย
แนวทางการใช้มะเฟืองเพื่อสุขภาพ
มะเฟืองสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสุขภาพได้อีกหลากหลายวิธี ได้แก่
- บรรเทาอาการปวดตามข้อ นำรากมาต้มในน้ำให้เดือด เคี่ยวให้เหลือน้ำในปริมาณที่ไม่มาก จากนั้นกรองเอาแต่น้ำมาดื่ม เมื่อดื่มเป็นประจำจะช่วยลดอาการปวดได้ดี
- ขจัดรังแค นำผลมาคั้นเอาแต่น้ำแล้วชโลมให้ทั่วศีรษะ จะช่วยขจัดรังแคบนหนังศีรษะ และยังช่วยลดอาการคันได้ดีอีกด้วย
- แก้อาการท้องร่วง นำแก่นมะเฟืองมาสับให้มีขนาดเล็ก ต้มกับน้ำจนเดือด กรองเอาน้ำที่ได้มาดื่มจนกว่าอาการจะดีขึ้น
- การใช้มะเฟืองบำรุงผิวหน้า สามารถใช้บำรุงผิวหน้าได้ มีสูตรการทำหลากหลายดังนี้
- น้ำหมักมะเฟือง มะเฟืองสด 3 กิโลกรัม ล้างสะอาด หั่นแว่นใส่ลงในภาชนะฝาปิด ใส่น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม และน้ำ 5 ลิตร หมักทิ้งไว้ 7 วัน สามารถนำมาทาบนใบหน้าได้ 15-20 นาที แล้วล้างออก
- มะเฟือง+น้ำผึ้ง คั้นมะเฟืองสด 1 ผล กรองเอาน้ำ ผสมกับน้ำผึ้ง ทาหน้า 15-20 นาที แล้วล้างออก สามารถมาร์กได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- มะเฟือง+มะนาว นำมะเฟืองปอกเปลือก สับละเอียด ผสมน้ำมะนาวแล้วนำมาพอกหน้า 10-15 นาทีแล้วล้างออก สามารถช่วยลดการอักเสบของสิวได้
- มะเฟือง+ดินสอพอง นำมะเฟืองปอกเปลือกปั่นละเอียด ผสมดินสอพอง 3-4 เม็ด น้ำมาพอกหน้า 20 ครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้ผิวหน้ากระชับขึ้น ลดสิว ลดริ้วลอย ให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น
เมนูสุขภาพจากมะเฟือง
นอกจากนำมารับประทานสด มะเฟืองยังสามารถนำมาประกอบอาหารอื่น ๆ ได้อีก เช่น
- น้ำมะเฟืองคั้นสด นำผลมะเฟืองแก่จัดมาล้างให้สะอาด หั่นและแกะเมล็ดออกแล้วนำไปใส่เครื่องปั่น เติมน้ำต้มสุก 1 ถ้วยตวง น้ำเชื่อม 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 กรัม ปั่นให้เข้ากัน
- สลัดมะเฟืองแช่เย็น นำโยเกิร์ต น้ำผึ้ง และน้ำมะนาวมาผสมรวมกันในชาม จากนั้นใส่มะเฟืองที่หั่นเป็นชิ้นบางลงไป ตามด้วยแอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่ ลูกพลัม และเนื้อส้มแมนดาริน นำไปแช่เย็นสักพัก ก็นำมารับประทานได้ทันที
- แยมมะเฟือง ตัดขอบที่มีปีกออกจากผล แล้วใส่ลงในกระทะ เติมน้ำเปล่าและต้มจนเดือดประมาณ 15 นาที ใส่น้ำตาล น้ำมะนาว และเกลือลงไป ต้มจนเดือดและเคี่ยวจนได้เนื้อมะเฟืองข้น เทลงในขวดที่ฆ่าเชื้อเพื่อเก็บไว้ใช้รับประทาน
ข้อควรระวัง
- มะเฟืองมีกรดออกซาลิกสูง ผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยที่ต้องฟอกไตไม่จึงควรรับประทาน เพราะอาจทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันได้
- ผู้ป่วยที่รับประทานยาลดไขมันและยาคลายเครียด ไม่ควรรับประทาน เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านประสิทธิภาพของยา
- สตรีมีมีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตร