กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD
นพ. ศักดิ์สิทธิ์ พรรัตนศรีกุล
ตรวจสอบความถูกต้องโดย
นพ. ศักดิ์สิทธิ์ พรรัตนศรีกุล

แหล่งวิตามินบำรุงผิว

แนะนำ 5 วิตามินบำรุงผิว และวิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์สูงสุด
เผยแพร่ครั้งแรก 12 ก.พ. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
แหล่งวิตามินบำรุงผิว

ผิวพรรณหมองคล้ำ ดูโทรม ไม่สดใสเปล่งปลั่ง เป็นหนึ่งในปัญหากวนใจของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน เนื่องจากต้องสัมผัสกับมลภาวะและสภาพอากาศที่ปนเปื้อนสารเคมีตลอดเวลา การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ และการรับประทานอาหารขยะหรืออาหารฟาสต์ฟู้ด (Fast food) ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวการทำลายผิวพรรณทั้งนั้น

การหันไปรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามิน เพื่อบำรุงผิวพรรณจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกน่าสนใจ ที่ไม่ใช่แค่สำหรับผู้หญิงเท่านั้น แต่ผู้ชายก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน โดยวิตามินหรืออาหารเสริมที่ช่วยฟื้นฟูหรือบำรุงผิว มีดังนี้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

5 วิตามินบำรุงผิว

1. กรดไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid: HA)

สารไฮยาลูรอนเป็นกรดที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ มีหน้าที่สำคัญคือ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่มและกระชับ แต่ภายหลังจากอายุ 25 ไปแล้ว ร่างกายจะสามารถผลิตกรดไฮยาลูรอนิกได้น้อยลง จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารเสริม หรือทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารดังกล่าว โดยประโยชน์อื่นๆ ของไฮยาลูรอน มีดังนี้

  • ลดเลือนริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้า
  • บำรุงอาการตาแห้งจากการใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานติดต่อกัน
  • ปกป้องผิวหน้าจากรังสี UV
  • สมานบาดแผลจากผิวไหม้ และแผลเปิด

วิธีรับประทาน

  • รับประทานไฮยาลูรอน 50-100 มิลลิกรัมต่อวัน ห้ามเกินปริมาณที่กำหนดเอาไว้

2. น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose oil)

น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเป็นสารสกัดมาจากกรดไขมันของเมล็ดต้นอีฟนิ่งพริมโรส สามารถนำมาใช้ในการดูแล และบำรุงผิวชุ่มชื้น ตั้งแต่สมัยโบราณ รวมถึงรักษาโรคต่างๆ เช่น ลดอาการปวดจากโรคไมเกรน ไขข้ออักเสบ บรรเทาอาการปวดก่อนมีประจำเดือน โรคผิวหนังอักเสบ สะเก็ดเงิน สิว โรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง คอเลสเตอรอลสูง เป็นต้น

วิธีรับประทาน

  • รับประทาน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน

3. สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape seed extract)

สารสกัดเมล็ดองุ่นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธภาพสูง เพราะในเมล็ดองุ่นนั้นมีสารฟลาโวนอยด์ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าวิตามินซีและวิตามินอี รับประทานเป็นประจำจะช่วยชะลอการแก่ก่อนวัย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดความเสื่อมของจอประสาทตาจากภาวะเบาหวาน

วิธีรับประทาน

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • รับประทานวันละ 100 มิลลิกรัม โดยแบ่งเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 50 มิลลิกรัม

4. โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10)

เป็นสารที่มีอยู่ในอาหารทะเล หรือน้ำมันถั่วเหลือง มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ สร้างพลังงานให้กับร่างกาย ลดเลือนริ้วรอย ป้องกันโรคความจำเสื่อม และชะลอความเสื่อมของเซลล์

ร่างกายควรได้รับคิวเทนอย่างเพียงพอ ไม่อย่างนั้นจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจากการที่เซลล์ไม่สามารถสร้างพลังงานทั้งภายนอกและภายในร่างกาย รวมถึงมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายลดลงอีกด้วย

วิธีรับประทาน

  • รับประทานวันละ 100 มิลลิกรัมต่อวัน ร่วมกับอาหารที่มีไขมัน เพราะโคเอนไซม์คิวเทนละลายได้ดีในไขมัน

5. คอลลาเจน (Collagen)

คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของกรดอะมิโน (Amino Acid) หลายชนิดต่อกัน โดยปกติร่างกายของเราจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น ขน และเส้นผม รวมไปถึงเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกาย แต่เมื่อปริมาณคอลลาเจนลดลงก็จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับผิวพรรณ  เช่น ผิวพรรณขาดความกระชับ หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และเกิดความหมองคล้ำ เป็นต้น

ประโยชน์คอลลาเจน เช่น ทำให้ผิวพรรณสุขภาพดี แข็งแรง ยืดหยุ่น เรียบเนียน ปกป้องความเสื่อมจากมลพิษ มลภาวะต่างๆ ลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้เซลล์ใต้ชั้นผิวหนังสามารถอุ้มน้ำและเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้เป็นเวลานาน

วิธีรับประทาน

  • รับประทานวันละ 5,000 มิลลิกรัมต่อวัน

ระยะเวลาสำหรับการรับประทานวิตามิน

การรับประทานวิตามินเพื่อบำรุงผิวพรรณให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรศึกษาว่าวิตามินแต่ละชนิดละลายในสารชนิดใด เช่น ในน้ำหรือไขมัน เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีขึ้น โดยเวลาการรับประทานวิตามินแต่ละชนิด ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของวิตามินนั้นๆ จึงควรอ่านฉลากก่อนรับประทานทุกครั้ง  

หากคุณมีประวัติการแพ้ยา วิตามิน หรือกำลังใช้ยาประจำตัวใดๆ อยู่ จะต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนเริ่มรับประทานวิตามินตัวใหม่ทุกครั้ง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยา หรือส่งผลต่อการทำงานของยาได้ 


17 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Skin health using vitamins, minerals, and other nutrients. MedicineNet. (https://www.medicinenet.com/script/main/art.asp?articlekey=50505)
6 Supplements or Vitamins for Hair and Skin Growth. Everyday Health. (https://www.everydayhealth.com/pictures/supplements-skin-hair/)
What are the best vitamins for skin?. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/324943)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป