June 25, 2019 07:02
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการปวดเกร็งที่ท้องนั้นไม่ใช่อาการที่จะบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ หรือถ้าหากมีการตั้งครรภ์อยู่จริงการปวดท้องในขณะที่เพิ่งตั้งครรภ์ใหม่ๆก็มักบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เช่น การแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก
อาการปวดเกร็งที่ท้องนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ลำไส้อักเสบ มีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ ไส้ติ่งอักเสบ ตัวอ่อนอักเสบ ฯลฯ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ รวมถึงอาจลองตรวจการตั้งครรภ์ดูเพื่อความแน่ใจด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด เช่น ถุงยางอนามัยรั่วซึม หรือ การหลั่งนอก ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการปวดท้องน้อยไม่ใช่อาการจากการตั้งครรภ์ค่ะ ถ้าประจำเดือนขาดและต้องการจะทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่นั้นสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้จากปัสสาวะค่ะ โดยตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด สำหรับอาการปวดท้องน้อยเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-จากโรคของอวัยวะสืบพันธุ์ในเพศหญิง ซึ่งพบได้บ่อยสำหรับอาการปวดท้องน้อย ได้แก่ อุ้งเชิงกรานอักเสบจากติดเชื้อ อาจมีอาการเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์เช่น ตกขาวผิดปกติ เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ หรือมีปัสสาวะแสบขัด เป็นต้น , หรือจากสาเหตุอื่น เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, มีซีสต์ในรังไข่ เนื้องอกในมดลูกหรือมะเร็งมดลูก, การท้องนอกมดลูก, แท้งบุตร เป็นต้น
-ระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ติดเชื้อในไต มีนิ่วในไต อาจมีอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะเป็นขุ่น ปัสสาวะเป็นเลือด เป็นต้น
-ระบบขับถ่าย อาจมีปัญหาที่ลำไส้เล็กหรือลำไส้ใหญ่ เช่น ไส้ติ่งอักเสบ ไส้เลื่อน ลำไส้อักเสบเรื้อรัง ถุงผนังลำไส้ใหญ่อักเสบ ท้องผูกเรื้อรัง มีอาการของระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
-ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น กล้ามเนื้ออักเสบ กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหดเกร็ง กระดูกเชิงกรานร้าวหรือแตกหัก
อาการปวดท้องน้อย เป็นอาการกว้างสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุที่กล่าวไปข้างต้นคร่าวๆ แต่ที่สำคัญต้องถามว่ามีอาการอื่นร่วมหรือไม่ ควรไปพบแพทย์และเล่าประวัติให้ละเอียด แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกาย และ/หรือ ตรวจพิเศษเพิ่มเติม เพื่อการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอนนี้ปวดท้องมากค่ะ ปวดเกร็งบริเวณหมดเลย เวลาเดินก็จะปวด หายใจก็ปวด และประจำเดือนก็ขาด31วันแล้วค่ะ อาการแบบนี้เป็นอาการของคนท้องหรือปล่าวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)