เคยได้ยินมาว่า เวลาตั้งครรภ์ ผู้หญิงมักจะเป็นริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์ (Hemorrhoids During Pregnancy) กันมาก สาเหตุที่มักจะเป็นริดสีดวงทวารในช่วงที่ตั้งครรภ์นั้นเกิดจากอะไร และจะมีวิธีรับมือป้องกันได้อย่างไรบ้าง
ริดสีดวงทวารคืออะไร?
ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoid) เป็นอาการที่เกิดจากผนังหลอดเลือดดำบริเวณใกล้ๆ รูทวารมีอาการบวม โป่งพอง อักเสบ เมื่อเกิดการโป่งพองมากขึ้นๆ ติ่งเนื้อนี้จะยื่นโผล่ออกมาทางทวารหนัก เวลาถ่ายอุจจาระออกมาจะไปเสียดสีกับผนังหลอดเลือดดำ หรือติ่งเนื้อที่โป่งพองนี้ ทำให้เกิดการเจ็บปวดตามมา
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ยิ่งออกแรงเบ่งอุจจาระมากเท่าไหร่ก็จะทำให้ติ่งเนื้อที่โป่งพองนี้บวม หรือโป่งพองมากยิ่งขึ้น และเสียดสีกับอุจจาระได้มาก จึงมีโอกาสแตกออกและมีเลือดสดไหลออกมาเวลาขับถ่ายได้
สาเหตุการเกิดริดสีดวงทวาร
การเกิดริดสีดวงทวารสามารถเกิดได้จากพันธุกรรม นอกจากนี้ยังเกิดจากพฤติกรรมดังต่อไปนี้
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เช่น รับประทานเนื้อสัตว์มาก แทบไม่รับประทานผักและผลไม้ ดื่มน้ำน้อย ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ ในปริมาณมากๆ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น มีความเครียด พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย
- พฤติกรรมการขับถ่าย เช่น ท้องผูก (ทำให้อุจจาระแข็ง) ต้องใช้การเบ่งมาก ทำให้หลอดเลือดบริเวณใกล้ทวารหนักต้องขยายตัวเกินไป
นอกจากนั้นหากอุจจาระแข็งมากก็จะมีผลทำให้เกิดการเสียดสีเวลาที่อุจจาระเคลื่อนตัวผ่านช่องทวารหนัก อาจทำให้ผนังหลอดเลือดฉีกขาด ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดตามมา
ริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้อย่างไร?
สำหรับผู้หญิงที่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ แม้ว่าจะเป็นคนที่ดูแลตัวเองดี ไม่ท้องผูก ไม่เบ่งอุจจาระ แต่เนื่องจากเมื่อตั้งครรภ์จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในร่างกายหลายอย่าง เช่น
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนหลายชนิดส่งผลให้หลอดเลือดดำมีการขยายตัวมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเพิ่มการคั่งของเลือดได้มากขึ้น
- การไหลเวียนโลหิตบริเวณช่องท้องและอุ้งเชิงกรานมีเพิ่มมากขึ้น
- ขนาดมดลูกใหญ่มากขึ้นตามอายุครรภ์ที่เพิ่มขึ้นๆ จะเกิดการกดทับเส้นเลือดดำในบริเวณอุ้งเชิงกรานทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่สะดวก ไม่มีการไหลกลับของโลหิตที่ไปเลี้ยงร่างกายส่วนล่างที่ต่ำจากสะดือ และมีโอกาสเกิดภาวะเลือดคั่งในเส้นเลือดดำ รวมทั้งเกิดการบวมบริเวณทวารหนักตามมา
- ร่างกายมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อวัยวะต่างๆ รวมถึงหลอดเลือดขยายตัวขึ้น ซึ่งก็รวมถึงเส้นเลือดตามมือ เท้า อวัยวะเพศและทวารหนักโป่งพองมากขึ้นอยู่แล้วตามธรรมชาติ
- ครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นทำให้ผู้หญิงบางคนไม่ออกกำลังกาย หรือเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง และเน้นการนั่ง หรือการนอนมากขึ้นแทน ทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวน้อยตามไปด้วย จึงมีโอกาสท้องผูกมากยิ่งขึ้น
ยิ่งอายุครรภ์เพิ่มขึ้น ท้องมีขนาดใหญ่มากขึ้นก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเป็น "ริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์ (Hemorrhoids During Pregnancy)" ให้มากขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์ไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์และไม่มีผลต่อการเจริญเติบโต หรือพัฒนาการของทารกในครรภ์แต่อย่างใด หากอาการไม่รุนแรงจนเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ตามมา เช่น โลหิตจาง ติดเชื้อในกระแสเลือด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ดังนั้นอาการ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นหากผู้หญิงขณะตั้งครรภ์เป็นริดสีดวงทวารได้แก่ เกิดความไม่สบายตัว สร้างความเจ็บปวดขณะขับถ่าย และมีอาการคันก้น หรือคันรูทวารได้
อย่างไรก็ตาม หากสงสัยว่าตนเองมีอาการเข้าข่ายริดสีดวงทวาร แต่ยังไม่มีเวลาไปพบแพทย์ หรือไม่สะดวกไปพบแพทย์อาจใช้บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ได้
บริการนี้นอกจากจะช่วยให้คุณคลายคงามกังวลใจลงได้แล้ว แพทย์ยังสามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นได้ว่า ควรปฏิบัติตัวอย่างไร หรือควรไปตรวจวินิจฉัยที่ใด
การป้องกันภาวะริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์
เพื่อให้การตั้งครรภ์ราบรื่น สบายใจ ไร้กังวลจากโรคริดสีดวงทวาร มีคำแนะนำดังนี้
- เวลานอนให้หาหมอน หรืออะไรก็ได้มาหนุนเท้าให้สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อไม่ให้มีอาการเลือดคั่ง
- พยายามอย่าให้เกิดภาวะท้องผูก ด้วยการหมั่นดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน
- รับประทานผักสดและผลไม้สดให้มากเพื่อเพิ่มกากใยอาหาร
- งดการดื่มชา กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำอัดลม
- พยายามฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา และควรขับถ่ายทุกๆ วัน
- ไม่ควรกลั้นอุจจาระ
- หากเริ่มมีอาการท้องผูก อาจปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ เช่น การใช้ยาถ่าย
- ออกกำลังกายเบาๆ ตามอายุครรภ์ที่สามารถทำได้ หรือเคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ตามความเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการยืน หรือนั่งในท่าเดิมๆ เป็นเวลานานๆ เพื่อลดอาการกดทับ อาจจะใช้การเดินสลับกับนั่งบ้าง เปลี่ยนอิริยาบถบ้างตามความเหมาะสม
โดยปกติแล้วหลังจากคลอดลูกออกมา หากเป็นคนที่ดูแลตัวเองมาอย่างดี อาการริดสีดวงทวารนี้ก็จะหายไปได้เอง
การรักษาริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม หากป้องกันแล้วแต่ยังเกิดริดสีดวงทวารอยู่ แนะนำการปฏิบัติตนดังนี้
- หลังจากขับถ่ายและทำความสะอาดแล้ว ให้หากะละมัง หรือหากมีอ่างอาบน้ำ ให้ลงไปนั่ง หรือนอนแช่ในน้ำอุ่นๆ ประมาณ 5-10 นาที จะทำให้ติ่งเนื้อที่พองออกมาสามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ทำบ่อยครั้งได้ตามสะดวก
- สามารถประคบเย็นตรงก้อนริดริดสีดวงด้วยแผ่นเจลเพื่อลดขนาดของริดสีดวงทวารได้ สิ่งสำคัญที่สุด ระหว่างตั้งครรภ์หากต้องจะใช้ยารักษาริดสีดวงทวารชนิดใดๆ ก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ก่อนเสมอเพราะยาบางชนิดอาจมีผลต่อทารกในครรภ์ได้
- รักษาความสะอาดบริเวณทวารหนักและทำให้แห้ง ใช้ทิชชู่เปียกทำความสะอาดบริเวณทวารหนักหลังจากขับถ่ายทุกครั้ง หมั่นดูแลให้ทวารหนักแห้งหลังจากการอาบน้ำ หรือขับถ่ายเสมอ เนื่องจากความชื้นที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้
ช่วงตั้งครรภ์เป็นช่วงที่คุณแม่ทุกคนต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงที่สุดเพราะสุขภาพของแม่ย่อมส่งผลไปถึงลูกน้อยในครรภ์ได้ ที่สำคัญเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ ห้ามละเลยการไปฝากครรภ์ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านอย่างเด็ดขาด เนื่องจากคุณหมอจะได้ดูแลครรภ์ไปจนกว่าจะถึงกำหนดคลอด
ริดสีดวงทวารเป็นโรคที่ใครๆ ก็มีโอกาสเป็นได้ ดังนั้นการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจและรักษาริดสีดวงทวาร จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android