โรคเยื่อยุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คืออะไร
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นภาวะที่มีเนื้อเยื่อลักษณะคล้ายกับเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญอยู่นอกมดลูก โดยมักพบที่รังไข่ ท่อนำไข่ ลำไส้ หรือผนังด้านนอกของมดลูก ผู้หญิงที่เป็นโรคนี้บางคนจะไม่มีอาการแสดงใดๆ ในขณะที่บางคนอาจมีอาการปวดท้องน้อย หรือเกิดภาวะมีบุตรยาก โรคนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ แต่มีการบรรเทาหลายวิธีที่อาจช่วยลดอาการปวด หรือเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้
อาการของผู้ป่วยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ และจะมีอาการปวดรุนแรงมากขึ้น
- มีเลือดออกผิดปกติขณะมีประจำเดือน เช่น ประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอย หรือประจำเดือนไม่มาเลย
- รู้สึกเจ็บขณะมีหรือหลังมีเพศสัมพันธ์
- ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
- ปวดท้องเวลาขับถ่าย ไม่ว่าจะปัสสาวะหรืออุจจาระ
- มีภาวะมีบุตรยาก
หากคุณมีอาการที่ใกล้เคียง หรือเข้าข่ายการเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการที่เกิดขึ้นทันที เพราะหากปล่อยให้อาการลุกลามรุนแรงขึ้น และคุณเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จริงๆ ภาวะนี้อาจนำไปสู่การมีเลือดสะสมตามอวัยวะที่เกิดเนื้อเยื่อเจริญผิดที่จนกลายเป็นสีคล้ำข้นคล้ายช็อกโกแลต และจะกลายเป็นถุงน้ำหากเกิดที่รังไข่ ซึ่งผู้หญิงหลายคนน่าจะรู้จักกันดีในชื่อ "ช็อกโกแลตซีสต์" (Chocolate Cyst)
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ยังไม่มีการทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า แท้จริงโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เกิดจากอะไร แต่ยังมีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการเกิดโรคนี้ได้ เช่น
- พันธุกรรม: ผู้ที่มีคนในครอบครัวเคยเป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มาก่อน จะมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเพิ่มขึ้นเป็น 6 เท่า
- ฮอร์โมน: โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งอาจเป็นตัวเสริมการเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้
- ปัญหาระหว่างการมีประจำเดือน: ผู้หญิงบางคนอาจมีการไหลย้อนกลับของประจำเดือน ซึ่งทำให้มีเนื้อเยื่อบางส่วนที่หลุดลอกระหว่างการมีประจำเดือนไหลย้อนกลับไปที่ท่อนำไข่ หรืออุ้งเชิงกรานได้ แล้วไปฝังตัวอยู่ตามท่อนำไข่ ผิวมดลูก ปากมดลูก หรือผนังอุ้งเชิงกราน นอกจากนี้ รอบการมีประจำเดือนและระยะเวลาที่ประจำเดือนมา รวมถึงอายุที่คุณมีประจำเดือนครั้งแรก ก็อาจเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้เช่นกัน ซึ่งได้แก่
- เริ่มมีประจำเดือนตั้งแต่อายุน้อย (ก่อนอายุ 11 ปี)
- มีรอบประจำเดือนสั้น (น้อยกว่า 27 วัน)
- มีประจำเดือนมากและเป็นนานกว่า 7 วัน
- ไม่มีลูก
โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่กับการตั้งครรภ์
ผู้หญิงหลายคนที่เป็นโรคนี้ย่อมต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับภาวะมีบุตรยากที่อาจเกิดขึ้น เพราะโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่สามารถทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ โดยสัดส่วนผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยากถึง 40% เป็นผู้ป่วยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โดยลักษณะความผิดปกติจะเกิดขึ้นจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ทำให้เกิดการอักเสบภายในจนอาจทำลายไข่ หรือไปขัดขวางการเคลื่อนที่ของไข่และอสุจิ ในผู้หญิงบางคนอาจมีพังผืดจากโรคนี้ แล้วไปอุดกั้นท่อนำไข่จนเกิดภาวะมีบุตรยากขึ้นมาได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ยังสามารถตั้งครรภ์ได้ โดยอาจผ่านวิธีใช้ฮอร์โมน หรือการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อเหล่านี้ออกไป
ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ผู้หญิงที่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่อาจมีอาการปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง จนส่งผลต่อการทำกิจวัตรประจำวันได้ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีการรักษาหลายวิธีที่อาจช่วยลดอาการปวดในผู้ป่วยได้ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีโรคบางโรคที่อาจพบได้มากในผู้ป่วยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ด้วย แต่นักวิจัยยังไม่สามารถระบุถึงความเกี่ยวข้องระหว่างโรคเหล่านี้กับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ได้
โรคที่อาจพบได้บ่อยในผู้ที่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ประกอบด้วย
- โรคภูมิแพ้และหอบหืด
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อม (Multiple Sclerosis: MS) โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเองหรือโรคลูปัส (Lupus) และภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism) บางประเภท
- กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome: CFS) และโรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้เกิดความอ่อนล้า อ่อนเพลียและมีอาการปวดเรื้อรังเกิดขึ้น
- โรคมะเร็งบางประเภท เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
การรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ยังไม่มีวิธีการรักษาที่ช่วยให้โรคนี้หายขาดได้ แต่มีการรักษาที่อาจช่วยบรรเทาอาการได้ ซึ่งการรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ส่วนที่ช่วยลดอาการปวด
- ส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาวะมีบุตรยาก
แต่การรักษาดังกล่าวอาจใช้ไม่ได้ผลในผู้ป่วยบางราย และยังพบว่าผู้ป่วยบางรายกลับมาเป็นโรคนี้ซ้ำอีกครั้งหลังจากได้รับการรักษาไปแล้ว ส่วนวิธีรักษาและบรรเทาอาการอื่นๆ จะมีดังต่อไปนี้
1. ยาแก้ปวดสำหรับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
ถ้าหากคุณมีอาการปวดเนื่องจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แพทย์จะแนะนำให้คุณซื้อยา หรือสั่งจ่ายยาแก้ปวดได้ตามความรุนแรงของอาการปวด โดยยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Non-Steroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) สามารถลดอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนได้ ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาประมาณ 1-2 วันก่อนเริ่มมีประจำเดือน ยาในกลุ่มนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายทั่วไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งยา และแพทย์อาจสั่งยาที่มีปริมาณฤทธิ์ยาสูงขึ้นหากจำเป็น โดยยากลุ่มนี้จะประกอบด้วย
และหากยา NSAIDs ไม่สามารถช่วยลดอาการปวดได้ ทางแพทย์อาจสั่งยาอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อช่วยในการรักษา เช่น ยาคุมกำเนิด
2. การรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ด้วยฮอร์โมน
การรักษาด้วยฮอร์โมน เป็นการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงที่มีอาการปวดจากโรคนี้ในระหว่างการมีประจำเดือนในปริมาณที่มาก ซึ่งการรักษาแบบนี้จะช่วยยับยั้งไม่ให้รังไข่สร้างฮอร์โมนได้ และอาจยับยั้งการตกไข่ด้วย รวมทั้งยังทำให้มีประจำเดือนลดลง สั้นลง และมาอย่างสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ยังมีการรักษาอีกทางเลือกหนึ่งคือ การใช้ยาในกลุ่มโกนาโดโทรปิน รีลีสซิ่ง ฮอร์โมน (Gonadotropin Releasing Hormone: Gn RH) โดยยาในกลุ่มนี้จะลดอาการปวดโดยการยับยั้งการมีประจำเดือน และลดปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย
การรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ด้วยฮอร์โมนอาจใช้ยาหลายรูปแบบ เช่น
- ยาคุมกำเนิด
- การฉีดยา
- การใส่อุปกรณ์คุมกำเนิด
- การติดที่ผิวหนัง
- การใช้ห่วงบริเวณช่องคลอด
- ยาพ่นจมูก
โดยแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาคุมกำเนิดอย่างต่อเนื่อง (ผู้ป่วยสามารถข้ามยาที่ไม่มีฮอร์โมนไปได้) เป็นเวลา 3 เดือน หรือนานกว่านั้น เพื่อช่วยควบคุมอาการของโรค แต่ผู้หญิงบางคนอาจได้รับผลข้างเคียงเล็กน้อยจากการรับประทานยาคุมกำเนิดได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของการรักษา เช่น
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ท้องอืดและมีน้ำหนักเพิ่ม
- มีเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างมีประจำเดือน
- คลื่นไส้
- เจ็บเต้านม
การผ่าตัดกับโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
การผ่าตัดเพื่อนำเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่เจริญผิดที่และพังผืดออก อาจเป็นทางเลือกในการรักษาสำหรับผู้หญิงที่มีอาการต่อไปนี้
- มีอาการปวดจากโรคนี้มาก
- มีอาการปวดที่ไม่ดีขึ้นจากการรักษาด้วยยา หรือฮอร์โมน
- มีก้อนโตในอุ้งเชิงกราน
- มีภาวะมีบุตรยาก ซึ่งเกิดจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดวิธีใดวิธีหนึ่งเพื่อช่วยลดอาการของโรค ซึ่งการผ่าตัดจะแบ่งเป็น 2 แบบ
1. การผ่าตัดผ่านกล้อง
การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopy) คือ การผ่าตัดที่ใช้บ่อยที่สุดในการรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เพราะเป็นการผ่าตัดเล็กและแผลจากการผ่าตัดยังมีขนาดเล็กด้วย ซึ่งแพทย์จะใส่เครื่องมือที่มีชื่อว่า "ลาพาโรสโคปี" (Laparoscope) ที่มีกล้องและไฟขนาดเล็กอยู่ภายใน หลังจากนั้นจะใช้อุปกรณ์ผ่าตัดขนาดเล็กตัดเนื้อเยื่อที่ผิดปกติออกไป
2. การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง
การผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (Laparotomy) เป็นการผ่าตัดใหญ่ที่แพทย์จะเลือกใช้ หลังจากได้ทำการรักษาด้วยวิธีอื่นหมดแล้วและอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้น โดยการผ่าตัดนี้จะทำการลงแผลขนาดใหญ่บริเวณหน้าท้อง เพื่อนำเนื้อเยื่อที่เจริญผิดที่ พังผืด รวมถึงรังไข่ ท่อนำไข่ หรือมดลูกที่มีการถูกทำลายออกมา ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ผ่าตัดด้วยวิธีนี้มักจะมีอาการปวดที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากได้รับการผ่าตัด แต่ในผู้ป่วยบางรายก็อาจกลับมามีอาการปวดอีกครั้งได้
อาการที่เป็นสัญญาณของโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มีความใกล้เคียงกับอาการปวดประจำเดือนในผู้หญิงบางคน เพราะแต่ละคนย่อมมีอาการข้างเคียงจากการมีประจำเดือนไม่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณรู้สึกว่าประจำเดือนของตนเองมีความผิดปกติ หรือมีอาการปวดท้องรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็น ให้คุณรีบไปพบสูตนรีแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยให้มั่นใจ ว่าภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้น มาจากโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือไม่
เยื่อบุโพรงมดลูกเกิดผิดที่เป็ยอย่างไรค่ะ รักษาด้วยวิธีดารไหนค่ะ