January 23, 2017 23:06
ตอบโดย
รัตน์พล อ่ำอำไพ (แพทย์เฉพาะทางสูตินรีเวช)
ในทุกๆรอบที่มีการตกไข่ฮอร์โมนในร่างกายจะกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมาดลูกหนาตัว เตรียมพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน และ หลุดลอกออกมากลายเป็นประจำเดือน
สำหรับสาเหตุของการเกิด เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่มีหลายทฤษฎีที่เราเชื่อกันในปัจจุบันมากที่สุดน่าจะเป็นการที่มี เลือดประจำเดือนไหลย้อนกลับขึ้นไปแล้วมันไปฝังตัวในเนื้อเยื่อในช่องท้องที่พบได้มากเจอบริเวณรังไข่หรือในอุ้งเชิงกรานครับ ซึ่งหากเกิดมี เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เวลาเราเป็นประจำเดือนบริเวณนั้นก็จะมีการเป็นหลุดลอกออกมาเป็นเลือดคั่งอยู่ในช่องท้อง หรืออุ้งเชิงกรานได้ เนื่องจากไม่สามารถระบายออกมาตามช่องคลอดตามปกติได้ทำให้เกิดการอักเสบในช่องท้องหรืออุ้งเชิงกรานเกิดเป็นพังผืดและมีการปวดท้อง น้อยในแต่ละรอบเดือนได้ครับ
หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้แล้วมีการรักษาหลายวิธีเช่นการใช้ยาแก้ปวดเพื่อรักษาอาการปวดท้องน้อยในแต่ละรอบเดือน หรือการใช้ยาฮอร์โมนเช่นยาคุมกำเนิดชนิดกินหรือชนิดฉีดหรือใช้ห่วงคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนผสมอยู่
ในกรณีที่มีก้อนถุงน้ำที่รังไข่หรือที่เราเรียกว่าช็อกโกแลตซีสเกิดขึ้นอาจจะรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อ เอาชิ้นเนื้อถุงน้ำรังไข่ออกมาทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหมอผู้ทำการรักษาด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
ทฤษฎีการก่อกำเนิดของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นั้นมีหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าเกิดจากการไหลย้อนทางของประจำเดือนผ่านท่อนำไข่เข้าไปฝังตัวอยู่ตามอวัยวะต่างๆภายในช่องท้อง โดยมักจะตกไปอยู่ในอุ้งเชิงกรานซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ต่ำสุดของร่างกาย เราจึงมักพบเยื่อบุโพรงมดลูกเหล่านี้เจริญเติบโตอยู่บริเวณรังไข่ และเยื่อบุช่องท้องทั้งด้านหน้าและด้านหลังของมดลูก ซึ่งใกล้กับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้นั่นเอง นอกจากนี้ เชื่อว่าเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกอาจกระจายไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆที่อยู่ไกลออกไปได้โดยผ่านทางหลอดเลือดและท่อน้ำเหลือง จึงอาจทำให้เกิดรอยโรคขึ้นได้ในต่อมน้ำเหลือง ปอด สมอง หรือแม้แต่ผิวหนัง
การวินิจฉัยโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จำเป็นต้องอาศัยการตรวจภายในและ/หรือการตรวจทางทวารหนักเป็นสำคัญเพื่อหาตำแหน่งและช่วยในการประเมินความรุนแรงของโรค ความผิดปกติที่อาจตรวจพบ ได้แก่ มดลูกโต คลำพบตุ่มแข็งกดเจ็บด้านหลังมดลูก มดลูกเอียงหรือคว่ำหลังจากการมีพังผืดดึงรั้ง และคลำพบก้อนหรือถุงน้ำบริเวณรังไข่ ในกรณีที่ผลการตรวจร่างกายยังไม่ชัดเจน แพทย์อาจทำการตรวจด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางช่องคลอดหรือทางทวารหนัก หรือแม้แต่การส่องกล้องตรวจภายในช่องท้องก็จะช่วยให้การวินิจฉัยแม่นยำขึ้น
แนวทางการรักษาโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ประกอบด้วย
1. การใช้ยา ได้แก่
– ยาแก้ปวดกลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ เพื่อช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและอาการปวดท้องน้อย
– ยาฮอร์โมน ซึ่งมีทั้งยากิน ยาฉีด และห่วงฮอร์โมนสำหรับใส่ในโพรงมดลูก ตัวอย่างเช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม โปรเจสติน danazol ยาฉีดคุมกำเนิด (DMPA) ห่วงฮอร์โมน (levonorgestrel) และยาฉีด GnRH agonist เหล่านี้ต่างก็ออกฤทธิ์กดการทำงานของรังไข่ ทำให้รอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่เกิดการฝ่อ จึงช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและอาการปวดท้องน้อยได้ แต่การรักษาวิธีนี้ย่อมมีผลให้ผู้ป่วยไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ในขณะที่ใช้ยา ดังนั้นหากผู้ป่วยต้องการมีบุตรจึงควรให้การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดเอารอยโรคออก
2. การผ่าตัด
จุดมุ่งหมาย คือ การตัดเอารอยโรคของเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ออกให้หมดหรือตัดออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และทำให้กายวิภาคของอวัยวะต่างๆในอุ้งเชิงกรานกลับมาเป็นปกติ ซึ่งวิธีมาตรฐานของการผ่าตัดรักษาเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ คือ การผ่าตัดผ่านทางหน้าท้องโดยใช้กล้อง เนื่องจากแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็ว และที่สำคัญคือมีโอกาสเกิดพังผืดภายหลังการผ่าตัดน้อยกว่าวิธีการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ยังต้องการมีบุตร ส่วนการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องนั้นควรใช้เฉพาะกรณีที่รอยโรคเป็นรุนแรงจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการใช้กล้อง และผู้ป่วยไม่มีความต้องการมีบุตรแล้ว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
กรณีที่ผ่าตัดมดลูกออกไปประมาณ4ปีแล้วแต่ยังมีอาการปวดท้องเหมือนมีประจำเดือนทุกเดือนก็จะปวดแบบนี้พอถึงเวลาและเพิ่งตะเริ่มมามีเลือดออกที่ช่องคลอดได้สองเดือนทั้งที่ปากมดลูกปิดไปแล้วจะต้องทำยังไงคะคือมีอาการปวดมากทุกเดือนที่ท้องด้านซ้ายและเวลาปัสสาวะจะปวดมากอุจจาระก็จะปวดท้องมากแต่ไปหาหมอๆบอกว่าเป็นพังผืดจากผ่าตัดแต่ตอนหลังเริ่มมีเลือดออกกระปริดที่ช่องคลอดไม่เยอะแต่เปื้อนกางเกงในได้ค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เยื่อบุโพรงมดลูกเกิดผิดที่เป็ยอย่างไรค่ะ รักษาด้วยวิธีดารไหนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)