July 15, 2019 07:42
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
การวินิจฉัยปวดหัว ควรต้องอาศัยการซักประวัติ ตรวจร่างกายจากเเพทย์ครับ เนื่องจากปวดหัวมีได้หลายโรคมาก บางครั้งมีสาเหตุซ่อนอยู่ บางครั้งก็ไม่มีสาเหตุ
.............
1. การปวดหัวที่ไม่ได้มีพยาธิสภาพซ่อนอยู่ พวกนี้มักไม่ได้อันตราย
เเต่จะรำคาญ รบกวนชีวิตประจำวัน เช่น
- ไมเกรน พวกนี้มักจะปวดหัวข้างเดียว(หรือสองข้างก็ได้)เเบบตุ้บๆเหมืนชีพจรเต้นได้ มีคลื่นไส้อาเจียน อาจมีอาการนำ เช่นเห็นเเสงวาบ ได้ยินเสียงผิดปกติ
- ปวดหัวเเบบTension จะปวดเหมือนมีอะไรมารัดหัว หนักหัว ปวดขมับได้ครับ
- หรือเส้นเลือดบริเวณขมับอักเสบ พวกนี้ปวดตุ้บๆที่ขมับได้ เเต่มักเกิดในคนอายุเยอะ มีอาการร่วมเช่นปวดกรมเวลาเคี้ยว ตาดับมองไม่เห็นบางครั้ง เห็นภาพซ้อน ไข้ต่ำๆครับ
- ปวดเส้นประสาทใบหน้า พวกนี้จะปวดเเปล๊บๆ ปวดเเสบร้อน ตามเเนวเส้นประสาท ตามหน้าผาก ตามกราม
- ปวดหัวเเบบCluster จะปวดทั่ว มักมีอาการเช่นคัดจมูก น้ำตาไหลร่วมด้วย
- อื่นๆเช่น ปวดกล้ามเนื้อเเล้วร้าวมาหัว เช่น Myofascial pain syndrome พวกนี้จะเกิดในคนนั่งทำงานออฟฟิซ อาการคือจะมีปวดคอปวดบ่า ร้าวมาศรีษะได้
- ปวดหัวจากการใช้สายตามาก สายตาล้า มีสายตาสั้นอยู่เดิม
............
หรือสาเหตุจากโรคอื่นๆเช่น ไซนัสอักเสบ บางทีมีไข้ เช่นพวกไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก ก็มีปวดหัวทั่วๆได้
............
พวกนี้กินยาจะพอบรรเทาได้ครับ หรือหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น
ถ้าอาการเป็นเเบบกลุ่มนี้หาเวลาไปพบเเพทย์ครับ
............
2.แต่ถ้า มีอาการเช่น ปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งวันหลังๆยิ่งปวดมากขึ้นเรื่อย มีไข้สูง มีเเขนขาอ่อนเเรงยกไม่ขึ้นมีปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว
หรือปวดมากจนทนไม่ไหวเลยใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ หรือมีประวัติศรีษะกระเเทกรุนเเรงมาก่อน
พวกนี้ต้องไปพบเเพทย์ทันทีครับ อาจมีพยาธิสภาพซ่อนอยู่ เช่น เนื้องอกในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือเลือดออกในสมองเป็นต้นครับ
............
เบื้องต้นถ้าไม่ได้มีอาการอันตราย ลองซื้อยา Paracetamol มารับประทาน ถ้ายังไม่หาย ปวดไม่ทุเลา เเนะนำ หาเวลาไปพบเเพทย์ครับ
ยาอีกกลุ่มที่พอใช้ได้ เเละสามารถซื้อได้จากร้านขายยา คือยากลุ่มNSAID เช่น Ibuprofen Naproxen Etoricoxib Celecoxib แต่ต้องระวัง คือห้ามใช้ยากลุ่มนี้กับผู้ป่วยที่สงสัยภาวะไข้เลือดออกครับ อาการคือ ไข้ ปวดหัวทั่วๆ ปวดกระบอกตา ปวดตัว คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร เป็นต้นครับ
ถ้าสงสัยไข้เลือดออกเเนะนำให้พบเเพทย์ เเละกินยาParacetamol จะปลอดภัยกว่าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการเวียนหัวและปวดหัว ต้องได้รับการซักประวัติอย่างละเอียด เกี่ยวกับลักษณะการปวดเพิ่มเติม อาการร่วมกับปวดหัว เช่น ตามัว อาเจียน แขนขาอ่อนแรง การเห็นแสงสิบวับ เป็นต้น รวมถึงต้องตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียดด้วยครับ จึงตะสามารถวินิจฉัยและรักษาได้อยาางตรงจุด ตัวอย่างโรคเกี่ยวกับการปวดหัว
สำหรับคนไข้ อาการที่นึกถึงได้ 3 อย่าง ในขณะนี้ คือ
1) tension headache เป็นการปวดศรีษะชนิดหนึ่ง ที่พบได้บ่อยที่สุด วินิจฉัยโดยอาศัยลักษณะ อาการปวดโดยมักจะปวดตื้อๆ บีบๆเริ่มจากบริเวณท้ายทอยร้าวไปขมับ สองข้าง
บางครั้งอาจจะกดเจ็บบริเวณหนังศรีษะร่วมด้วย มักมีสาเหตุเกิดจากความเครียด การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ
การรักษาคือการให้ยาบรรเทาปวด การลดความเครียด การฝึกยืดกล้ามน้อยคอ และพักผ่อนให้เพียงพอครับ
2) อาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง คือ กล้ามเนื้อส่วนท้ายทอย และบริเวณไหล่สองข้าง มักเกิดจากท่าทางการทำงานที่ทำซ้ำๆ เช่น การทำงานออฟฟิซ ทำให้กล้ามเนื้อแข็ง เกร็งท่าเดิมบ่อย จนปวดลามไปที่ศรีษะ การรักษาคือ การใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ และกายภาพบำบัด รวมถึง การปรับท่าทางการทำงานให้ถูกต้องครับ อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่า โรคปวดศรีษะ มีมากมายหลากหลาย ต้องอาศัยการซักประวัติและการตรวจร่างกายทางระบบระสาทอย่างละเอียดครับ ซึ่งการรักษาก็ขึ้นกับว่าวินิจฉัยเป็นโรคอะไรครับ หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นนั้นเข้าได้กับอาการที่กล่าวทางด้านต้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
3.-cluster headache เป็นการปวดหัวอีกแบบหนึ่ง ที่คนไข้ จะมีอาการปวดหัวมากๆ จะข้างเดียว หรือสองข้างก็ได้ ลักษณะคือ จะปวดรอบตาก่อน และอาจกระจายไปปวดที่อื่นๆของใบหน้าและศรีษะ คนไข้บางคนอาจปวดมากจนน้ำตาไหล เหงื่อไหล บางคนอาจปวดจนตื่นมากลางคืนครับ ระยะเวลาของช่วงที่ปวดแตกต่างกัน อาจปวดได้นานเป็นช่วงๆ ช่วงละ 30-90 นาที ยาวนาน6-12 สัปดาห์ครับ
สาเหตุของการปวดหัวชนิดนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ
การรักษาเบื้องต้น ได้แก่ การทานยาแก้ปวด งดดื่มแอลกอฮอล์ ( เพราะบางตำราเชื่อว่า แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของอาการปวดได้) การให้ยาโดยแพทย์ มักเป็นยากลุ่ม triptans หรือ การให้ออกซิเจน จะช่วยบรรเทาอาการได้ครับ
อย่างไรก็ตาม โรคปวดศรีษะ มีมากมายหลากหลาย ต้องอาศัยการซักประวัติและการตรวจร่างกายทางระบบระสาทอย่างละเอียดค่ะซึ่งการรักษาก็ขึ้นกับว่าวินิจฉัยเป็นโรคอะไรค่ะ หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นนั้นเข้าได้กับอาการที่กล่าวทางด้านต้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีอาการเหล่านี้ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
1.ปวดมาก ปวดตลอดเวลาไม่มีช่วงที่หายสนิทเลย
2.ปวดจนสะดุ้งตื่น ขึ้นมากลางดึก หลังจากที่หลับไปแล้ว
3.มีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่นชักเกร็งกระตุก คลื่นไส้ มีอาเจียนพุ่ง หนังตาตก แขนขาอ่อนแรงหรือชาเป็นต้น
4.มีไข้
5.มีอุบัติเหตุกระทบกระแทกศรีษะ
5.มีโรคประจำตัวบางอย่างเช่น มะเร็งชนิดต่างๆ โรคเลือด โรคติดเชื้อ HIV เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปวดหัวบริเวณข้างซ้าย มีความรู้สึกปวดตรงเส้นบริเวณท้ายทอยรวมถึงไหล่ด้วย เป็นมาประมาณ2-3 เดือน แต่ละเดือนก็ปวดอยู่2-3วัน แต่เมื่อคืนปวดไปถึงเบ้าตาจนตื่นนอนกลางดึกเลยค่ะ สงสัยว่าเป็นโรคอะไรและควรไปพบแพทย์ไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)