การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอจัดเป็นโรคติดเชื้อชนิดหนึ่ง แต่มักฟื้นตัวเร็ว ไม่มีการลุกลามเป็นชนิดเรื้อรัง หรือทำให้เกิดภาวะตับแข็ง ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเฉพาะด้าน ไม่มีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
ลักษณะของไวรัสตับอักเสบเอ
เชื้อไวรัสตับอักเสบเอสามารถทนสภาวะความเป็นกรดได้ดี ทำให้สามารถเข้าสู่กระเพาะอาหารได้ และถูกส่งต่อไปยังลำไส้ รวมถึงตับซึ่งเป็นจุดหมายของมัน เมื่อถึงตอนนี้มันจะเพิ่มปริมาณ ทำให้ตับเกิดความผิดปกติ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
นอกจากทนกรดได้ดีแล้ว เชื้อไวรัสตับอักเสบเอยังทนความแห้ง ความร้อนได้ดี แต่ไม่ทนสารฟอร์มาลีน (Formalin) และรังสียูวี (Ultraviolet: UV) อีกทั้งมีลักษณะเด่นอีกอย่าง คือ ถ้าเป็นแล้วจะไม่เป็นซ้ำ เพราะร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันได้ตลอดชีวิต
การติดต่อของเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ
ทวีปแอฟริกา เอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย อเมริกากลาง และใต้ จัดว่าเป็นเขตที่มีการติดต่อไวรัสนี้มากกว่าแถบอื่นๆ โดยมีพาหะหลักๆ มาจากอาหารการกินที่ไม่สะอาด และปนเปื้อนเชื้อ
แต่ส่วนประเทศที่พัฒนาแล้ว มีระบบการบำบัดน้ำเสีย ไม่มีการถ่ายอุจจาระลงน้ำ ก็จะช่วยลดปัญหาการแพร่เชื้อไปได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้อพยพ หรือหลบหนีเข้าเมืองโดยมีสุขอนามัยร่างกายสกปรก ไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบคือ สาเหตุของการแพร่เชื้อสำคัญไปยังประเทศอื่นๆ
ดังนั้น หากต้องเดินทางไปยังแหล่งที่มีความเสี่ยงของโรคนี้ ควรฉีดยาป้องกันไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นหลังจากเดินทางกลับมา ตนเองก็จะกลายเป็นตัวแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นอย่างรวดเร็ว
อาการผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ
เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยังไม่ปรากฏอาการขึ้นมาทันที ยังต้องใช้ระยะฟักตัวประมาณ 1 เดือน (ระยะฟักตัว หมายถึง ระยะตั้งแต่เชื้อเข้าสู่ร่างกายจนปรากฏอาการ) แล้วก็ทำให้เกิดตับอักเสบชนิดเฉียบพลัน คือ
เริ่มจากมีอาการคล้ายไข้หวัด มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ ปวดท้องปวดเมื่อยตัว ท้องเสีย เบื่ออาหาร ทำให้บางครั้งแม้แต่คนไข้เองก็ยังคิดว่าตนเองเป็นแค่ไข้หวัด จึงเพียงซื้อยามากินเอง ระยะนี้กินเวลาประมาณ 15 วัน
ฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 553 บาท ลดสูงสุด 59%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ต่อจากอาการคล้ายไข้หวัด คราวนี้เป็นโรคดีซ่าน ซึ่งจะเห็นว่า ตาขาวมีสีเหลืองผิดปกติ ระยะเป็นดีซ่านนี้ ยังต้องกินเวลาอีกประมาณ 15-30 วัน จากนั้นก็จะเริ่มทุเลา หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ก็ยังต้องอยู่เฉยๆ สักระยะจนกว่าจะหาย
แต่บางรายถ้าสภาพร่างกายแย่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็อาจทำให้อาการทรุดลงถึงขั้นมีอาการตับโต อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้เป็นประมาณ 7-10 วัน หรือถ้านานกว่านั้นก็อาจถึง 15 วัน จากนั้นอาการก็จะดีขึ้นตามลำดับ
นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายก็ยังมีอาการน้ำดีตกค้างอยู่ในตับร่วมด้วย หรือเป็นดีซ่านนานกว่าที่ควร บางรายมีโรคไตวายแทรกซ้อน หรือเป็นโรคโลหิตจาง แต่มักพบได้น้อย
การรักษาการเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ
เมื่อเกิดอาการของตับอักเสบเฉียบพลัน ก็ต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อนอนพักรักษาตัว และตรวจว่าการทำงานของตับเป็นอย่างไรบ้าง มีโรคแทรกซ้อนหรือไม่
ทั้งนี้ช่วงแรกที่เป็น มักมีอาการเบื่ออาหาร ช่วงนี้จึงควรเลี่ยงโปรตีน เพื่อไม่ให้ตับเหนื่อยมากกว่านี้ โดยกินโปรตีนน้อยกว่า 60 กรัมต่อวัน และคาร์โบไฮเดรตประมาณ 1,800 kcal สำหรับใช้เป็นพลังงานในแต่ละวัน
สำหรับคนที่เบื่ออาหารจนกินไม่ลง จะมีการให้น้ำเกลือ และสารอาหารอื่นๆ ชดเชย โรคนี้สำคัญที่สุด คือ ต้องพักผ่อนอยู่เฉยๆ และปฏิบัติตามที่แพทย์ระบุไว้เป็นหลัก ไม่ต้องใช้ยาอะไรเป็นพิเศษ จัดว่าเป็นแล้วหายได้ถ้าพักผ่อนเพียงพอ เพื่อให้เซลล์ตับสร้างเซลล์ชดเชยแทนเซลล์ที่เสียไป
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับมาพักฟื้นที่บ้านต้องอยู่เฉยๆ อีกประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นจึงจะใช้ชีวิตตามปกติ
การป้องกัน
วิธีป้องกัน มีได้ 3 วิธี
- กินอาหารปรุงสุกดี ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และน้ำดื่ม ถ้าไม่ไว้ใจควรกินที่บ้าน ส่วนน้ำดื่มควรต้มสุกแล้วใส่ขวดติดตัวออกจากบ้าน
- ล้างมือให้สะอาด เพราะถ้ามือเปื้อนเชื้อแล้วใช้มือหยิบอาหารที่ปรุงสุก โอกาสติดก็ยังเป็นไปได้สูง
- ฉีดวัคซีนป้องกัน เรียกว่า HA วัคซีน วิธีนี้ป้องกันได้เกือบ 100% แต่การฉีดวัคซีนป้องกันก็ไม่จำเป็นสำหรับทุกคน เหมาะกับกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น เช่น ฉีดให้ทหารที่ต้องเดินทางไปยังถิ่นที่มีการระบาดของโลก คนที่มีโอกาสอยู่ร่วมกับผู้ป่วย พ่อครัวที่ต้องปรุงอาหารให้กับคนหมู่มาก เป็นต้น
คำถามยอดนิยม
1. หากต้องไปยังประเทศที่ยังมีเชื้อไวรัสตับอักเสบแพร่กระจายอยู่ จึงฉีดวัคซีนกันไว้ แต่ไม่ได้ฉีดต่อให้ครบทุกเข็ม จะเป็นอะไรหรือไม่?
ตอบ: จำเป็นต้องฉีด 2 ครั้ง เพื่อให้ร่างกายมีความต้านทานต่อเนื่อง กรณีฉุกเฉิน ฉีดเข็มที่ 2 ต่อจากเข็มแรก หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์ก็ได้ หรือหากทราบว่า อาจไม่มีเวลามาฉีดตามกำหนด ควรสอบถามกับแพทย์ ถ้าไม่ว่างมาฉีดเข็มที่ 2 ตามกำหนด ควรเลื่อนมาได้อีกเมื่อไร
2. วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ มีฤทธิ์ป้องกันอยู่ได้นานแค่ไหน?
ตอบ: ชนิดฉีด 3 ครั้ง สำหรับการอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน มีผลต่อเนื่อง 5 ปี
3. ไวรัสสามารถติดต่อผ่านทางอาหารได้ แล้วหากเป็นการรับประทานาอาหารโดยใช้ภาชนะร่วมกัน เชื้อจะสามารถติดต่อหากันได้หรือไม่?
ตอบ: การติดต่อของเชื้อชนิดนี้ ตามหลักแล้วต้องเป็นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อนนานเพียงพอ หรือเป็นอาหารดิบ ไม่ใช่จากการใช้ภาชนะร่วมกัน แต่เพื่อเป็นการป้องกัน แนะนำให้เอาจาน และถ้วยกระดาษใช้แยกกันจะดีกว่า หรือถ้าจำเป็น ควรไปตรวจกับแพทย์เพื่อให้หายสงสัย
4. หากเพิ่งฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบมา สามารถออกกำลังกายได้หรือไม่?
ตอบ: ในวันที่ฉีดวัคซีน คุณสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ไม่ควรออกกำลังกาย หรือหักโหมใช้แรงเยอะ รวมถึงไม่ควรอาบน้ำร้อนจัดๆ ขัดถูบริเวณที่ฉีดวัคซีนแรงๆ ด้วย
5. หากฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบแล้ว สามารถรับประทานหอยนางรมได้หรือไม่?
ตอบ: ถึงแม้จะมีการฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว แต่ก็ใช่ว่าคุณจะสามารถรับประทานอาหารสดๆ ดิบๆ ได้อย่างวางใจ เพราะอาหารประเภทนี้สามารถทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ท้องเสียอย่างรุนแรง รวมถึงเกิดอาการแพ้ได้
6. มีเพื่อนสนิทป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบชนิดเอ นอนพักอยู่ในโรงพยาบาล ถ้าอีกหน่อยต้องย้ายมาอยู่ด้วยกัน ควรระวังเรื่องอะไรบ้าง?
ตอบ : กรณีของไวรัสตัวนี้ มีเส้นทางติดเชื้อทางปากเป็นหลัก คือ กินอาหารหรือน้ำที่ปรุงไม่สุกดี ยิ่งถ้าอยู่บ้านเดียวกัน ก็มีความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้น
ดังนั้นควรแยกใช้ของส่วนตัว รวมทั้งภาชนะใส่อาหารก็ควรใช้แยกกันต่างหาก
แต่หากเพื่อนรักษาโรคหายแล้ว เป็นอันว่า เจ้าตัวสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เพื่อสุขอนามัยที่ดี แลพเพื่อป้องกันการติดต่อของโรคต่างๆ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ควรแยกใช้เป็นของส่วนตัว เป็นดีที่สุด
การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอมีวิธีป้องกันได้ไม่ยาก นั่นคือ การรู้จักรักษาสุขอนามัยร่างกายให้สะอาด รับประทานอาหารที่สุก สะอาด หมั่นล้างมือบ่อยๆ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ครบ และไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็สามารถป้องกันการติดเชื้อโรคชนิดนี้ได้แล้ว
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจฉีดวัคซีนเด็ก จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
อยากรู้เกี่ยวกับเรื่องผู้ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีคือเป็นเรื่องของแฟนหนูเองเขาตรวจพบตอนที่หนูท้องลูกคนที่2ว่าสามีมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแล้วแบบนี้เชื้อตัวนี้ร้ายแรงไหมค่ะ และมีวิธีรักษาไหมค่ะ