แอปเปิ้ล แต่ละสีนั้นต่างก็มีความน่าสนใจในตัวเอง แต่ที่กำลังเป็นที่นิยมของกลุ่มคนรักสุขภาพก็คงหนีไม่พ้น แอปเปิ้ลเขียว ที่ดูเหมือนว่าจะมีรสชาติที่เปรี้ยวที่สุด เมื่อเทียบกับแอปเปิ้ลสีอื่นๆ
แล้วทำไมคนถึงเลือกแอปเปิ้ลเขียวในการดูแลสุขภาพมากกว่าสีอื่นๆ รวมถึงมีคุณประโยชน์อะไรบ้างนั้น บทความนี้มีคำตอบ
คุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิ้ลเขียว
แอปเปิ้ลเขียว มีเปลือกเป็นมันและเนื้อที่ชุ่มฉ่ำ แถมยังมีเส้นใยอาหารสูง ซึ่งแอปเปิ้ลเขียวขนาดเล็กและไม่ปอกเปลือก (ขนาดประมาณ 140 กรัม) จะให้พลังงาน 77 แคลอรี่และให้เส้นใยอาหารเกือบ 4 กรัม หรือร้อยละ 14 ของปริมาณเส้นใยอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน
นอกจากนั้น ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ดังนี้
- โปรตีน
- คาร์โบไฮเดรต
- แคลเซียม
- ไฟเบอร์
- โฟลิก
- เหล็ก
- แมกนีเซียม
- ไนอาซิน
- แพมโทธีนิก
- ฟอสฟอรัส
- โพแทสเซียม
- ไรโบฟลาวิน
- ไธอามีน
- วิตามิน เอ
- วิตามิน ซี
ประโยชน์ของแอปเปิ้ลเขียว
แอปเปิ้ลเขียว อุดมไปด้วยไฟเบอร์ (เส้นใยอาหาร)
แอปเปิ้ลสีเขียว ถูกนำมาจัดอยู่ในหมวดของผลไม้ควบคุมน้ำหนัก เพราะเต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร แต่ให้พลังงานเพียงน้อยนิด เส้นใยอาหารในแอปเปิ้ลสีเขียว เป็นเส้นใยที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ หากคุณรับประทานแอปเปิ้ลเขียวอย่างเป็นประจำ ย่อมส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายอย่างแน่นอน
เส้นใยในเนื้อของแอปเปิ้ลเขียว นั้นใช้เวลาในการย่อย จึงทำให้รู้สึกอิ่มได้นานมากขึ้น อยู่ท้อง จึงทำให้ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักส่วนใหญ่ หาซื้อมารับประทานกันเป็นประจำ
มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กลัวความแก่ หรือกลัวว่าจะเกิดโรคร้าย เช่น โรคมะเร็ง แอปเปิ้ลเขียวเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาดที่จะหามารับประทาน เพราะเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ลดการสูญเสียกล้ามเนื้อจากการป่วย
คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมักจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง แต่เมื่อคุณล้มป่วยลง คุณต้องหยุดพักร่างกายทำให้ออกกำลังกายไม่ได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง แน่นอนว่าในขณะที่คุณหยุดพัก กล้ามเนื้อส่วนที่ได้เพิ่มเติมมาจากการออกกำลังกายอาจลดลงหรือหายไปบ้าง ซึ่งจุดนี้เองที่ผู้ชายมักจะกังวล เพราะการที่กล้ามเนื้อหายไปมักทำให้รูปร่างที่เคยดูดีนั้นเปลี่ยนไปด้วย
แต่สิ่งเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการบริโภคแอปเปิ้ลสีเขียวเป็นประจำ เนื่องจากในแอปเปิ้ลสีเขียวประกอบไปด้วยกรดบางชนิดที่เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการเพิ่มพลังและสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อโดยตรง
มีวิตามินที่จำเป็นสำหรับผิวพรรณ
นอกจากเรื่องของสุขภาพแล้ว แอปเปิ้ลเขียวก็มีบทบาทสำคัญต่อเรื่องความสวยความงามเช่นกัน เนื่องจากเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ เช่น วิตามินซี ซึ่งในแอปเปิ้ลเขียวมีวิตามินซีมากกว่าผลไม้ประเภทอื่นๆ บางประเภท
นอกจากนี้ จากการศึกษาพบว่าสารโพลีฟีนอลซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในแอปเปิ้ลเขียวสามารถช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งจะช่วยลดรอยคล้ำ ช่วยบำรุงให้ผิวเปล่งปลั่งกระจ่างใส และยังช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ได้
มีไขมันต่ำลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
แอปเปิ้ลเขียวมีปริมาณไขมันต่ำจึงช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ช่วยให้การไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น และยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำ สามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย
ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
เส้นใยอาหารประเภทที่ละลายน้ำได้ที่พบในเนื้อของแอปเปิ้ลเขียวจะช่วยชะลอการย่อยอาหาร ช่วยในการลดน้ำหนัก และลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานได้ อีกทั้งแอปเปิ้ลเขียวสามารถเป็นสารให้ความหวานตามธรรมชาติที่เมื่อร่างกายดูดซึมแล้วจะรักษาสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือดได้ และยังช่วยรักษาระดับอินซูลินในร่างกายส่งผลทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
บำรุงเส้นผมหนังศีรษะ
แอปเปิ้ลเขียวมีวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมที่จะช่วยให้หนังศรีษะชุ่มชื้นและลดรังแคได้ นอกจากนี้ ยังพบว่าสาร Procyanidin B-2 ที่พบในแอปเปิ้ลเขียวช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมได้อีกด้วย
ช่วยบำรุงสายตา
วิตามินซีและไฟโตนิวเทรียนท์ที่พบในแอปเปิ้ลเขียวจะช่วยป้องกันการถูกทำลายของจอประสาทตาจากอนุมูลอิสระที่อยู่ในร่างกาย และยังช่วยรักษาแผลในกระจกตาให้หายได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำและเพคตินที่พบมากในแอปเปิ้ลเขียวจะช่วยเพิ่มกากใยให้กับทางเดินอาหารช่วยทำให้ลำไส้ใหญ่เคลื่อนไหวได้ดี จึงช่วยลดอาการท้องผูกทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
ช่วยสร้างความแข็งแรงของข้อต่อ
เมื่อเราอายุมากขึ้นข้อต่อต่างๆ ในร่างกาย เช่น หัวเข่า ข้อศอก จะเริ่มฝืดและทำงานได้ติดขัด เพราะคอลลาเจนที่มีในข้อต่อต่างๆ นั้นลดลง ซึ่งวิตามินซีในแอปเปิ้ลเขียวมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย จึงช่วยเสริมความแข็งแรงของข้อต่อ และช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ทำงานได้ดี
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ที่พบในแอปเปิ้ลเขียว ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเราให้แข็งแรง สามารถต้านการอาการแพ้ และการติดเชื้อต่างๆ ได้ดีขึ้น
ช่วยให้กระดูกและฟันแข็งแรง
แอปเปิ้ลเขียว อุดมไปด้วยแคลเซียม ดังนั้น การรับประทานเป็นประจำมีส่วนช่วยเสริมสร้างให้กระดูกและฟันแข็งแรง โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน แคลเซียมที่พบในแอปเปิ้ลเขียวสามารถช่วยลดภาวะกระดูกพรุนได้
แอปเปิ้ลเขียวดีกับคนท้องอย่างไร?
ช่วยป้องกันความเสียหายของ DNA
อนุมูลอิสระที่มีอยู่ในร่างกายสามารถทำลาย DNA ของลูกระหว่างการตั้งครรภ์ได้ แอปเปิ้ลเขียวอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและสารพิษที่จะเข้ามาทำลาย DNA ได้
ช่วยรักษาน้ำหนักตัว
การมีน้ำหนักเกินในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานซึ่งเป็นอันตรายต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์
แอปเปิ้ลเขียวอุดมไปด้วยพลังงานจากสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะเส้นใยอาหารทั้งแบบละลายน้ำและไม่ลายน้ำที่สามารถช่วยรักษาน้ำหนักตัวได้ การบริโภคเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลสูง และยังสามารถลดความอยากของหวานของคุณแม่ได้
ลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนด
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การคลอดก่อนกำหนดเป็นผลมาจากการหลั่งน้ำดีที่มากเกินไป แร่ธาตุและวิตามินที่พบในแอปเปิ้ลเขียวสามารถรักษาสมดุลการหลั่งน้ำดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงสามารถลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดได้
รับประทานแอปเปิ้ลเขียวก่อนนอนดีไหม?
กรดผลไม้ที่พบตามธรรมชาติในแอปเปิ้ลเขียว จะเพิ่มปริมาณของกรดในกระเพาะอาหารให้มากขึ้น หากรับประทานก่อนนอนจะทำให้กรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป ส่งผลให้รู้สึกไม่สบายท้อง จึงแนะนำให้รับประทานแอปเปิ้ลในช่วงเช้าหรือก่อนมื้ออาหารจะดีกว่า
ทั้งหมดนี้ นับได้ว่าเป็นเหตุผลและเป็นคำตอบที่ว่า ทำไมผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานอย่าง แอปเปิ้ลสีเขียว ถึงได้รับความนิยมอย่างมากมายจากคนที่รักสุขภาพ และยิ่งไปกว่านั้นด้วยคุณค่าทางอาหาร และราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ผลไม้ชนิดนี้จึงเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่ควรซื้อมาติดไว้ในตู้เย็นเพื่อรับประทานเป็นประจำ
การรับประทานแอปเปิ้ลเขียวเพื่อสุขภาพที่ดีนั้น ไม่ควรรับประทานเพียงอย่างเดียว ควรควบคู่กับแนวทางอื่นๆ ด้วย เช่น การออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการและครบ 5 หมู่ ซึ่งจะเป็นผลดีที่สุดต่อผู้รักสุขภาพ