แอปเปิล ผลไม้มากประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ
แอปเปิล ผลไม้ยอดนิยมในหลายๆ ประเทศ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หวาน หอม บวกกับเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์หลากหลาย ทำให้แอปเปิลเป็นผลไม้ที่ขายดีที่สุดชนิดหนึ่ง
แอปเปิล ประกอบด้วยสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต และน้ำเป็นส่วนใหญ่ มีวิตามินซีเป็นหลัก แต่จะมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ช่วงเวลาเก็บเกี่ยว และความสด
เนื้อและเปลือกของแอปเปิลมีเส้นใยสำคัญที่ชื่อว่า "เพคติน (Pectin)" มีคุณสมบัติพองตัวได้ เพิ่มกากใยในทางเดินอาหาร ขับถ่ายได้สะดวกมากขึ้น และยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยจับโคเลสเตอรอลไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคโคเลสเตอรอลในเลือดสูง โรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง
คุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิล
เนื้อแอปเปิล 100 กรัม ให้พลังงาน 59 กิโลแคลอรี่ และวิตามินซีประมาณ 6 มิลลิกรัม
นอกจากนี้ แอปเปิลยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินเอ กรดโฟลิก วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี เหล็ก
และยังมีกรดอินทรีย์ 2 ชนิด คือ กรดมาลิค และกรดทาร์ทาริก ซึ่งช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีน และไขมันด้วย
สารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย โดยเฉพาะวิตามินซี และสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
รู้จักประโยชน์ของแอปเปิลแต่ละสี
แอปเปิลทุกสี อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุคล้ายคลึงกัน แต่จะมีประโยชน์เด่นแตกต่างกัน ดังนี้
แอปเปิลสีเขียว
แอปเปิลสีเขียว ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อผลกรอบ คุณประโยชน์ทางโภชนาการอาจไม่แตกต่างจากแอปเปิลสีอื่นๆมาก แต่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ มีน้ำตาลน้อยกว่า ให้พลังงานน้อยที่สุดในบรรดาแอปเปิลทั้งหมด
แอปเปิลสีเขียวเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะมีปริมาณไฟเบอร์ และวิตามินซีมากกว่าสีอื่นเล็กน้อย ซึ่งไฟเบอร์ดีต่อลำไส้ใหญ่ ส่วนวิตามินซีมีส่วนช่วยในเรื่องของการป้องกันไข้หวัด และโรคเลือดออกตามไรฟัน
แอปเปิลสีแดงเข้ม
แอปเปิลที่มีสีเข้มจะมีรสชาติหวานมากกว่าสีอ่อน อีกทั้งยังคงทน และอยู่ได้นานมากกว่าสีอื่นๆ เราจึงมักเห็นการปลูกและจัดจำหน่ายแอปเปิลสีแดงมากกว่าสีอื่นๆ
จุดเด่นของแอปเปิลสีแดงคือ เปลือกที่อุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวหนึ่งที่เราจะได้รับก็ต่อเมื่อรับประทานทั้งเปลือก แต่ควรระวังสารตกค้างจากยาฆ่าแมลงด้วย
สารต้านอนุมูลอิสระ มีสรรพคุณช่วยชะลอความแก่ ลดความเครียด ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ
แอปเปิลสีชมพู (อมแดง)
แอปเปิลสีชมพูอมแดง ให้รสชาติหวาน ไม่กรอบมากเหมือนสีแดง มีประโยชน์ไม่แพ้แอปเปิลสีแดง เพราะมีปริมาณของวิตามินซีถึง 1 ใน 4 ของปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน
ซึ่งวิตามินซีนี้จะมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการอักเสบ ลดริ้วรอยแห่งวัย ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ช่วยทำให้ผนังของหลอดเลือดฝอยแข็งแรงมากขึ้น และยังป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย
แอปเปิลสีเหลือง
แอปเปิลสีเหลือง ให้รสชาติดี หวาน หอม นุ่มละมุน แต่มักไม่ค่อยได้เห็นมากนักตามท้องตลาด สามารถช่วยในเรื่องล้างสารพิษ
มีการศึกษาพบว่า แอปเปิลชนิดนี้ช่วยล้างสารพิษจากตับได้ ช่วยบำรุงสายตา และยังพบว่า การรับประทานผลไม้ชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกได้อีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิลแต่ละสี
กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกาพบว่า แอปเปิลแต่ละสีมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
- แอปเปิลสีเขียว มีพลังงาน 58 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 85.46 กรัม น้ำตาล 9.56 กรัม และโพแทสเซียม 120 กรัม
- แอปเปิลสีแดง มีพลังงาน 59 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 85.33 กรัม น้ำตาล 10.48 กรัม และโพแทสเซียม 104 กรัม
- แอปเปิลสีชมพู มีพลังงาน 63 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 84.16 กรัม น้ำตาล 11.68 กรัม และโพแทสเซียม 109 กรัม
- แอปเปิลสีเหลือง มีพลังงาน 57 กิโลแคลอรี่ มีน้ำ 85.81 กรัม น้ำตาล 10.04 กรัม และโพแทสเซียม 100 กรัม
แอปเปิลแต่ละสีมีส่วนประกอบต่างกันเล็กน้อย แต่ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แม้แอปเปิลจะไม่มีวิตามิน และแร่ธาตุในปริมาณมากเหมือนผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น กล้วย หรือฝรั่ง แต่เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานน้อย จึงได้รับความนิยมสูง
อย่างไรก็ตาม แม้แอปเปิลจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ไม่ควรมองข้ามเรื่องสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ก่อนรับประทานควรล้างเปลือกให้สะอาด
ที่สำคัญ ควรรับประทานอาหารให้หลากหลาย ครบ 5 หมู่ ไม่เน้นอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ห่างไกลจากโรค
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจเหล่านี้ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android