เทศกาลกินเจ นอกจากจะเป็นเทศกาลที่ทุกคนจะได้อิ่มท้องพร้อมกับอิ่มบุญแล้ว ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่คิดอยากจะลดน้ำหนักกันอีกด้วย เพราะอาหารเจส่วนใหญ่มักจะดีต่อสุขภาพและยังช่วยให้ห่างไกลโรคที่อันตรายทั้งหลายได้อีกด้วย
ประโยชน์โดยรวมจากการกินเจ
บางคนอาจคิดว่าอาหารเจมีแต่แป้งและอาหารมันๆ แต่หากเลือกวัตถุดิบและใช้วิธีการปรุงอย่างเหมาะสม เช่น เลือกวัตถุดิบที่ให้สารอาหารครบ 5 หมู่ หลีกเลี่ยงการผัด ทอดด้วยน้ำมันปริมาณมาก และไม่ปรุงรสจัด การกินเจก็จะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์มากมาย ดังต่อไปนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ทำความสะอาดลำไส้ ใยอาหารที่ได้จากผัก ผลไม้ต่างๆ จะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ลดการดูดซึมของไขมันและน้ำตาล เหมาะกับผู้ที่เป็นเบาหวาน รวมทั้งยังช่วยกำจัดสารก่อมะเร็งออกมาจากร่างกายด้วยการขับถ่าย สำหรับผู้ใหญ่ รับประทานเพียงแค่ 25 กรัมต่อวันก็เพียงพอแล้ว ส่วนเด็กนั้นให้ใช้อายุ + 5 = จำนวนกรัมที่ควรรับประทานต่อวัน (เช่น อายุ 6 ขวบ + 5 = 11 กรัมต่อวัน)
- ร่างกายจะต่อต้านสารพิษได้ดีขึ้น มีการศึกษาที่พบว่า ร่างกายของคนกินเจจะต่อต้านสารพิษได้มากกว่าคนที่ไม่ได้กินอาหารเจ หรือคนที่กินผักผลไม้เป็นประจำ สารพิษดังกล่าวได้แก่ ยาฆ่าแมลง ยากำจัดศัตรูพืช การเผาไหม้จากอุตสาหกรรม
- ลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดในสมอง ถ้ากินเจโดยเลือกให้หนักที่ผักและผลไม้ จะช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาไขมันอุดตันเส้นเลือดในสมองได้ ซึ่งอาการไขมันอุดตันเส้นเลือดนี้สามารถส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง หรืออาจทำให้เส้นเลือดแตก ขาด นำไปสู่การเสียชีวิต แต่ใยอาหารที่รับประทานจากผักผลไม้ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้เลือดเข้าไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงที่สมองจะเสื่อมลงได้มากขึ้น
- ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะต้องพยายามจำกัดอาหารที่กิน หรืองดบางมื้ออยู่เสมอ เพราะอินซูลิน (Insulin) ในร่างกายทำงานไม่ปกติทำให้ไขมันในเลือดสูง แต่การกินอาหารเจที่เน้นจำพวกผัก ผลไม้ ไม่ทำให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด เพราะใยอาหารในผักผลไม้ไม่มีแคลอรี่อีกทั้งยังช่วยให้ไขมันในเลือดน้อยลงอีกด้วย จึงรับประทานได้ปริมาณมากกว่าอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ เช่น หากต้องการพลังงาน 100 แคลอรี ถ้าเลือกกินบรอกโคลีนึ่งจะกินได้มากถึง 285 กรัม ในขณะที่เนื้อไก่สามารถกินได้เพียง 70 กรัมเท่านั้น
- หลอดเลือดจะสะอาดมากขึ้น เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดีขึ้น ทำให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายจึงเสื่อมสลายช้าลง ทำให้ผิวพรรณดูสดใส สุขภาพดี
- อวัยวะต่างๆ ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แบ่งเป็นอวัยวะหลักสำคัญได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และอวัยวะประกอบได้แก่ ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี
- ภูมิต้านทานดีขึ้น อาหารเจส่วนมากมักมีเห็ดเป็นส่วนประกอบ ผู้ที่เป็นภูมิแพ้น้ำมูกไหลบ่อย หากกินเห็ดอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ภูมิต้านทานดีขึ้น นอกจากนี้เห็ดบางชนิด เช่น เห็ดกระดุม ยังมีส่วนต้านเซลล์มะเร็งอีกด้วย จะสังเกตได้ว่าผู้ที่กินอาหารผัก ผลไม้เป็นประจำจะไม่ค่อยมีอาการป่วยเป็นหวัดเท่ากับผู้ที่ไม่ได้กิน
แนะนำวัตถุดิบเจ ให้ได้สารอาหารครบ 5 หมู่
เมื่อรู้ประโยชน์ของการกินอาหารเจแล้ว ก็ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย ไม่เช่นนั้นอาจเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ก็เป็นได้
- โปรตีน ไม่ต้องห่วงว่าช่วงเจไม่ได้กินเนื้อสัตว์แล้วจะขาดโปรตีน เพราะอาหารที่ได้จากพืชนั้นก็อุดมด้วยโปรตีนที่มีประโยชน์มากมาย เช่น ถั่วต่างๆ ธัญพืช เต้าหู้ นมถั่วเหลือง โปรตีนเกษตร
- คาร์โบไฮเดรต โดยปกติเราจะได้รับคาร์โบไฮเดรตกันจากข้าวอยู่แล้ว แต่ในเทศกาลเจแบบนี้ให้ลองกินเป็นข้าวกล้องเพื่อประโยชน์ที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมี ขนมปัง เส้นหมี่ต่างๆ ผลิตภัณฑ์จากแป้ง และเผือกอีกด้วย
- เกลือแร่ จะพบมากในผักใบเขียวแทบทุกชนิดและผักสีต่างๆ เช่น ผักคะน้า บรอกโคลี ตำลึง ผักโขม หัวผักกาด กะหล่ำปลี แคร์รอต มันฝรั่ง มะเขือเทศ
- ไขมัน ได้รับจากน้ำมันพืช แกงกะทิ หรือสลัดราดน้ำมันงา สำหรับประเภทไขมันนี้รับประทานเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว
ข้อควรระวังจากการกินเจ
กินเจจะดีต่อสุขภาพ หากทำตามหลักการที่กล่าวมาแล้ว แต่หากกินไม่ถูกวิธีก็ทำให้สุขภาพแย่ได้ในทางกลับกัน สิ่งที่ควรระวัง ได้แก่
- อย่ากินใยอาหารเยอะเกินไป แน่นอนว่าใยอาหารเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย แต่เมื่อได้รับมากเกินไป (50-60 กรัม) อาจทำให้ร่างกายดูดซึมวิตามินและเกลือแร่บางชนิดได้ไม่ดีพอ
- ระวังลงพุงจากไขมัน หลายคนละเลยวิธีการปรุงอาหาร โดยคิดว่ารับประทานอาหารเจอยู่แล้วยังไงก็ปลอดภัย และเลือกกินแต่อาหารประเภททอด ผัด ที่มีน้ำมันจำนวนมากเกินไปอาจทำให้อ้วนลงพุงได้ นอกจากนี้อาหารที่ทำเลียนแบบเนื้อสัตว์อย่างที่เห็นกันหลายร้านทำมาจากแป้ง ทำให้อ้วนลงพุงได้เช่นกัน ควรเลือกอาหารที่ทำจากโปรตีนเกษตร
- หากมื้อไหนที่กินอาหารที่ทำจากแป้งหรือมีไขมันจากน้ำมัน ให้อีกครึ่งหนึ่งของจานอาหารเป็นผักผลไม้แทน
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เมื่อมีการขายอาหารเจที่มีรสจืด จึงนิยมปรุงรสกันจำนวนมาก ด้วยซอสและเครื่องปรุง ไม่ว่าจะเค็มจัด หวานจัด ก็อาจส่งผลให้ความดันโลหิตสูงได้
เมนูเจที่ดีต่อสุขภาพ
หลายคนกินเจตลอดเทศกาลยาวหลายวัน อาจนึกสงสัยว่าควรกินอาหารแบบไหนให้ครบ 5 หมู่และดีต่อสุขภาพ สามารถเลือกจากเมนูเจเพื่อสุขภาพดังต่อไปนี้รับประทานหรือประยุกต์ได้เลย
- ฟองเต้าหู้จับฉ่าย อาจใช้เป็นฟองเต้าหู้หรือโปรตีนเกษตรเพื่อให้มีโปรตีน อาจกินคู่กับข้าวสวยหรือข้าวกล้องตามที่ต้องการ เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
- ผัดผักรวมมิตร เป็นเมนูที่สามารถกินได้ตลอดไม่ว่าจะอยู่ในเทศกาลเจหรือไม่ ควรใช้ผักให้หลากหลายชนิด หลากสีสัน เช่น แคร์รอต บรอกโคลี คะน้าฮ่องกง ยอดข้าวโพด เห็ดหอมหรือใช้ซอสเห็ดหอมเพื่อช่วยปรุงรส
- เห็ดหอมเต้าหู้อบวุ้นเส้น เห็ดสดและเห็ดแห้งเป็นแหล่งใยอาหาร ซีลีเนียมและเบต้ากลูแคนที่ดี สามารถรับประทานกับอาหารได้หลากหลายชนิด ควรเติมโปรตีนลงไปเพื่อให้ได้สารอาหารมากขึ้น
- เห็ดห่อสาหร่ายน้ำแดง เมนูทำง่ายที่เด็กก็กินได้ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ เพียงแค่เห็ดเข็มทอง หน่อไม้ฝรั่ง สาหร่ายสำหรับห่อ ซอสเห็ด สามารถเติมรสเผ็ดด้วยพริกขี้หนูตามชอบ
- เต้าหู้กับผักเขียว การกินเต้าหู้คู่กับผักทำให้ได้รับทั้งวิตามินและโปรตีน เมื่อกินผักใบเขียวเข้าไปจะทำให้ได้รับวิตามินเอและเคที่ละลายขณะผัดน้ำมัน และได้โปรตีนจากเต้าหู้เสริมคุณค่าทางโภชนาการ
มีอะไรบ้างที่ห้ามกินหากถือศีลกินเจ?
หลายคนจะเข้าใจว่าเพียงแค่กินอาหารที่ไม่ได้มาจากเนื้อสัตว์ก็ถือเป็นอาหารเจแล้ว แต่ความจริงแล้วความเชื่อของการกินเจยังมีข้อยกเว้นถึงอาหารและพืชผักอีกหลายชนิดดังต่อไปนี้
- ส่วนประกอบที่มาจากสัตว์ ข้อนี้บางคนอาจลืมโดยไม่ตั้งใจ เนื่องจากมุ่งความสนใจไปเฉพาะที่ตัวอาหาร ทำให้หลงลืมนึกถึงส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ ของเครื่องปรุงรส เช่น น้ำปลา ซอสหอยนางรม ที่มีกระบวนการผลิตมาจากสัตว์เช่นกัน นอกจากนี้เครื่องดื่มที่นิยมกินกันก็ต้องงดเว้นด้วย เช่น นมวัว น้ำผึ้ง ขนมหวานประเภทเจลลาติน
- พืชผักกลิ่นฉุน เพราะความเชื่อโบราณคิดว่า ผักกลิ่นฉุนส่งผลต่อธาตุต่างๆ ในร่างกายทำให้โกรธเกรี้ยวหงุดหงิดง่ายแ ละยังทำให้เกิดความกำหนัดอีกด้วย ซึ่งไม่เหมาะสมในช่วงที่ถือศีลกินเจ ส่วนในทางการแพทย์นั้นผักกลิ่นฉุนเหล่านี้จะช่วยย่อยเนื้อสัตว์ หากอยู่ในช่วงที่ละเว้นเนื้อสัตว์แล้วกินผักกลิ่นฉุนเหล่านี้เข้าไป อาจส่งผลที่ไม่ดีต่อระบบย่อยอาหาร โดยปกติแล้วจะมีด้วยกัน 5 ชนิด คือ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย ใบยาสูบ (งดสูบบุหรี่ ยาเส้น สิ่งเสพติดทุกชนิด)
- สุราและของมึนเมา ควรงดตลอดช่วง 9 วันที่ถือศีลกินเจ เพราะถือเป็นสิ่งเสพติด
กินเจ...กินหอยนางรมได้หรือไม่?
มีเนื้อสัตว์บางชนิดที่ถกเถียงกันว่ากินได้หรือไม่หากถือศีลกินเจ เช่น หอยนางรม ปลาบางชนิด เนื่องจากเชื่อกันว่าเป็นสัตว์ไม่มีเลือด จึงสามารถกินเป็นอาหารเจได้ ในบางตำนานกล่าวว่ากินสัตว์เหล่านี้ได้ในช่วงกินเจ ถือว่าไม่บาป บ้างก็กล่าวว่าหากเป็นสัตว์ที่ถึงฆาตก็สามารถกินได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคล เช่น หากความตั้งใจของผู้ถือศีลกินเจคือการละเว้นเนื้อสัตว์รวมทั้งเว้นการเบียดเบียนสัตว์ หอยนางรมและปลาเล็กปลาน้อยก็คือสิ่งมีชีวิตเช่นกัน
การกินอาหารปกติหลังออกเจ
เมื่อออกเจแล้วมีผู้คนจำนวนมากที่นิยมกินเนื้อสัตว์เข้าไปจำนวนมาก เนื่องจากไม่ได้กินมาตลอด 9 วัน ซึ่งการกระทำแบบนี้อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะร่างกายปรับสภาพไม่ได้หลังจากกินอาหารจากผักมานานหลายวัน หลังจากออกช่วงกินเจควรเลือกกินอาหารเนื้อสัตว์ที่อ่อนๆย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ไก่ รวมทั้งอาหารรสจัดเพื่อให้ร่างกายได้ปรับสภาพเสียก่อน เครื่องดื่มก็เช่นเดียวกันในผู้ที่ไม่ได้ดื่มนมวัวมาหลายวัน ไม่ควรดื่มนมวัวรวดเดียวครั้งละมากๆ อาจเริ่มจากการดื่มครั้งละน้อยไม่เกิน 1 แก้วก่อน รวมทั้งเน้นการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และผักผลไม้ในแต่ละมื้อ