ข้อมูลภาพรวมของเปลือกสนมาริไทม์
เปลือกสนมาริไทม์ (Maritime pine) นำมาจากต้นมาริไทม์ในประเทศแถบทะเลเมอร์ดิเทอร์เรเนียน ส่วนไม้สนมาริไทม์ที่โตในพื้นที่อย่างประเทศฝรั่งเศสตะวันตกเฉียงใต้ได้ถูกใช้ทำยา Pycnogenol เปลือกไม้ชนิดนี้ถูกใช้ทำยาด้วยการสกัดสารออกมา กระนั้นตัวสารที่ออกฤทธิ์จากเปลือกสนมาริไทม์ก็ยังสามารถนำมาจากแหล่งอื่น ๆ ได้อย่างเช่นผิวของถั่วลิสง, เมล็ดองุ่น, และเปลือกไม้วิชฮาเซล
สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์มักถูกนำไปรับประทานเพื่อป้องกันโรคเบาหวาน, โรคที่เกี่ยวกับเบาหวาน, และปัญหาหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
บางคนใช้ครีมผิวหนังที่ประกอบด้วยสารสกัดจากเปลือกสนชนิดนี้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ “ชะลอวัย” อีกทั้งการทาบนผิวหนังยังใช้เพื่อรักษาแผลที่เท้าของผู้ป่วยเบาหวาน, ริดสีดวง, และแผลที่ปากจากการบำบัดเคมีได้ด้วย
ณ ขณะนี้ยังคงมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับสรรพคุณของเปลือกสนมาริไทม์ที่จำกัดมากอยู่
เปลือกสนมาริไทม์ออกฤทธิ์อย่างไร?
เปลือกสนมาริไทม์ประกอบด้วยสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน, ลดอาการบวม, ป้องกันการติดเชื้อ, และมีผลต้านอนุมูลอิสระ
การใช้และประสิทธิภาพของเปลือกสนมาริไทม์
ภาวะที่อาจใช้เปลือกสนมาริไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ภูมิแพ้ (Allergies) งานวิจัยบางชิ้นได้แสดงให้เห็นว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ก่อนเข้าฤดูภูมิแพ้จะลดอาการภูมิแพ้ของผู้ที่มีภาวะแพ้ต้นสนได้
- หอบหืด (Asthma) การทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ทุกวันร่วมกับยาสำหรับหอบหืดอาจช่วยลดอาการของโรคและความจำเป็นของยาพ่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- ประสิทธิภาพทางด้านกีฬา ผู้ที่อายุยังน้อย (20-35 ปี) อาจสามารถออกกำลังกายบนลู่วิ่งได้นานขึ้นหลังการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ทุกวันนานหนึ่งเดือน อีกทั้งการทดสอบความแข็งแรงของนักกีฬาที่ใช้สารสกัดประเภทนี้ทุกวันนาน 8 สัปดาห์ก็แสดงผลที่ดีกว่าคู่แข่งในเรื่องของการฝึกฝน
- ปัญหาการไหลเวียน การรับประทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์อาจช่วยลดอาการเจ็บและหน่วงขาได้ โดยสามารถลดอาการปวดขา ทั้งในกลุ่มคนปกติ และมีโรคเส้นเลือดบริเวณขาทั้งจากเบาหวานและสาเหตุอื่นๆ โดยนิยมใช้ในช่วงพักฟื้นฟู
- เพิ่มการทำงานทางสมอง งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์นาน 3 เดือนจะเพิ่มการทำงานของสมองและความจำได้ทั้งผู้สูงวัยและผู้ใหญ่อายุน้อย
- โรคที่จอตา การทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์นาน 2 เดือนอาจช่วยชะลอหรือป้องกันโรคที่จอตาจากเบาหวาน, ภาวะหลอดเลือดแข็ง (atherosclerosis), หรือโรคอื่น ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของสายตาอีกด้วย
ภาวะที่ยังคงขาดหลักฐานว่าใช้เปลือกสนมาริไทม์รักษาได้หรือไม่
- โรคสมาธิสั้น (Attention deficit-hyperactivity disorder (ADHD)) การทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์นานหนึ่งเดือนไม่อาจช่วยให้อาการของ ADHD ในผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามการให้เด็ก ADHD รับประทานนานหนึ่งเดือนนั้นอาจช่วยให้อาการของภาวะนี้ดีขึ้นได้
- ไข้หวัด การทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สองครั้งต่อวันเริ่มจากที่เป็นหวัดอาจช่วยลดระยะเวลาที่เป็นหวัดลง อีกทั้งยังช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยารักษาจากร้านขายยาลงอีกด้วย
- หลอดเลือดอุดตัน (coronary artery disease) มีหลักฐานว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สามครั้งต่อวันนาน 4 - 8 สัปดาห์อาจช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคหลอดเลือดแดงอุดตันได้บ้าง
- ลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำ (deep vein thrombosis) มีหลักฐานบางชิ้นที่กล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์อาจช่วยป้องกัน DVT ระหว่างการเดินทางบนเครื่องบินระยะเวลานานได้ โดยผลิตภัณฑ์ที่มีการรวมสารสกัดเปลือกสนมาริไทม์กับสารสกัดจากนัตโต (nattokinase) สองแคปซูลก่อนขึ้นเครื่องบิน 2 ชั่วโมง และ 6 ชั่วโมงหลังจากนั้น และทานสารสกัดเปลือกสนมาริไทม์ก่อนขึ้นเครื่อง, 6 ชั่วโมงหลังสิ้นสุดการบิน, และวันหลังจากนั้นอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำได้ นอกจากนั้นการทานสารสกัดประเภทนี้หนึ่งปีอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อกลุ่มอาการหลังจากภาวะหลอดเลือดตีบ (post-thrombotic syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นกับผู้ที่เคยประสบกับลิ่มเลือดอุดตันมาก่อนได้
- คราบจุลินทรีย์บนฟัน งานวิจัยกล่าวว่าการเคี้ยวหมากฝรั่งที่มีการใส่สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ 6 ชิ้นในช่วง 14 วันสามารถลอาการเลือดออกและป้องกันการเกิดคราบจุลินทรีย์บนฟันได้
- เบาหวาน (Diabetes) มีหลักฐานกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ทุกวันนาน 3-12 สัปดาหสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้เล็กน้อย
- แผลที่เท้าจากเบาหวาน งานวิจัยกล่าวว่าการทานและทาสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์จะช่วยรักษาแผลที่เท้าที่เกิดจากเบาหวานได้ เพราะลดการอักเสบของหลอดเลือดบริเวณปลายเท้า
- ปัญหาการไหลเวียนในผู้ป่วยเบาหวาน งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สามครั้งต่อวันนาน 4 สัปดาห์จะเพิ่มการไหลเวียนและลดอาการของผู้ป่วยเบาหวานลงได้
- เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction (ED)) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับแอลอาร์จินิน (L-arginine) อาจเพิ่มความสามารถทางเพศของผู้ชาย ED ได้ อีกทั้งการทานต่อเนื่องนาน 3 เดือนยังทำให้เกิดผลมากขึ้นด้วย
- หัวใจล้มเหลว งานวิจัยกล่าวว่าการทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วยสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์กับ coenzyme Q10 นาน 12 สัปดาห์จะช่วยให้อาการบางอย่างจากภาวะหัวใจล้มเหลวดีขึ้นได้
- ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์เพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับครีมที่ประกอบด้วยสารสกัดเดียวกันจะเพิ่มคุณภาพชีวิตและลดอาการเลือดออกจากโรคริดสีดวงทวารลงได้
- คอเลสเตอรอลสูง การทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ไม่อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (low-density lipoprotein (LDL) cholesterol) ในผู้ที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูงได้ อย่างไรก็ตามในกลุ่มที่ทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ มีไขมันตัวดี เพิ่มขึ้น High density lipoprotein (HDL)
- ความดันโลหิตสูง การทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ (Pycnogenol, Horphag Research) อาจช่วยลดเลขความดันตัวบน (systolic blood pressure) แต่ไม่อาจลดเลขความดันตัวล่างได้ (diastolic blood pressure) สารสกัดประเภทนี้อาจยังช่วยลดความดันของผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาลดความดัน Ramipril ก็ได้ แต่สารสกัดเปลือกสนมาริไทม์ประเภทอื่น (Toyo-FVG, Toyo Bio-Pharma) กลับไม่ได้ช่วยลดความดันโลหิตของผู้ที่มีภาวะอ้วนที่มีค่าความดันสูงเล็กน้อยได้
- ตะคริวที่ขา มีหลักฐานบางชิ้นที่กล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ทุกวันอาจช่วยลดอาการตะคริวที่ขาได้
- อาการหมดประจำเดือน งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สามารถลดอาการหมดประจำเดือนอย่างเหน็ดเหนื่อย, ปวดศีรษะ, ซึมเศร้ากับวิตกกังวล, และร้อนวูบวาบได้
- โรคอ้วนลงพุง (Metabolic syndrome) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สามครั้งต่อวันนาน 6 เดือนอาจลดระดับไตรกลีเซอไรด์, น้ำตาลในเลือด, และความดันโลหิตลง อีกทั้งยังเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลดี (high-density lipoprotein (HDL)) ในผู้ที่มีปัญหาอ้วนลงพุงได้
- แผลเยื่อบุช่องปากอักเสบ (Oral mucositis) การทาสารละลายที่ประกอบด้วยสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์นานหนึ่งสัปดาห์อาจช่วยลดแผลในปากของเด็กและวัยรุ่นที่กำลังเข้ารับการบำบัดเคมีได้
- โรคข้อเสื่อม (Osteoarthritis) ยังคงมีหลักฐานเรื่องประสิทธิภาพของสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ที่มีต่อข้ออักเสบที่ปนเปกันอยู่ โดยการใช้สารสกัดประเภทนี้อาจลดอาการโดยรวมของโรคได้ แต่ไม่อาจลดความเจ็บปวดหรือเพิ่มความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้ ควรใช้ยาแก้ปวดและออกกำลังกาย Quadriceps จะช่วยลดการปวดและเพิ่มความสามารถในการเดินได้ดีกว่า
- ความเจ็บปวดที่เกิดในช่วงครรภ์แก่ งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ทุกวันระหว่างช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์จะช่วยลดอาการปวดหลัง, ปวดข้อเอว, ปวดเชิงกราน,และเจ็บปวดเนื่องจากเส้นเลือดขอด (varicose veins) หรือตะคริวได้
- ปวดเชิงกรานในผู้หญิง มีหลักฐานว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์อาจช่วยลดอาการปวดเชิงกรานในผู้หญิงที่เป็นโรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือปวดประจำเดือนรุนแรงได้
- ปัญหาเรื่องความสามารถทางเพศ งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์, แอลอาร์จินิน, L-arginine, L-citrulline, และสารสกัดจากผลกุหลาบป่า (rose hip) ทุกวันนาน 8 สัปดาห์สามารถเพิ่มความสามารถทางเพศในผู้หญิงได้
- ลดอาการจากโรคพุ่มพวง (lupus (SLE)) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สามารถลดอาการของผู้ป่วย SLE ได้บางราย
- หูอื้อ (tinnitus) งานวิจัยกล่าวว่าการทานสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์สามารถลดอาการหูอื้อลงได้
- ป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง (stroke)
- ปวดกล้ามเนื้อ
- ภาวะสุขภาพอื่น ๆ
จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานให้มากขึ้นเพื่อให้ข้อมูลด้านประสิทธิผลของสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์เพิ่มเติม
ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของเปลือกสนมาริไทม์
สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ (Pycnogenol) จัดว่าอาจจะปลอดภัยเมื่อรับประทานในปริมาณที่ 50 mg ถึง 450 mg ต่อวันนาน 1 ปี และเมื่อทาบนผิวหนังในรูปของครีมผิวหนังนาน 7 วันหรือแบบผงนาน 6 สัปดาห์ สารสกัดประเภทนี้สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ได้อย่างวิงเวียน, ปัญหากระเพาะอาหาร, ปวดศีรษะ, แผลในปาก, และมีกลิ่นปาก
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คำเตือนและข้อควรระวังเป็นพิเศษ:
สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร: งานวิจัยกล่าวว่าสารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ (Pycnogenol, Horphag Research) ถูกจัดว่าอาจจะปลอดภัยเมื่อใช้ในช่วงอายุครรภ์แก่ อย่างไรก็ตามจนกว่าจะมีข้อมูลมากขึ้น ควรใช้อย่างระมัดระวังหรือเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เปลือกสนมาริไทม์ในผู้ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่
ในขณะนี้ยังคงไม่มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์เปลือกสนมาริไทม์ในผู้หญิงที่ต้องให้นมบุตร ดังนั้นควรเลี่ยงการใช้งานผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
เด็ก: สารสกัดจากเปลือกสนมาริไทม์ (Pycnogenol, Horphag Research) ถูกจัดว่าอาจจะปลอดภัยเมื่อรับประทานในระยะสั้น
“โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง” อย่าง multiple sclerosis (MS), โรคพุ่มพวง ( lupus (systemic lupus erythematosus, SLE)), โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (rheumatoid arthritis (RA)), หรือภาวะที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ : เปลือกสนมาริไทม์อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของคุณทำงานมากขึ้น และนั่นจะทำให้คุณประสบกับอาการจากโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเองมากขึ้น หากคุณป่วยเป็นโรคในกลุ่มนี้ควรเลี่ยงการใช้เปลือกสนมาริไทม์จะดีที่สุด
ภาวะเลือดออกผิดปรกติ: ตามทฤษฎีแล้วการใช้เปลือกสนมาริไทม์อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเลือดออกในผู้ป่วยภาวะเลือดออกผิดปรกติได้
เบาหวาน: ตามทฤษฎีแล้วการใช้เปลือกสนมาริไทม์อาจลดระดับน้ำตาลในเลือดมากเกินไปในผู้ป่วยเบาหวาน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
โรคตับอักเสบ: ตามทฤษฎีแล้วการใช้เปลือกสนมาริไทม์อาจทำให้การทำงานของตับแย่ลงในผู้ป่วยโรคตับอักเสบ
การผ่าตัด: เปลือกสนมาริไทม์อาจชะลอการเกิดลิ่มเลือดและลดระดับน้ำตาลในเลือดลง จึงมีข้อกังวลว่าเปลือกสนมาริไทม์อาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำเกินไปจนเพิ่มความเสี่ยงต่อการตกเลือดระหว่างและหลังจากผ่าตัดขึ้น ดังนั้นจึงควรหยุดใช้เปลือกสนมาริไทม์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
การใช้เปลือกสนมาริไทม์ร่วมกับยาชนิดอื่น
ใช้เปลือกสนมาริไทม์ร่วมกับยาเหล่านี้ด้วยความระมัดระวัง
- ยาลดระบบภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants) กับเปลือกสนมาริไทม์
Pycnogenol อาจเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นเช่นนี้อาจทำให้ประสิทธิผลของยาที่ลดภูมิคุ้มกันมีน้อยลง ตัวอย่างยาที่ใช้ลดภูมิคุ้มกันมีทั้ง azathioprine (Imuran), basiliximab (Simulect), cyclosporine (Neoral, Sandimmune), daclizumab (Zenapax), muromonab-CD3 (OKT3, Orthoclone OKT3), mycophenolate (CellCept), tacrolimus (FK506, Prograf), sirolimus (Rapamune), prednisone (Deltasone, Orasone), corticosteroids (glucocorticoids), และอื่น ๆ
ปริมาณยาที่ใช้
ปริมาณหรือขนาดยาที่ใช้ดังต่อไปนี้ได้ถูกศึกษาจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์
ผู้ใหญ่
รับประทาน:
- สำหรับภูมิแพ้: สารสกัดมาริไทม์ 50 mg สองครั้งต่อวัน เริ่มจาก 5 สัปดาห์ก่อนฤดูกาลที่แพ้
- สำหรับภาวะหอบหืด: สารสกัดมาริไทม์ 1 mg ต่อน้ำหนักร่างกายมากถึง 200 mg/วัน โดยแบ่งเป็นสองโดสภายในหนึ่งเดือน อีกทั้งสารสกัดประเภทเดียวกัน 50 mg สองครั้งต่อวันนาน 6 เดือน
- สำหรับเพิ่มศักยภาพทางการกีฬา: สารสกัดมาริไทม์ 100-200 mg ทุกวันนาน 1-2 เดือน
- สำหรับปัญหาการไหลเวียนโลหิต: สารสกัดมาริไทม์ 45-360 mg ทุกวันในปริมาณที่แบ่งเป็นสามโดสเป็นเวลา 3-12 เดือน
- สำหรับเพิ่มการทำงานทางจิต: สารสกัดมาริไทม์ 100-150 mg ทุกวันนาน 3-12 เดือน
- สำหรับโรคที่จอตา: สารสกัดมาริไทม์ 50 mg สามครั้งต่อวันนาน 2 เดือน
เด็ก
รับประทาน:
- สำหรับภาวะหอบหืด: สารสกัดมาริไทม์ 1 mg ต่อน้ำหนักร่างกาย โดยแบ่งเป็นสองโดสนาน 3 เดือนสำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุ 6-18 ปี