โรคสมาธิสั้น (Attention-deficit hyperactivity disorder: ADHD) เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมหุนหันพลันแล่น อยู่ไม่นิ่ง ไม่มีสมาธิ โรคนี้พบบ่อยในเด็ก แต่อาการของโรคยังสามารถคงอยู่จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ได้
ADHD ต่างจาก ADD อย่างไร?
เดิมทีโรคสมาธิสั้นใช้ชื่อว่า "Attention deficit disorder (ADD)" จนถึงปี ค.ศ. 1987 ก่อนที่จะมีการเพิ่มคำว่า "hyperactivity" เข้าไป
ปรึกษาสุขภาพจิต วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 882 บาท ลดสูงสุด 51%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ทำให้โรคนี้มีชื่อว่า "Attention-deficit hyperactivity disorder (ADHD)" ตามที่ระบุไว้ในคู่มือการวินิจฉัย และสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิต (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) ที่กำหนดโดยสมาคมจิตเวชศาสตร์สหรัฐอเมริกา
ในปัจจุบันยังมีการใช้คำว่า "ADD" และ "ADHD" ในความหมายเดียวกัน หรือบางคนอาจเรียกเด็กที่มีปัญหาด้านสมาธิ แต่ไม่มีพฤติกรรมซน หรือไฮเปอร์ หุนหันพลันแล่นว่า "กลุ่ม ADD"
แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากเห็นด้วยว่าคำว่า ADD ถือเป็นคำที่ล้าสมัยไปแล้ว และการใช้คำนี้เป็นการระบุถึงโรคอาจทำให้เกิดความสับสนได้ เพราะว่าโรค ADHD ก็มีประเภทย่อยต่างๆ ที่สามารถอธิบายแต่ละภาวะได้อยู่แล้ว
สาเหตุของโรคสมาธิสั้น
โรคสมาธิสั้นมีสาเหตุหลักมาจากความบกพร่องในการทำงานของสมองในส่วนทำหน้าที่ควบคุมสมาธิ การยับยั้งชั่งใจ และการเคลื่อนไหวของร่างกาย มีอาการสำคัญ 3 อย่าง ได้แก่ สมาธิสั้น ขาดความยั้งคิด หรือหุนหันพลันแล่น และมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่ง
อาการของโรคสมาธิสั้น
อาการสมาธิสั้นในเด็ก
หากโรคสมาธิสั้นเกิดขึ้นในเด็กก็จะสังเกตได้ว่า เด็กมีพฤติกรรมซนกว่าเด็กปกติในวัยเดียวกัน แต่โรคนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสติปัญญา เพราะเมื่อเด็กสมาธิสั้นได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง ก็จะสามารถเรียนรู้ได้เหมือนเด็กปกติ พฤติกรรมหลักๆ ที่เด็กโรคสมาธิสั้นแสดงออกมา ได้แก่
- อาการขาดสมาธิ (inattention) เด็กจะมีอาการเหม่อลอย วอกแวก คล้อยตามสิ่งเร้าได้ง่าย ไม่สามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ รวมถึงมีพฤติกรรมเรียน ทำงาน ทำการบ้านไม่เสร็จเรียบร้อย
- อาการอยู่ไม่นิ่ง (hyperactivity) เด็กจะมีพฤติกรรมชอบปีนป่าย วิ่งไปวิ่งมา ส่งเสียงดัง อาจชอบเข้าไปก่อกวนเพื่อนๆ หรือคนรอบตัว แต่อาการนี้อาจดีขึ้นเมื่อเด็กโตเป็นวัยรุ่น ซึ่งอาจเหลือแค่พฤติกรรมมือไม้อยู่ไม่สุข กระดิกขาอยู่บ่อยๆ
- อาการหุนหันพลันแล่น (impulsivity) เด็กจะขาดการยั้งคิด ไม่มีการไตร่ตรองก่อนการกระทำใดๆ มีความวู่วาม พูดจาขวานผ่าซาก คล้ายมีพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบพูดแทรก พูดเสียงดังขึ้นมาระหว่างที่ผู้อื่นพูดอยู่ อาการนี้อาจดีขึ้นเมื่อเด็กโตเป็นผู้ใหญ่ เริ่มเรียนรู้ และมีวุฒิภาวะมากพอ
อาการสมาธิสั้นในผู้ใหญ่
ผู้ใหญ่ที่เป็นโรคนี้ทุกคนจะมีอาการตั้งแต่เด็ก แต่อาจไม่ได้รับการวินิจฉัย หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ ทำให้ผู้ปกครอง หรือพ่อแม่คิดว่า เด็กเพียงแต่มีนิสัยดื้อรั้นเท่านั้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการของโรคสมาธิสั้นที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ ได้แก่
- มาทำงานสายเป็นประจำ
- ทำงานตกๆ หล่นๆ ผิดพลาดบ่อยจนถูกตำหนิบ่อยครั้ง
- เหม่อลอยเวลาทำงานที่ต้องใช้สมาธิ
- เบื่อง่าย
- ทำอะไรนานๆ ไม่ได้
- หลงๆ ลืมๆ บ่อย
- ส่งงานไม่ทันตามกำหนด
- ชอบพูดแทรกคนอื่น หรือพูดจากระโชกโฮกฮาก เสียงดัง
- เครียด
- หงุดหงิดง่าย
ผู้ป่วยโรคนี้หลายคนไม่รู้ว่าตนเองมีภาวะนี้ โดยอาจแค่รู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ที่ต้องทำในแต่ละวันนั้นเป็นเรื่องที่ลำบาก และท้าทายเท่านั้น จึงทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
ในขณะเดียวกัน คนรอบข้างก็ไม่เข้าใจ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว และความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ทั้งนี้บางคนอาจสังเกตว่า อาการของตนเองค่อยๆ ดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ในขณะที่อีกหลายคนยังคงมีอาการอยู่อย่างต่อเนื่อง
สาเหตุ และปัจจัยเสี่ยงของโรคสมาธิสั้น
ผู้เชี่ยวชาญยังคงไม่แน่ใจว่า โรคสมาธิสั้นเกิดจากอะไร แต่ปัจจัยที่อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคสมาธิสั้นในเด็ก ได้แก่
- พันธุกรรม โรคนี้มีการถ่ายทอดในครอบครัว แม้ว่าจะยังไม่สามารถระบุยีนที่เป็นสาเหตุของโรคนี้ได้ชัดเจน
- การสัมผัสสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะตะกั่ว
- การใช้แอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ระหว่างตั้งครรภ์
- การได้รับบาดเจ็บ หรืออันตรายของสมอง
- การคลอดก่อนกำหนด หรือมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์
ภาวะแทรกซ้อนของโรคสมาธิสั้น
หากไม่ได้รับการรักษา โรคนี้อาจทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น
- ล้มเหลวทางการศึกษา
- ไม่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- มีความเชื่อมั่นในตนเองต่ำ
- เกิดอุบัติเหตุ และได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง
- ติดแอลกอฮอล์ หรือยาเสพติด
- ทำพฤติกรรมที่ผิดกฏหมาย
- มีปัญหาในการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน
- เพื่อนน้อย หรือแทบไม่มีสังคม
โรคที่สามารถเกิดร่วมกับโรคสมาธิสั้นได้
เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอื่นร่วมด้วย เช่น
- โรควิตกกังวล
- ภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้
- โรคซึมเศร้า
- โรคอารมณ์สองขั้ว หรือไบโพลาร์ (ภาวะที่มีอาการทั้งซึมเศร้า และร่าเริงเกินปกติ)
- โรคดื้อ (Oppositional defiant disorder: ODD) เป็นโรคที่ส่งผลให้มีอาการต่อต้านกฎระเบียบทุกรูปแบบ
- โรคเกเร (Conduct disorder) เป็นโรคที่มีพฤติกรรมในแง่ลบ เช่น โกหก ขโมยของ ใช้กำลัง หรือล้อเลียนผู้อื่น
- Tourette syndrome เป็นกลุ่มอาการความผิดปกติทางระบบประสาทที่จะมีพฤติกรรมซ้ำๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ
- ปัญหาทางการนอนหลับ
- ปัสสาวะรดที่นอน
หากมีข้อสงสัยว่า คุณ หรือคนที่คุณรักมีพฤติกรรมการแสดงออกซึ่งใกล้เคียงกับโรคสมาธิสั้น ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง หรือจิตแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย หาข้อบ่งชี้ และรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป หากป่วยจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ และมีความสุขมากยิ่งขึ้น
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจแนะนำคุณแม่มือใหม่ จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android
อยากรู้อาการของการเป็นสมาธิสั้นในผู้ใหญ่