เสมหะคือ เยื่อเมือกในลำคอซึ่งโดยปกติจะมีอยู่ในลำคอ ปอด จมูก รวมถึงโพรงอากาศในกะโหลกศีรษะอยู่แล้ว แต่เสมหะจะถูกผลิตมากขึ้น เมื่อร่างกายเกิดอาการเจ็บป่วยรวมถึงเมื่อมีอาการจากโรคไข้หวัดด้วย
สีของเสมหะบ่องบอกอะไร?
เสมหะที่ผลิตออกมามากในช่วงที่ป่วยยังแบ่งออกได้หลายสีตามอาการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งสามารถแจกแจงได้ดังนี้
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
1. เสมหะสีใส
เป็นสีเสมหะที่ร่างกายผลิตออกมาทุกวันอยู่แล้ว โดยเสมหะสีใสจะประกอบไปด้วยสารโปรตีน สารน้ำ และสารภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะคอยทำหน้าสร้างความหล่อลื่น และความชุ่มชื้นให้กับระบบทางเดินหายใจ
หากพบว่า เสมหะมีสีใสและมีปริมาณเพิ่มขึ้น นั่นอาจเป็นสัญญาณบอกว่า ร่างกายของคุณกำลังชะล้าง หรือกำจัดสิ่งสกปรก สารระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ หรือเชื้อไวรัสออกจากร่างกาย
โรคที่ทำให้เกิดเสมหะสีใสเพิ่มขึ้น จะได้แก่ โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอักเสบ
2. เสมหะสีเขียว หรือเหลือง
เป็นสีเสมหะที่กำลังบอกว่า ร่างกายกำลังต่อสู้อยู่กับเชื้อโรค โดยสีเสมหะสีเขียว หรือเหลืองมีที่มามาจากเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าป้องกันเชื้อโรคไม่ให้ทำอันตรายต่อร่างกาย
ในช่วงแรกของการเกิดเสมหะ อาจสังเกตว่า เสมหะเป็นสีเหลือง จากนั้นจึงค่อยเปลี่ยนเป็นสีเขียว ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคที่อาจมากขึ้น หรือระยะเวลาที่ร่างกายจะต้องขับเชื้อโรคออกไปซึ่งอาจยาวนานกว่าเดิม
โรคที่มักทำให้เกิดเสมหะสีเขียว หรือเหลือง จะได้แก่ โรคหลอดลมอักเสบ โรคทางพันธุกรรมอย่างโรคซิสติก ไฟโบรซิส (Cystic Fibrosis) อาการปอดบวม ภาวะไซนัสอักเสบ
ตรวจปอด วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 290 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ในบางครั้งเสมหะสีเหลืองยังสามารถเกิดได้จากการมีเสมหะค้างในลำคอเป็นเวลานานได้อีกด้วย เช่น เสมหะหลังตื่นนอนในตอนเช้า แล้วกลับมาเป็นสีใสในช่วงเวลาอื่นๆของวัน
3. เสมหะสีแดง หรือสีชมพู
เสมหะสีแดง หรือสีชมพู มักเกิดจากมีเลือดปนมากับเสมหะจนกลายสีดังกล่าว อาจเกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลว โรคฝีในปอด โรคมะเร็งปอด โรคปอดอักเสบ โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary Embolism) การติดเชื้อวัณโรค
หรือ การระคายเคืองจากสารระคายเคืองต่างๆ หรือการบาดเจ็บบริเวณจมูก ลำคอ และทางเดินหายใจได้อีกด้วย
4. เสมหะสีน้ำตาล
เสมหะสีน้ำตาลมักมาจากเลือดเก่าที่ยังคั่งอยู่ในลำคอ เป็นเสมหะที่มักเกิดขึ้นภายหลังจากมีเสมหะสีแดง หรือสีชมพู
โรคที่มักทำให้เกิดเสมหะสีน้ำตาล จะได้แก่ โรคหลอดลมอักเสบ โรคซิสติก ไฟโบรซิส โรคฝีในปอด อาการปอดบวม โรคฝุ่นจับปอด (Pneumoconiosis)
5. เสมหะสีขาว
เป็นสีเสมหะที่อาจเกิดจากการกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ของเหลวจากอาการบวมน้ำ ความพยายามรับสารออกซิเจนให้เพียงพอของร่างกาย ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มาจากโรคหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคกรดไหลย้อน
โปรแกรมตรวจสุขภาพวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 99 บาท ลดสูงสุด 96%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
หากมีเสมหะสีขาวร่วมกับมีอาการหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้การรับประทานผลิตภัณฑ์จากนมมากเกินไป อาจทำให้น้ำมูกที่มีอยู่เดิมไหลลงคอมีสีขาวขุ่นได้ เนื่องจากไขมันในผลิตภัณฑ์จากนม ทำให้น้ำมูกมีความเหนียวข้นขึ้น จึงมีสีขาวขุ่น
6. เสมหะสีดำ
มีอีกชื่อเรียกว่า “Melanoptysis” เสมหะสีดำมักหมายถึง สารสีดำบางอย่างที่เผลอรับเข้าร่างกายเข้าไปเป็นจำนวนมาก เช่น ควันดำ หรือเป็นสัญญาณบอกว่า ร่างกายกำลังติดเชื้อรา (Fungal infection)
โรคที่มักทำให้เกิดเสมหะสีดำ ได้แก่ โรคติดเชื้อรา ฝีในปอด โรคฝุ่นจับปอด หรืออาจเกิดจากการสูบบุหรี่
นอกจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสมบางอย่าง รวมถึงอาการเจ็บป่วยอื่นๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดเสมหะได้ เช่น
- อยู่ในอากาศร้อน หรือแห้งมากเกินไป
- การใช้เสียงผิดวิธี หรือใช้เสียงพูดมาก ทำให้จมูกไม่ได้กรองสารระคายเคือง และปรับอากาศที่หายใจเข้าไปให้อุ่นชื้นขึ้น
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อยๆ
- ดื่มน้ำน้อย
- ดื่มเครื่องดื่มประเภทที่มีคาเฟอีนมากเกินจำเป็น
- การอาเจียนบ่อยๆ
- มีพังผืดในลำคอ
- มีก้อนเนื้องอกในลำคอ
- การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในลำคอ เช่น เชื้อโรคซิฟิลิส
- โรคหอบหืด
- โรคไซนัสอักเสบ
วิธีรักษาการมีเสมหะ
- ยาแก้คัดจมูก ยาชนิดนี้จะทำให้หลอดเลือดในทางเดินหายใจหดตัว จึงทำให้การไหลเวียนของเลือดลดน้อยลง และช่วยลดปริมาณของเสมหะที่ถูกผลิตในจุดนั้นได้
แต่หากใช้ยาเกินขนาด ยาเหล่านี้จะทำให้เยื่อเมือกแห้ง ซึ่งส่งผลให้เสมหะที่ถูกผลิตมีความเหนียวข้น ผลข้างเคียงที่พบจากการใช้ยาแก้คัดจมูก ได้แก่ เวียนศีรษะ อยู่ไม่สุข กระวนกระวาย และความดันโลหิตสูง - ยาแก้แพ้ ยาชนิดนี้จะปิดกั้น หรือลดการทำงานของฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายผลิตขึ้นในขณะที่เกิดอาการแพ้ ยาแก้แพ้มักมีผลข้างเคียง เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ ปากแห้ง และปวดศีรษะ
- การล้างจมูก เป็นวิธีชำระล้างเมือกส่วนเกินซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้หลอดฉีดยา หรือขวดบีบที่ผสมน้ำเกลือฉีดเข้าไปในรูจมูก เพื่อทำให้เมือกในโพรงจมูกขยายตัวและขับออกมา การล้างจมูกจะช่วยทำให้เมือกมีจำนวนน้อยลง และกำจัดสารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ออกจากจมูกได้
นอกจากการรักษาที่กล่าวไปข้างต้น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างก็จะช่วยรักษาและป้องกันอาการมีเสมหะมากให้ลดลง เช่น
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีนชั่วคราว
- อาบน้ำอุ่น หรือน้ำร้อน เพราะไอความอุ่นชื้นจากน้ำจะเข้าไปช่วยเปิดทางเดินหายใจในลำคอ ช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น
- จิบน้ำอุ่นอยู่บ่อยๆ
- งดดื่มน้ำเย็นชั่วคราว
- รับประทานผลไม้ที่มีใยอาหาร รวมถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของถั่วเหลือง จะช่วยให้อาการมีเสมหะบรรเทาลง
- หลีกเลี่ยงการอยู่สถานที่ที่มีมลพิษทางอากาศมาก เพื่อไม่ให้ร่างกายรับเอาสิ่งสกปรก และเชื้อโรคเข้าไปเพิ่ม
การมีเสมหะมากเป็นสัญญาณบอกว่า คุณยังดูแลร่างกายของตนเองได้ไม่ดีพอ ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสมหะมากจนรบกวนชีวิตประจำวัน คุณจึงต้องรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดเสมหะมากขึ้น
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพผู้และผู้ชายทุกวัย จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android