อาการสับสน เพ้อ คลุ้มคลั่ง สูญเสียการรับรู้ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึง ภาวะเพ้อ (Delirium) ซึ่งเป็นอาการทางจิตที่มักมีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางร่างกาย แม้จะไม่ถึงกับเป็นภาวะที่พบบ่อย แต่ก็สร้างความทรมานให้แก่ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดอย่างมาก เราจึงควรรู้ข้อมูลไว้ หากมีคนใกล้ตัวเกิดอาการขึ้นจะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที
อาการของภาวะเพ้อคลั่ง
ที่พบบ่อยๆ คือผู้ป่วยมักมีอาการสับสน คลุ้มคลั่ง อารมณ์แปรปรวน โดยอาการอาจเกิดขึ้นหลายชั่วโมง จนถึงหลายวัน หรือเป็นๆ หายๆ และอาการมักกำเริบเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย หรือในเวลากลางคืน ลักษณะอาการที่โดดเด่นของภาวะนี้ ได้แก่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- อารมณ์แปรปรวน เช่น
- รู้สึกหวาดระแวง หรือวิตกกังวลกว่าปกติ
- หงุดหงิดง่าย อารมณ์ร้อน
- ซึมเศร้า หม่นหมอง ขาดชีวิตชีวา
- อารมณ์เปลี่ยนแปลงกะทันหัน โดยบางครั้งไม่ทราบสาเหตุ
- พฤติกรรมเปลี่ยนไป เช่น
- กระวนกระวาย ไม่อยู่นิ่ง
- มีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
- เอะอะโวยวาย
- เห็นภาพหลอน ภาพลวงตา
- นอนไม่หลับ ง่วงซึม บางครั้งฝันร้ายบ่อยๆ
- ซึม เก็บตัว ไม่อยากสุงสิงกับใคร
- บางครั้งอาจจำคนใกล้ชิดไม่ได้
- สูญเสียการรับรู้
- ขาดสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่างๆ
- หากอาการรุนแรง จะไม่รับรู้และไม่ตอบสนองต่อบทสนทนา
- ขาดปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
- สูญเสียทักษะการคิด
- ความคิดสับสนเลอะเลือน จำเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ รวมถึงคนรู้จักด้วย
- สื่อสารลำบาก เนื่องจากมักมีปัญหาในการคิดคำพูด
- ทักษะการอ่าน เขียน และการทำความเข้าใจแย่ลงด้วย
สาเหตุของภาวะเพ้อคลั่ง
ภาวะเพ้อคลั่งมักเกิดจากความผิดปกติทางร่างกาย ซึ่งทำให้การรับส่งกระแสประสาทของสมองผิดปกติไป ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
- มีภาวะสมองขาดออกซิเจน
- มีไข้สูงเฉียบพลัน หรือติดเชื้อในกระแสเลือด
- มีระดับแร่ธาตุในร่างกายผิดปกติ เช่น โซเดียมและแคลเซียมในเลือดต่ำ
- มีภาวะร่างกายขาดน้ำ
- ฮอร์โมนผิดปกติ เช่น ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
- เป็นผลจากการใช้ยาบางชนิดต่อเนื่องกัน เช่น ยาต้านโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคพาร์กินสัน ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยารักษาโรคหืด ยาแก้ปวด
- เมามายจากการดื่มแอลกอฮอล์ หรือเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง
- ติดสารเสพติดให้โทษ
- ได้รับสารพิษบางชนิด
- มีอายุมาก ซึ่งภาวะนี้พบได้ค่อนข้างบ่อยในผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
- มีโรคประจำตัว เช่น โรคสมองเสื่อม โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง
- สาเหตุอื่นๆ เช่น ความเครียด หรือมีปัญหาด้านสุขภาพจิต
การดูแลผู้ป่วยที่มีภาวะเพ้อคลั่ง
หากพบว่าคนใกล้ชิดมีอาการผิดปกติดังที่กล่าวมา ให้เราหมั่นดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของผู้ป่วย เพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น โดยมีแนวทางดังนี้
- หลีกเลี่ยงการแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือทะเลาะกับผู้ป่วย ควรพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและเป็นมิตร
- หมั่นเน้นย้ำชื่อของผู้ป่วยและบุคคลรอบข้างเพื่อให้ผู้ป่วยจำได้
- ใช้คำพูดที่เข้าใจง่ายพูดคุยกับผู้ป่วย และคอยย้ำให้ผู้ป่วยทำกิจวัตรประจำวันที่จำเป็นต่างๆ ตามเวลาที่เหมาะสม เช่น ให้นอนตอนกลางคืน ตื่นตอนกลางวัน ทานอาหารครบทุกมื้อ
- นำสิ่งของที่ผู้ป่วยคุ้นเคยมาวางไว้ใกล้ๆ เช่น รูปถ่าย หรือของที่ชอบ เพื่อให้ผู้ป่วยมีจิตใจสงบ
- จัดที่พักอาศัย โดยเฉพาะห้องนอนผู้ป่วยให้เป็นระเบียบ โล่ง อากาศถ่ายเท เงียบสงบ และมีแสงสว่างเพียงพอ
- กระตุ้นให้ผู้ป่วยขยับร่างกายอยู่เสมอ เช่น ออกกำลังกายเบาๆ หรือเดินยืดเส้นยืดสาย
การรักษาภาวะเพ้อคลั่ง
- การประคับประคองอาการ โดยส่วนมากภาวะเพ้อคลั่งมักเป็นผลมาจากความผิดปกติทางกาย จึงต้องเน้นรักษาโรคทางกายเป็นหลัก และประคับประคองสภาพจิตใจไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน รุนแรง เช่น พยายามฟื้นฟูทักษะการคิดและความจำของผู้ป่วย ให้แพทย์และพยาบาลคอยดูแลอาการอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ผูกยึดที่จำกัดการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย
- การรักษาด้วยยา ยาที่ใช้ ได้แก่ ยารักษาอาการเพ้อ สับสน ยากลุ่มเบนโซไดอะซีปีน (Benzodiazepine) ที่ช่วยบรรเทาอาการเพ้อคลั่งจากพิษสุรา เช่น Diazepam ซึ่งการใช้ยาต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์เสมอ
- การส่งเสริมด้านสุขภาพอื่นๆ ได้แก่ การจัดอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ การจัดที่พักอาศัยให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดโปร่ง สบายใจ จะช่วยยับยั้งการกำเริบของอาการได้
การป้องกันภาวะเพ้อคลั่ง
อาการสับสนคลุ้มคลั่งอาจเกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ผู้ใช้ยาและสารเสพติด รวมถึงคนที่มีอายุมาก ดังนั้น ในฐานะคนใกล้ชิด เราอาจช่วยป้องกันภาวะเพ้อคลั่งได้ โดย...
- หมั่นสังเกตอาการของคนใกล้ตัว หากมีความผิดปกติ เช่น เก็บตัว ซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน ควรพาไปพบแพทย์
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาและสารเสพติดให้โทษต่อเนื่องเป็นเวลานาน รวมถึงหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักด้วย
- หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ความเครียด โรคภัยไข้เจ็บ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและพักผ่อนให้เพียงพอ