พรุน
ลูกพลัมสีดำนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ 4,873 ชนิดในขณะที่พรุนตากแห้งขนาด ½ ถ้วยนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 7201 ชนิด
ลูกเกด
เช่นเดียวกัน องุ่นแดงนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ 2016 ชนิด ในขณะที่ลูกเกดนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ 2490 ชนิด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่าผักและผลไม้อื่นๆ กว่า 40 ชนิด การรับประทานบลูเบอร์รี่ป่า 1 ถ้วยนั้นจะทำให้ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระ 13,427 ชนิดซึ่งคิดเป็น 10 เท่าของปริมาณที่แนะนำ ในขณะที่การรับประทานบลูเบอร์รี่จากฟาร์มนั้นจะทำให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระ 9019 ชนิดต่อถ้วย
แบล๊กเบอร์รี่
แบล๊กเบอร์รี่นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระแต่ก็มี polyols ซึ่งเป็นสารที่มักนำมาใช้ทำสารให้ความหวานแทนน้ำตาล (ซึ่งมักทำให้เกิดอาการมวนผิดปกติในทางเดินอาหาร)
สตรอเบอร์รี่
สตรอเบอร์รี่นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูงซึ่งจะช่วยป้องกันเซลล์ที่ดีจากมะเร็งหลายชนิดเช่นเดียวกับบลูเบอร์รี่และราสเบอร์รี่
ราสเบอร์รี่
งานวิจัยพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ ellagic acid (ซึ่งพบในราสเบอร์รี่ ทับทิม วอลนัทและแครนเบอร์รี่) นั้นเพิ่มความสามารถของสาร quercetin (สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในแอปเปิ้ล องุ่น หัวหอม) ในการต้านมะเร็ง
พลัม
ลูกพลัมสีดำนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 4873 ชนิด การรับประทานแบบตากแห้ง (พรุน) นั้นจะได้มากกว่าแบบสดเล็กน้อย
ส้ม
ส้ม มะม่วง พีช และแตงโมนั้นอุดมไปด้วยาร beta-cryptoxanthin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นหนึ่งในสารที่มีงานวิจัยพบว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้ออักเสบได้ 20-40%
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
องุ่นแดง
องุ่นแดงเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพและให้พลังงานต่ำ โดยองุ่น 20 ลูกนั้นให้พลังงานเพียง 100 แคลอรี่เท่านั้น
เชอร์รี่
เชอร์รี่นั้นเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อเมลาโทนิน สารนี้จะช่วยป้องกันผิวหนังจากรังสีเหนือม่วง นักวิจัยพบว่าสารนี้ยังช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่เสียจากการอาบแดดอีกด้วย เนื่องจากมันช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังใหม่ เชอร์รี่ยังอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจนซึ่งช่วยป้องกันริ้วรอยได้
Kale
Kale นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินและยังมีเบต้าแคโรทีนและ lutein และ zeaxanthin
ผักโขม
ผักโขมนั้นอุดมไปด้วยสารแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ตามีสุขภาพดีและป้องกันภาวะจอประสาทตาเสื่อมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตาบอดในผู้สูงอายุ
Brussels Sprouts
Brussels Sprouts นั้นมีสาร sulforaphane และ isothiocyanates จำนวนมากซึ่งทำหน้าที่สลายสารพิษที่ทำให้เกิดมะเร็งภายในร่างกาย งานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทาน Brussels Sprouts ทุกวันเป็นเวลา 3 สัปดาห์นั้นมีความเสี่ยงในการเกิดการทำลายพันธุกรรมลดลง 28% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทาน
Alfafa Sprouts
ผักชนิดนี้อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันการเกิดโรคมะเร็งปอดและช่วยทำให้ผิวหนัง ผม เล็บ เหงือก กระดูกและฟันมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งของวิตามินอีซึ่งอาจจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดสมองตีบ และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะอีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
บรอคโคลี่
บรอคโคลี่นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ป้องกันการเกิดมะเร็ง งานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทานผักที่เป็นดอกเช่นบรอคโคลี่สัปดาห์ละอย่างน้อย 5 ถ้วยนั้นมีโอกาสในการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มที่แทบไม่ได้รับประทานผักเหล่านี้
หัวบีท
บีทนั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพเช่นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย 5 ชนิด แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียมและโปรตีน
พริกหยวกสีแดง
พริกหยวกขนาดกลาง 1 อันนั้นให้พลังงานน้อยแต่มีวิตามินซีในปริมาณที่สูงซึ่งคิดเป็น 150% ของปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยป้องกันภาวะเส้นเลือดแดงแข็งซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหัวใจได้
หัวหอม
คุณจะได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระในหัวหอมมากที่สุดหากรับปรัทานดิบๆ การนำไปปรุงอาหารที่ความร้อนสูงนั้นจะทำให้ประโยชน์ของสารที่อยู่ภายในซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปอดและต่อมลูกหมากลดลง
ข้าวโพด
งานวิจัยหนึ่งพบว่ายิ่งนำข้าวโพดไปทำอาหารนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้มีระดับของสารต้านอนุมูลอิสระเช่น lutein ซึ่งช่วยป้องกันการตาบอดในผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้น
มะเขือม่วง
มะเขือม่วงทุกชนิดนั้นมีสาร chlorogenic acid ซึ่งป้องกันการสะสมของไขมันที่ผนังเส้นเลือดแดงในปริมาณที่สูง ในห้องทดลองยังพบว่าสามารถช่วยลดระดับ cholesterol และทำให้ผนังเส้นเลือดแดงคลายตัวซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง