คือมีอาการปวดปัสสะวะบ่อยค่ะ กลางคืนก็มีปวดบ่อยๆบ้างกลางวันก็ด้วยค่ะ มีความรู้สึกจะอั้นไม่ค่อยได้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ปกติค่ะ บางทีรู้สึกปวดปัสสะวะมากพอไปฉี่ก็ไม่ใด้เยอะเหมือนกับอาการที่ปวด อยากทราบว่าแบบนี้ผิดปกติอะไรไหมคะ

สวัสดีครับ
อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย อาจเป็นได้หลายสาเหตุครับ เช่น
- การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection) จะมีอาการปวดท้องน้อยร่วมกับอาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น ในผู้ป่วยที่มีการอักเสบติดเชื้อของกรวยไต (Acute pyelonephritis) จะมีอาการไข้ หนาวสั่นและปวดเอว
- การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีอาการปวดท้องน้อย มักเกิดร่วมกับการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคหนองใน
สาเหตุที่กล่าวมาเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ยังมีอีกหลายสาเหตุครับ ซึ่งการวินิจฉัยต้องอาศัยการซักประวัติ และตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ ดังนั้นแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจและให้การรักษาครับ

อาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด อาจเกิดจากการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะได้ค่ะ

การวินิจฉัยที่แน่นอน คือการเก็บปัสสาวะไปตรวจ ถ้ามีการอักเสบติดเชื้อจะพบเซลล์เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะมากกว่าปกติค่ะ

การรักษาคือการให้ยาฆ่าเชื้อ โดยจะให้แบบรับประทาน หรือแบบฉีด ขึ้นกับความรุนแรงของการติดเชื้อค่ะ

ถ้ามีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดปั้นเอว ร่วมด้วยอาจมีการติดเชื้อที่ไตด้วย ต้องรีบไปพบแพทย์ค่ะ

แนะนำให้ไปพบแพทย์ตามสิทธิการรักษาครับ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml

สวัสดีครับ
หากสิทธิ อยู่ต่างจังหวัด อาจมีค่าใช้จ่ายเล็กน้อยในการตรวจประเมินอาการครับ

อาการปัสสาวะบ่อย อาจมีสาเหตุมาจากหลายอย่างครับ ตัวอย่างเช่น
-การดื่มน้ำปริมาณมาก หรือ การชอบทานชา กาแฟ (คาเฟอีน) ซึ่งมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ
- การติดเชื้อ ทางเดินปัสสาว เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ เป็นต้นอาการคือ จะรู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะตลอดเวลา ปัสสาวะแสบขัด บางคนอาจมีการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย หรือบางคนอาจทีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง ซึ่งโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนี้ สามารถเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และ แบคทีเรีย ค่ะ ข้อแนะนำเบื้องต้น คือ ควรได้รับการตรวจร่างกาย เพิ่มเติม อาจจะต้องตรวจปัสสาวะ และได้รับยาฆ่าเชื้อค่ะ ช่วงนี้แนะนำว่าให้ดื่มน้ำมากๆ และงดกลั้นปัสสาวะนะครับ
โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ถ้าเป็นไม่มาก ก็อาจจะเป็นเพียงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่หากคนไข้ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ชอบกลั้นปัสสาวะ เป็นต้น และไม่รักษา อาจทำให้ลุกลามไปถึง กรวยไตและไตได้ครับ

>>โรคอื่นๆ ที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยได้ เช่น

-อาการเริ่มแรกของโรคเบาหวาน อาจทำให้มีการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะมาก น้ำหนักลด หิวบ่อย
-เบาจืด อาจปัสสสวะมาก และบ่อย
-ยาบางชนิด และการดื่มน้ำมากๆ
-ภาวะกระเพาะปัสสาวะทำงานมากกว่าปกติ
-สำหรับเพศชายที่อายุมาก อาจเกิดจากต่อมลูกหมากโต ได้ครับ
-ภาวะทางจิตใจ เช่น ความเครียด วิตกกังวล เป็นต้น

ดังนั้น หากอาการดังกล่าว รบกวนชีวิตประจำวัน ควรไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุเพิ่ทเติมนะครับ

สามารถไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลรัฐที่ใกล้สุด แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ โดยอาจเกิดได้จากสาเหตุ เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และ การบีบคลายตัวของกระเพาะปัสสาวะ ทำงานไม่สัมพันธ์กัน หรือ ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้ (urinary incontinence)

ฉะนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ เพื่อหาการติดเชื้อเพิ่มเติม เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ